อิมแพ็ค 10 ก.ย..-ศบค. ประชุมบุคลากรและเครือข่าย เพื่อซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติงานในการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
สำนักงานประสานงานกลางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติงานในการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 1 แก่บุคลากรของหน่วยราชการและเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลาง และระดับจังหวัด ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้การบริหารจัดการงานในระดับจังหวัดและเตรียมแผนรับมือการระบาดของโรคโควิด 19 ระลอกใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก / รองหัวหน้าสำนักงานประสานงานกลางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างแนวทางการปฏิบัติงานในการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อซักซ้อมความเข้าใจแนวปฏิบัติในการบริหารจัดการงานระดับส่วนกลาง และระดับจังหวัด ทั้งภาครัฐและเอกชนจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ต่อกิจการและกิจกรรมของทุกภาคส่วน และเตรียมแผนรับมือการระบาดของโรคโควิด 19 ระลอกใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมทั้งรับฟังข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด บุคลากรสาธารณสุขและเครือข่ายการดำเนินงานในระดับพื้นที่ ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้มาตรการ แนวทาง และนวัตกรรมในการดำเนินงาน
พลเอกณัฐพล กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทย สามารถควบคุมได้ในวงจำกัด จึงได้มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโรค เช่น การให้เปิดดำเนินการของสถานที่ กิจการหรือกิจกรรม ที่อาจมีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาด รวมถึงมีการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งขณะที่ในต่างประเทศ ยังพบการระบาดและมีจำนวนผู้ติดเชื้อในระดับสูง เพื่อเตรียมความพร้อมรับการระบาดของโรคระลอกใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หรืออาจมีความรุนแรงขึ้น และสร้างความเสียหายให้แก่ระบบเศรษฐกิจ สังคมของประเทศ ตลอดจนเพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัย ทางด้านสาธารณสุขของประเทศ เป้าหมายหลักของการบริหารสถานการณ์ในการป้องกันโรคโควิด19 ไม่ใช่การไม่มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศ แต่เป้าหมาย คือ สามารถตรวจจับผู้ติดเชื้อโรคได้ ควบคุมการแพร่ระบาดโรคได้ และรักษาโรคได้ ปัจจุบันมีพี่น้องประชาชนส่วนหนึ่งที่ประสบความเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาชีพของตนได้เหมือนกับในช่วงเวลาก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ดังนั้น หน่วยงานภาครัฐจะต้องเร่งรัดในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในกรอบความรับผิดชอบอย่างเต็มขีดความสามารถ
ด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเสริมว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรควิด 19 ทั่วโลกยังคงระบาดรุนแรง และต่อเนื่อง ขณะที่สถานการณ์ในประเทศไทย แม้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ แต่ต้องมีการเตรียมการรับการระบาดในระลอกที่ 2 ทั้งขีดความสามารถของระบบสาธารณสุขไทยที่มีกลไกการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่แบบบูรณาการ ซึ่งมีเจตนารมณ์ในการดำเนินงานเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยคำนึงถึงปัจจัยด้านสาธารณสุขเป็นสำคัญ ควบคู่กับปัจจัยด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างเหมาะสม ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดทั้งระดับโลก ระดับประเทศ และระดับพื้นที่
การประชุม จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-11 กันยายน 2563 มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 630 คน ประกอบด้วยผู้บริหารศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ คณะวิทยากรของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย ตลอดจนคณะทำงานของศูนย์บริหารสถานการณ์การโควิด 19 .-สำนักข่าวไทย