พระนคร24 ส.ค.-ตัวแทนศิษย์เก่าโรงเรียนราชินี นำ 999 รายชื่อ ยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อผู้บริหารโรงเรียน รับฟัง และเปิดพื้นที่ให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นในมาตรฐานเดียวกัน หลังออกประกาศห้ามใช้โรงเรียนเคลื่อนไหวทางการเมือง
ตัวแทนศิษย์เก่าโรงเรียนราชินี กล่าวภายหลังเดินทางเข้าพบผู้บริหารโรงเรียนราชินี เพื่อยื่นหนังสือเกี่ยวกับความกังวลต่อประกาศโรงเรียนราชินี ห้ามใช้โรงเรียนเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวทางการเมือง ว่า ที่มาวันนี้ไม่ได้เป็นการมาชุมนุม แต่มายื่นจดหมายเปิดผนึก ทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน จำนวน 999 รายชื่อ เพื่อแสดงจุดยืนตามที่ระบุไว้ในจดหมายทุกประกาศ และโรงเรียนได้รับข้อจดหมายและมีการพูดคุยตามปกติ
โดยทางศิษย์เก่าได้เสนอแนวทางการพูดคุย ให้ความรู้กับเด็ก ๆ ในอายุขนาดนี้ ทางโรงเรียนยินดีรับฟังแนวทางที่เราเสนอ พร้อมยอมรับว่า ทำได้เท่านี้ในฐานะศิษย์เก่า
ส่วนหลังจากนี้โรงเรียนจะมีแนวทางอย่างไรคงต้องเคารพสิทธิของโรงเรียนเช่นกัน สำหรับท่าทีของโรงเรียนวันนี้ เป็นปกติ เพราะเรามาในฐานะศิษย์เก่า นักเรียน กับคุณครู ไม่ได้มาเพื่อจะปะทะใคร แต่มาเพื่อพูดคุยอย่างสันติ และมีหลายๆเรื่องที่พูดคุย แต่ขอไม่เปิดเผยเพราะเป็นการภายใน
สำหรับเนื้อหาในจดหมายเปิดผนึก ระบุว่า
ตามที่โรงเรียนราชินีมีประกาศ เรื่อง ‘การเรียกร้องทางการเมืองโดยอ้างประชาธิปไตย’ ออกจดหมายเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2563 ฉบับที่ สผ.จ035/2563 ที่ผ่านมา ก่อให้เกิดความไม่สบายใจของศิษย์เก่าราชินีจำนวนมาก ถึงวัตถุประสงค์ของโรงเรียนในการออกประกาศฉบับนี้ ในประเด็นดังต่อไปนี้
ประการที่ 1 ตามที่ปรากฏในจดหมายว่า “…พื้นที่โรงเรียน ไม่เคยใช้ในทางการเมือง และไม่อนุญาตให้กลุ่มบุคคล หรือคณะบุคคลใดมาใช้พื้นที่ โดยผ่านนักเรียนหรือนักเรียนเก่า…” ขัดกับข้อเท็จจริงว่า ในอดีตที่ผ่านมาแม้ไม่ปรากฏชัดว่ามีการใช้พื้นที่ของโรงเรียนประกอบกิจกรรมทางการเมือง แต่ก็มีกลุ่มบุคคลซึ่งมีพฤติกรรมแอบอ้างนำชื่อของโรงเรียนไปใช้ทางการเมือง ตลอดจนแสดงความคิดเห็นในนามของโรงเรียนอยู่เสมอ โดยที่โรงเรียนไม่ได้โต้แย้ง ดังนั้นหากโรงเรียนต้องการแสดงออกถึงความเสมอภาคในกลุ่มศิษย์เก่าและนักเรียนปัจจุบันอย่างแท้จริง ต้องเปิดโอกาสให้นักเรียนศิษย์ปัจจุบันสามารถมีพื้นที่ในการแสดงออกทางความคิดเห็นในมาตรฐานเดียวกัน
ประการที่ 2 ตามหลักสิทธิขั้นพื้นฐานและประกาศของ ศธ 0211.6/10419 ที่ได้ประกาศให้สถานศึกษาคำนึงถึงความปลอดภัยของการแสดงออกของนักเรียน โรงเรียนควรเป็นพื้นที่แสดงความคิดเห็นและมีบทบาทสำคัญในการรับรองความปลอดภัยของนักเรียนให้ปราศจากการคุกคามทุกรูปแบบ
ประการที่ 3 สืบเนื่องจากประการที่ 2 ที่สถานศึกษาต้องคุ้มครองนักเรียนในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง แต่ทางโรงเรียนกลับกล่าวหานักเรียนว่า “…ก้าวล่วงสถาบันหลักของประเทศ…” ทั้งที่นักเรียนไม่ได้กระทำการใดอันอาจกล่าวได้ว่าเป็นการก้าวล่วง ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาอันร้ายแรง ดังนั้น โรงเรียนจึงควรตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ และในขณะที่ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดควรเป็นหลักยึดเหนี่ยวและสร้างขวัญกำลังใจให้นักเรียน รวมถึงสถาบันการศึกษาควรเป็นพื้นที่อันปลอดภัยสำหรับนักเรียนในการแสดงออกทุกรูปแบบ
ประการที่ 4 ตามที่ประกาศระบุว่ามีปัญหาการกลั่นแกล้งภายในโรงเรียน หากปรากฏว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ขอแสดงความเชื่อมั่นว่า ทางโรงเรียนย่อมจัดการปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างที่ดำเนินการมาตลอดตามครรลองของสถานศึกษาที่มีคุณภาพ และขอให้นักเรียนศิษย์ปัจจุบันแสดงความคิดเห็นทางการเมืองด้วยสันติวิธี โดยปราศจากการคุกคามหรือกลั่นแกล้งผู้เห็นต่างทางความคิด
ในฐานะตัวแทนศิษย์เก่าฯ จำนวนหนึ่ง ขอแสดงความห่วงใยศิษย์ปัจจุบันและขอความกรุณาจากโรงเรียนโปรดแสดงจุดยืนที่จะเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียนในการแสดงความคิดเห็นและแสดงออก โดยเชื่อมั่นว่าโรงเรียนจะเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นของนักเรียนเฉกเช่นที่นักเรียนได้รับฟังและปฏิบัติตามกฎของโรงเรียนมาโดยตลอด ซึ่งจะเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็น ลดช่องว่างทางความคิดและนำไปสู่ความเข้าใจและร่วมมือกันแก้ปัญหาได้ในที่สุด
บรรดาศิษย์เก่าที่มีรายนามข้างท้ายทุกคน ยังคงมีความรัก หวงแหน และตั้งใจที่จะสืบทอดวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีในส่วนที่ดีงามของโรงเรียนราชินีดังเดิม มิได้มีอคติหรือตั้งใจทำลายชื่อเสียงของโรงเรียนแต่อย่างใด ทั้งมิได้ต้องการก้าวล่วงหรือโจมตีความเชื่อความศรัทธาของบุคคลใด
ท้ายที่สุด ขอเป็นกำลังใจให้กับนักเรียนศิษย์ปัจจุบันที่กล้าหาญในการแสดงความคิดของตนเอง และขอเป็นกำลังใจให้กับคณะครูทุกท่านให้ผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ และเชื่อมั่นว่าโรงเรียนจะพัฒนาวิถีราชินีไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพื่อดำรงอยู่เป็นสถานศึกษาอันทรงเกียรติ และเป็นหลักยึดเหนี่ยวของศิษย์ทุกคนสืบไป .-สำนักข่าวไทย