“ณัฏฐพล” รับได้นักเรียนชู 3 นิ้ว แต่ต้องมีขอบเขต

กทม. 17 ส.ค.-รมว.ศึกษาฯ ชี้เป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก กรณีนักเรียนชู 3 นิ้วขณะเคารพธงชาติ แต่ต้องมีขอบเขต และพร้อมเป็นตัวแทนรัฐบาลรับฟังความเห็นและหาทางออกร่วมกัน


นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.)กล่าวถึงกรณีนักเรียนแสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว ขณะเคารพธงชาติช่วงเช้าวันนี้(17ส.ค.) หลังทวิตเตอร์รณรงค์ #โรงเรียนหน้าเขาไม่เอาเผด็จการ ว่า ตนเข้าใจเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนนักเรียนตนรับได้ทั้งนั้น แต่อย่างไรก็ตามต้องมีขอบเขต ถ้าหากการแสดงออกจะสร้างสรรค์หรือไม่สร้างสรรค์ก็แล้วแต่ สร้างความแตกแยกของประเทศหรือก่อให้เกิดปัญหาของสังคมในอนาคต ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำในขณะที่ประเทศต้องการความร่วมมือกัน ณ ขณะนี้ จึงอยากให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันพิจารณาอย่างเหมาะสม หากครูจะอธิบายให้เด็กๆฟังก็จะเป็นเรื่องที่ดี และรัฐบาลพร้อมรับฟังความเห็นต่างๆ และพร้อมจะหาทางออกร่วมกัน การท้าทายหรือการแสดงออกที่อาจทำให้เกิดความแตกแยกควรจะระมัดระวัง ตนคิดว่ามีการเปิดทางแล้วเพื่อให้มีการพูดคุยกัน และตนก็พร้อมจะเป็นตัวแทนของรัฐบาลในการพูดคุยกับนักเรียน นักศึกษา

ส่วนกรณีได้มีการกำชับไปยังผู้อำนวยการหรือผู้ปกครองหรือไม่ นายณัฏฐพล กล่าวว่า สิ่งที่ปฏิบัติกันมาในอดีตไม่ว่าจะเป็นการยืนตรงเคารพธงชาติเป็นเรื่องน่าชื่นชม และเป็นสิ่งสวยงามก็อยากจะรักษาไว้ ไม่อยากให้การแสดงออกบางอย่างทำให้เกิดความแตกแยก อยากให้นักเรียนระมัดระวัง ซึ่งตนเข้าใจดี การแสดงออกเป็นสิทธิ แต่อยากให้นึกถึงความละเอียดอ่อนที่ก่อให้เกิดความแตกแยกของสังคม และมั่นใจว่าครูและผู้บริหารเข้าใจในเรื่องละเอียดอ่อน การสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่งไปหากเป็นการกระตุ้นเข้าเข้าไปในกองเพลิง เราก็ไม่อยากทำ อยากให้ทุกคนมีความเข้าใจ และตนคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้นำนักเรียนหรือนักศึกษาเข้าใจสถานการณ์ดีว่าประเทศต้องการอะไร


ส่วนจะมีการจัดเวทีหารือร่วมกับนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการการอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม ในการพูดคุยกับนักเรียนนักศึกษา นายณัฏฐพล กล่าวว่า ตนทราบว่าในการชุมนุมต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นตัวตั้ง หากสามารถทำได้ในสถานที่ต่างๆที่มีความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยต่างๆก็ต้องดูความเหมาะสม ในเรื่องการขออนุญาตและความปลอดภัยเป็นหลัก

‘การชุมนุมในสถานที่ต่างๆ ขณะนี้ ก่อให้เกิดความไม่มั่นใจที่จะเข้ามาในประเทศไทย ยืนยันว่าเรื่องเศรษฐกิจ เป็นเรื่องสำคัญมากกว่าที่จะต่อสู้กันทางการเมือง เราต้องร่วมกันเดินหน้าให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ น้องๆที่จะไม่เข้าใจเรื่องตรงนี้ การเปลี่ยนแปลงไม่มีปัญหาตนเข้าใจแต่การที่ประเทศจะเดินไปข้างหน้าเศรษฐกิจต้องขับเคลื่อนไปให้ได้ก่อน ไม่อย่างนั้นเราออกมากันก็ไม่มีงานทำ เพราะไม่มีใครจะมาลงทุนในประเทศไทย อยากให้หันหน้าเข้าหากัน ซึ่งมั่นใจว่าเราสามารถหาทางออกได้” รมว.ศึกษาฯ กล่าว

นายณัฏฐพล กล่าวด้วยว่า ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรารับฟังความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง หากน้องๆคนใดเห็นว่ารัฐธรรมนูญมาตราใดมีปัญหาและจะต้องแก้ไขเพื่อให้มีประโยชน์ต่อประเทศ ขอให้นำเสนอ ฉะนั้นอยากให้มองเวทีกรรมาธิการศึกษาและแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นทางออก ที่จะให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประเทศ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ก.อุตฯ บุกตรวจโกดังเก็บพลาสติกไฟไหม้สมุทรสาคร

“ทีมสุดซอย” ขยายผลตรวจโรงงานรีไซเคิลพลาสติกเถื่อนสมุทรสาคร ที่เกิดเหตุไฟไหม้ พบเปลือกหุ้มสายไฟหลอมเป็นเม็ดพลาสติก มูลค่ากว่า 170 ล้านบาท อุตสาหกรรมจังหวัดฯ สั่งหยุดกิจการทันที พร้อมยึดใบอนุญาต ฟันข้อหาตั้ง-ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต

สนาม อบจ.ภูเก็ต แข่งขันเดือด คนทยอยใช้สิทธิ

ชาวภูเก็ตทยอยเข้าคูหาเลือกตั้ง อบจ. หลายฝ่ายจับตามองเป็นพิเศษ เพราะการแข่งขันดุเดือด ขณะที่ กกต. ตั้งเป้าผู้ใช้สิทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 65