กทม. ขยายรับเรื่องผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวถึง 2 พ.ค.

กทม. 26 เม.ย. – รองผู้ว่าฯ ทวิดา ย้ำ กทม. ขยายเวลารับเรื่องผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวถึง 2 พ.ค. พร้อมเดินหน้าปรับขั้นตอนให้ง่ายขึ้น


(26 เม.ย.68) เวลา 10.30 น. รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.) เปิดเผยความคืบหน้าภารกิจค้นหาผู้ติดค้าง และการรื้อถอนซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เขตจตุจักร ที่พังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว

รศ.ทวิดา กล่าวว่า วานนี้พบผู้ติดค้างเพิ่มเติม 2 ราย ในบริเวณที่คาดว่าเป็นบันไดหนีไฟ ตามที่ทีมค้นหาจากนานาชาติได้มีการประเมินและระบุจุดต้องสงสัยไว้ ส่งผลให้ปัจจุบัน พบผู้เสียชีวิตแล้ว 62 ราย บาดเจ็บ 9 ราย และอยู่ระหว่างการค้นหาอีก 32 ราย จากผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด 103 ราย และในส่วนของความคืบหน้าการดำเนินงานสามารถรถระดับความสูงโดยเฉลี่ยทั้ง 4 โซน ลงจากวันแรกที่ 26.8 ม. เหลือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3.5 ม. ได้แล้ว โดยลดลงจากวานนี้ประมาณ 1 ม. เชื่อมั่นว่า อีก 2-3 วันหลังจากนี้จะพบผู้ติดค้างที่เหลือเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของการดำเนินการ วันนี้ทีมเจ้าหน้าที่มีการตั้งเป้าหมายว่าจะดำเนินการรื้อถอน ค้นหา และขนย้ายเศษซากอาคารออกจากพื้นที่ให้ได้ถึง 330 เที่ยว เพื่อให้การดำเนินงานมีความคืบหน้าอย่างรวดเร็วที่สุด และแผนปฏิบัติการต่อจากนี้จะมุ่งเน้นไปที่ชั้นใต้ดิน โดยเฉพาะโซน B, A และ D ที่ต้องใช้วิธีเจาะเป็นรูปตัวยู คาดว่าหากสามารถเปิดพื้นที่ถึงบริเวณพื้นชั้น 1 ได้ภายใน 2-3 วันนี้ และการเคลียร์ชั้นใต้ดินที่มีความลึกประมาณ 4 เมตร จะใช้เวลาอีกประมาณ 1 สัปดาห์ โดยวานนี้ใช้น้ำมันในการขนย้าย ประมาณ 6,600 ลิตร เนื่องจากเครื่องจักรหนักทำงานตลอดเวลา พร้อมยืนยันว่าจะทำงานทุกขั้นตอนอย่างละเอียด รอบคอบ เพื่อนำร่างผู้ติดค้างออกมาให้ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานต้องบอกว่าเป็นหน้าที่ของกทม.ในการแก้ไขเหตุสาธารณภัยอยู่แล้ว ส่วนในอนาคตหากมีการดำเนินคดีและพบผู้กระทำผิดก็จะเป็นเรื่องของการดำเนินการทางระเบียบกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ กทม. มุ่งมั่นทำงานให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายโดยยังไม่ได้คำนึงถึงเรื่องค่าใช้จ่ายที่ใช้ไป


ปัจจุบัน กทม.มีการออกใบมรณบัตรแล้ว 44 ใบโดยสำนักงานเขตจตุจักร และรับรองการเสียชีวิตแล้ว 33 ราย เหลืออีก 11 รายอยู่ในระหว่างการดำเนินการ ส่วนผู้บาดเจ็บที่เคยมี 8 ราย ขณะนี้เหลือเพียง 1 รายที่ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ขณะเดียวกันมีการยืนยันอัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตแล้ว 62 ราย โดยยังคงต้องค้นหาชิ้นส่วนและร่างที่สูญหายอีก 32 ราย เพื่อดำเนินการพิสูจน์อัตลักษณ์ต่อไป และส่งคืนให้กับญาติอย่างเหมาะสมต่อไป ซึ่งเมื่อนิติเวชมีการยืนยันอัตลักษณ์เพิ่มเติมแล้วจะมีการแจ้งให้สื่อมวลชนได้รับทราบต่อไป เพื่อให้การยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตชัดเจนและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

นอกจากนี้ สำนักสิ่งแวดล้อมกรุงเทพมหานคร ได้มีการแจ้งเตือนค่าดัชนีความร้อน (Heat Index) ประจำวัน ซึ่งพบว่าค่าดัชนีความร้อนในวันนี้ (26 เมษายน 2568) อยู่ในช่วง 42.0 – 51.9 องศาเซลเซียส อยู่ในเกณฑ์อันตราย จะเป็นอันตรายต่อตัวผู้ปฏิบัติงานหรือไม่นั้น รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า จากการได้รับรายงานเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังมีความพร้อมในการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่และไม่มีปัญหาจากความร้อนดังกล่าว แต่มีบางรายที่อาจมีปัญหาจากการทำงานเช่นข้อเท้าแพลง ความเครียด ความล้า ปวดท้อง ซึ่งมีจำนวน 2 รายที่เข้ารับการรักษาอยู่ ขณะเดียวกัน มีภาคเอกชนติดต่อมาสนับสนุนเครื่องทำน้ำแข็งแล้ว และทางการประปานครหลวงก็จะมีการสนับสนุนรถน้ำดื่มสะอาด ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่มีน้ำดื่มเย็นๆ ช่วยลดปัญหาด้านอากาศที่ร้อนได้อีกทางหนึ่งด้วย

ในส่วนเรื่องการเยียวยาผู้ประสบความเดือดร้อนจากเหตุแผ่นดินไหว กทม. ได้ขยายการยื่นเรื่องจนถึงวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 เพื่อชดเชยวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ โดยเขตที่มีผู้ยื่นเรื่องมากที่สุด ได้แก่ เขตจตุจักร ภาษีเจริญ ห้วยขวาง ธนบุรี ราชเทวี วัฒนา เนื่องจากเขตเหล่านี้มีอาคารสูงค่อนข้างมากที่เป็นพักอาศัย จึงทำให้ยอดผู้ประสบ ภัยมีจำนวนมาก ส่วนเรื่องของการเตรียมหลักฐานในการยื่นคำขอหนังสือรับรองกรณีผู้ประสบภัยฯ เหตุแผ่นดินไหว ต้องขอความร่วมมือประชาชนอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย อาทิ บัตรฯ ประชาชน ทะเบียนบ้าน ทะเบียนกรรมสิทธิ์ห้อง บัญชีธนาคาร ใบมรณบัตร ใบรับรองแพทย์ต่างๆ โดยอาจจะมีความไม่สะดวกบ้าง แต่กทม.กำลังพัฒนาเรื่องของขั้นตอนการรับหลักฐานโดยประสานกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กรมบัญชีกลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับการปฏิบัติงานรับหลักฐานในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์โดยที่ไม่ต้องมายืนยันตัวตนด้วยตนเอง แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้การยืนยันหลักฐานด้วยตนเองเพื่อขอรับเงิน ก็เป็นสิ่งที่ดีที่จะป้องกันเรื่องของการสวมตัว สวมสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันจำนวนผู้ยื่นเรื่องอยู่ที่ประมาณ 40,000 กว่าคน ดังนั้นกระบวนการในการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาจึงอาจต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าที่จะได้รับเงิน


ส่วนเรื่องเพดานเงินชดเชยเยียวยาของกรมบัญชีกลางที่มีเพดานการจ่ายเงินในอัตราต่างๆ โดยเทียบราคาจากวัสดุตามระเบียบที่กรมบัญชีกลางมีตั้งไว้ เนื่องจากภาครัฐมีอัตราราคาของวัสดุที่มีราคากลางที่ชัดเจน ซึ่งจำนวนเงินอาจจะไม่เป็นไปตามความต้องการของประชาชน เนื่องจากอาจจะเห็นว่าไม่เหมาะสมกับความเสียหาย ก็ต้องขอเวลาเพื่อประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ว่าจะสามารถยืดหยุ่นตรงส่วนใดได้มากกว่านี้บ้าง นอกจากนี้เนื่องจากเป็นการชดเชยจากทางภาครัฐ ผู้ที่ทำประกันอาคารไว้ยังสามารถเคลมประกันจากทางบริษัทประกันและนิติบุคคลได้อีกทางด้วยเช่นกัน.-417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

คุณหญิงกัลยา ลาออกสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์

กทม. 19 ก.ย.-คุณหญิงกัลยา ลาออกสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขอบคุณสำหรับโอกาสที่ผ่านมา คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ประกาศลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่า “ข้าพเจ้า คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ขอเรียนแจ้งความประสงค์ในการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตลอดเวลาที่ผ่านมาในการที่ข้าพเจ้าได้เป็นส่วนหนึ่งของพรรค ข้าพเจ้าได้รับเกียรติและประสบการณ์อันทรงคุณค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสร่วมผลักดันนโยบายด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษา และการสร้างโอกาสให้เยาวชนประสบความสำเร็จ รวมถึงการขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชนตามแนวพระราชดำริ เพื่อแก้จน แก้หลาก และแก้แล้ง อันช่วยให้พี่น้องเกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งล้วนเป็นประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้ายังคงมีความเชื่อมั่นว่า “การศึกษา คือรากฐานสำคัญที่สุดในการพัฒนาคนและชาติ” จึงตั้งใจจะอุทิศเวลาและความรู้ ความสามารถทั้งหมดต่อจากนี้ เพื่อพัฒนาการศึกษาไทย สร้างโอกาสที่เท่าเทียม และขับเคลื่อนการเรียนรู้สู่ความยั่งยืนต่อไป ขอขอบพระคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้มอบโอกาสและความไว้วางใจเสมอมา ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดีต่อพรรคประชาธิปัตย์ ให้ประสบความสำเร็จในภารกิจเพื่อประชาชนและประเทศชาติสืบไป”.-315.-สำนักข่าวไทย

พายุดีเปรสชันทวีกำลังเป็นโซนร้อน “มิแทก” ส่งผลไทยฝนเพิ่ม

กรุงเทพฯ​ 19 ก.ย.​-กรมอุตุฯ เผย​พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “มิแทก” (MITAG) แล้วบ่าย​วานนี้ แม้ไม่เคลื่อนเข้าไทยโดยตรง แต่ส่งผลกระทบทางอ้อม ตอนกลางประเทศ​ฝนเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ และต้องเฝ้าระวังพายุอีกลูกช่วงปลายเดือนนี้ นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ขณะนี้​พายุโซนร้อน “มิแทก” มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 21.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 116.3 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งทางตะวันออกของประเทศจีนตอนใต้ในวันนี้​(19 กันยายน) แม้พายุจะไม่เคลื่อนเข้าสู่ไทยโดยตรง แต่ส่งผลทางอ้อม ทำให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ของประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 19–26 กันยายน 2568 พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ได้แก่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก เช่น ชลบุรี จันทบุรี ตราด รวมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เช่น […]

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]