fbpx

‘แอมเนสตี้’เรียกร้องทางการไทยยกเลิกข้อหา-ปล่อยตัว’เพนกวิน’

กรุงเทพฯ15 ส.ค..-แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการณ์ เรียกร้องทางการไทยให้ยกเลิกข้อหาทั้งหมด และให้ปล่อยตัวพริษฐ์ ชิวารักษ์โดยทันที


แถลงการณ์ลงวันที่14 สิงหาคม 2563 มีใจความว่า ประเทศไทยนักกิจกรรมถูกจับอีกหนึ่งคน ระหว่างที่มีการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยทั่วประเทศ สืบเนื่องจากการจับกุมแกนนำผู้ชุมนุม ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า

“การจับกุมในวันนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการปราบปรามสิทธิในเสรีภาพการชุมนุมอย่างสงบโดยรัฐ แทนที่จะให้ความคุ้มครองกับผู้ชุมนุมอย่างสงบ ตำรวจกลับใช้กฎหมายเผด็จการเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อปิดปากผู้แสดงความเห็นหรือวิจารณ์รัฐบาลอย่างสงบ


“แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเรียกร้องทางการไทยให้ยกเลิกข้อหาทั้งหมด และให้ปล่อยตัวพริษฐ์ ชิวารักษ์โดยทันที รวมทั้งนักกิจกรรมอีกคู่หนึ่งที่ถูกจับเมื่อวันศุกร์ที่แล้วพร้อมกับผู้ประท้วงคนอื่น ๆ เนื่องจากพวกเขาเพียงแต่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ เรายังกระตุ้นทางการให้หาช่องทางสื่อสารในทางเลือก หรือริเริ่มการเจรจากับผู้ชุมนุม โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิในเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบ

“ความถดถอยด้านสิทธิมนุษยชนนับแต่รัฐบาลปัจจุบันเข้าดำรงตำแหน่ง เป็นปรากฏการณ์ที่น่าตกใจอย่างยิ่ง พื้นที่ของการเคลื่อนไหวและการแสดงออกอย่างสงบ จะยิ่งหดตัวลงมากขึ้น หากประชาคมระหว่างประเทศไม่เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงโดยทันที”
ข้อมูลพื้นฐาน
ในวันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม ตำรวจได้จับกุมพริษฐ์ ชิวารักษ์ สมาชิกสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ขณะที่เขากำลังเดินทางไปเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่จังหวัดนนทบุรี ใกล้กับกรุงเทพฯ ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย

พริษฐ์ถูกตั้งข้อกล่าวหาจากการร่วมชุมนุมประท้วงอย่างสงบจำนวนสามกิจกรรม สำหรับคดีแรกเป็นผลจากการร่วมกิจกรรม #Saveวันเฉลิม เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2563 ในข้อหาละเมิดพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ สำหรับคดีที่สองกรณีมีส่วร่วมในกิจกรรมรำลึกสยามอภิวัฒน์ 2475 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2563 ในข้อหาละเมิดพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดตามมาตรา 4 ของพระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง โปรยใบปลิวโดยไม่ได้รับอนุญาต และตั้งวางสิ่งของในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง มาตรา 10 และ 39 ตามลำดับ และสำหรับคดีที่สามกรณีร่วมการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาล เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ในข้อหายงปลุกปั่นเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน มั่วสุมกันใช้กำลังประทุษร้าย ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะ และใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 215, 368, 385 และ 391 ตามลำดับ ละเมิดพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน ความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะเป็นความผิดตามมาตรา 114 พระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 19 พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง และร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดตามมาตรา 4 ของพระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง


ในวันที่ 7 สิงหาคม 2563 แกนนำอีกสองคนได้แก่ อานนท์ นำภาและภานุพงศ์ จาดนอก ได้ถูกจับกุม และถูกนำตัวไปสถานีตำรวจ จากนั้นมีการนำตัวไปขอฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพ ด้วยข้อหาคล้ายกันจากการร่วมชุมนุมเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563

นับแต่มีการประกาศใช้พระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 เจ้าหน้าที่ทำการควบคุมตัวและแจ้งข้อหาอาญาอย่างต่อเนื่องต่อบุคคลที่เข้าร่วมการประท้วงและกิจกรรมอย่างสงบ ผู้ประท้วงยังต้องเผชิญการข่มขู่คุกคามจากตำรวจในหลายกรณี เพียงเพราะเข้าร่วมการประท้วงอย่างสงบ โดยเป็นการชุมนุมอย่างสงบที่มีแกนนำเป็นนักเรียนและนักศึกษา ซึ่งเรียกร้องให้จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ให้รัฐบาลลาออก และให้ยุติการคุกคามของตำรวจ. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้

แบงก์ชาติ​ส่งหนังสือให้ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำสะดุด

ปลัดคลัง ระบุแบงก์ชาติ​ส่งหนังสือถึง ครม.ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำให้สะดุด ชี้เป็นข้อเสนอเก่า​​ เดินหน้าตามแผนเดิม​ 

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ