รัฐสภา 30 พ.ย.- “กิตติศักดิ์” จี้ รัฐใช้ กม.จัดการ “แอมเนสตี้ฯ ประเทศไทย” เชื่อดำเนินการผิดวัตถุประสงค์ ด้าน ส.ว.แนะยุบผู้ตรวจการเลือกตั้งฯ หลัง เลือกอบต.พบซื้อเสียงอื้อ ไม่แก้ปัญหาทุจริตเปลืองภาษีประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวุฒิสภาวันนี้ (30 พ.ย.)มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยระหว่างการหารือก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เสนอว่า ประเทศไทยต้องไม่เป็น “ม้าอารี” หรือเป็นผู้ที่โอบอ้อมอารีต่อผู้อื่นแล้วตนเองได้รับความเดือดร้อน ในสิ่งที่เป็นภัยต่อความมั่นคง ประเทศ ไทยเป็นประเทศหนึ่งเดียวในโลก ที่ให้ความเมตตามนุษย์ร่วมโลกให้มาอาศัยทำมาหากิน แต่ช่วงหลังถึงเวลาที่รัฐบาลต้องคัดเลือกผู้ที่เป็นคนต่างชาติ ที่ร่วมมือกับคนไทย “เนรคุณ”แผ่นดิน จะเห็นว่ามีประชาชนจำนวนมากออกมาต่อต้านขับไล่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ที่จุดประสงค์องค์กรแม่ที่ประเทศอังกฤษ เพื่อทำหน้าที่แก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ แต่ภายหลังมีการสืบทราบแอมเนสตี้ฯในไทย ว่าอาจจะไม่ได้จดทะเบียนโดยสมบูรณ์ และอาจเป็นภัยกับความมั่นคง ได้ร่วมกับฝ่ายการเมืองและม็อบ ต่อต้านเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะสถาบัน ดังนั้นอยากเสนอรัฐบาลให้คัดกรององค์กรต่างๆเหล่านี้ หากพบเห็นเป็นประจักษ์ ว่าองค์กรที่จดทะเบียนทั้งองค์กรในประเทศ และต่างประเทศ ที่รับเงินต่างชาติแล้วทำผิดวัตุประสงค์ เป็นภัยต่อความมั่นคง รัฐบาลต้องใช้กฎหมายดำเนินการต่อองค์กรเหล่านี้ เพื่อความปลอดภัยของประเทศ
ขณะที่ นายสวัสดิ์ สมัครพงศ์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) หารือถึงการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล และสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า มีข่าวการซื้อเสียงหัวละ 2,000 – 10,000 บาท ในหลายพื้นที่ ถือว่ารุนแรงมาก แต่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ได้ประมวลผลหรือหาแนวทางแก้ปัญหา ส่วนตัวคิดว่าตำแหน่งผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด เป็นการใช้จ่ายงบประมาณที่สิ้นเปลืองภาษีประชาชนโดยเปล่าประโยชน์ จึงขอเสนอนายกรัฐมนตรี และกกต. ให้ยุบตำแหน่งดังกล่าว และให้หารูปแบบใหม่เพื่อลดการซื้อเสียง การเลือกตั้งเกิดความโปร่งใสต่อไป. สำนักข่าวไทย