1ก.ย.นี้ สปสช.เดินหน้ารับยาใกล้บ้าน “โมเดล 3”

แจ้งวัฒนะ 4 ส.ค.-หนุน รพ.ปรับรูปแบบ “โครงการรับยาร้านยาใกล้บ้าน” สู่โมเดล 3 เพิ่มศักยภาพร้านยาบริหารจัดการด้านยา หลังโมเดล1-2 ได้รับการตอบรับ ประชาชนได้ประโยชน์โดยตรง ไม่ต้องรอคิวรับยาที่ รพ. ช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19


ภก.อนันต์ชัย อัศวเมฆิน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุม “แนวทางการดำเนินงานโครงการรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านในรูปแบบที่ 3 (โมเดล 3) ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข” โดยมี นพ.จักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักสนับสนุนระบบบริการยาและเวชภัณฑ์ กองบริหารสาธารณสุข สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมให้ข้อมูลพร้อมชี้แจง ซึ่งมีผู้แทนเภสัชกรโรงพยาบาลร่วมโครงการเข้าร่วมประชุม

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้เรากำลังขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านสาธารณสุขของประเทศเพื่อสู่สิ่งที่ดีกว่า ซึ่งไทยอยู่อันดับที่ 6 ประเทศที่มีระบบสุขภาพดีที่สุดของโลก สิ่งที่ต้องทำจากนี้ไปคือการก้าวข้ามและจัดการกับความท้าทายเพื่อนำไปสู่ระบบสาธารณสุขใหม่ ทั้งการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การพัฒนาสุขภาพในเขตเมือง โรคระบาดและโรคอุบัติใหม่ อย่างโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ขณะนี้ การนำบิ๊กดาต้า เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ มาสนับสนุนระบบสาธารณสุข เป็นต้น โดยมีเป้าหมายสำคัญสู่การบรรลุตามนโยบาย “ประเทศไทยแข็งแรง เศรษฐกิจไทยแข็งแรง ประชาชนแข็งแรง” ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข


ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 การผลักดันเทคโนโลยีสาธารณสุขเราสามารถขับเคลื่อนไปได้มาก ในการจัดบริการยุค New Normal เพื่อลดความแออัดและแพร่กระจายเชื้อ โมเดลหลายอย่างได้เกิดขึ้น รวมถึงการรับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน ซึ่งขณะนี้ได้พัฒนาเข้าสู่โมเดล 3 ที่นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของการลดการรอคอยรับยาที่ห้องยา ลดความแออัดในโรงพยาบาล และเพิ่มความสะดวกในการรับบริการให้กับประชาชนยิ่งขึ้น รวมถึงลดภาระงานของโรงพยาบาล เน้นกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีอาการคงที่ โดยให้ร้านยาทำหน้าที่บริหารจัดการยาให้กับผู้ป่วย และยังเป็นการเชื่อมโยงความร่วมมือภาครัฐและเอกชน

ทั้งนี้ ตามเป้าหมายโครงการรับยาที่ร้านยาโมเดล 3 ร้านยาจะจัดซื้อยาและสำรองยาเพื่อจ่ายยาให้กับผู้ป่วย แต่ในช่วงแรกเริ่มต้นระบบและเป็นการนำร่อง องค์การเภสัชกรรม (อภ.) จะทำหน้าที่เป็นคนกลางในการจัดซื้อยาแทนร้านยาก่อน โดยใช้ราคากลางอ้างอิงในการจัดซื้อ และกระจายยาโดยใช้ระบบ VMI ไปที่ร้านยา ซึ่งขณะนี้มีรายการยาในระบบกว่า 400 รายการแล้ว ในอนาคตหากพื้นที่ใดมีความพร้อมที่สามารถจัดซื้อเองก็จะปล่อยให้ดำเนินการเอง เป็นการดึงภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อดูแลสุขภาพประชาชนมากขึ้น ซึ่งตามแผนกำหนดจะเริ่มโครงการฯ เต็มรูปแบบได้ในวันที่ 1 กันยายน 2563

“จุดเริ่มต้นของโครงการรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านเรามีประชาชนเป็นตัวตั้ง ที่ผ่านมาพบว่าประชาชนที่ใช้บริการต่างพึงพอใจ เพราะสะดวกมาก หาหมอแล้วก็รับใบรับยาแล้วก็กลับบ้านได้เลย จากเดิมที่เคยต้องรอรับยาที่ห้องยาโรงพยาบาล บางแห่งคิวรอเป็นร้อยคิว ใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะได้ยา แต่ช่องทางรับยาที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องรอ แต่ไปรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านแทนตามช่วงเวลาที่สะดวก และยังสามารถซักถามหรือปรึกษาปัญหาการใช้ยาได้โดยละเอียด ต่างจากที่โรงพยาบาลที่เภสัชกรต้องเร่งรีบเพราะด้วยผู้ป่วยรอรับที่มีจำนวนมาก และที่สำคัญคือช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 และโรคติดต่ออื่นๆ ให้กับผู้ป่วย เรียกว่าเป็นโครงการเป็นประโยชน์กับประชาชนโดยตรง” ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว


ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินงานโครงการรับยาร้านยาใกล้บ้าน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม -1 กรกฎาคม 2563 มีโรงพยาบาลเข้าร่วมโครงการ 130 แห่ง ร้านยา 1,033 แห่ง ผู้ป่วยสะสม 17,154 คน และจำนวนการรับยา 24,870 ครั้ง ทั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นรูปแบบที่ 1

อย่างไรก็ตามขณะนี้มีโรงพยาบาลที่แสดงความจำนงปรับโครงการรับยาร้านยาใกล้บ้านเป็นรูปแบบที่ 3 แล้วจำนวน 17 แห่ง ร้านยาจำนวน 91 แห่ง โดยโรงพยาบาลที่เข้าร่วมนี้ส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลอันดับต้นๆ ที่มีผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการรับยาร้านยาจำนวนมาก และยังมีโรงพยาบาลที่สนใจร่วมโครงการเพิ่มเติม

ทั้งนี้ สปสช.จะจัดชี้แจงแนวทางการดำเนินงานให้กับโรงพยาบาลและร้านยาอีกครั้ง ในระหว่างนี้ขอให้โรงพยาบาลและร้านยาร่วมกันหารือถึงแนวทางการดำเนินการ ทั้งรายการยา กลู่มผู้ป่วย ระบบเชื่อมต่อข้อมูล และการประสานงาน เป็นต้น โดยโครงการรับยาร้านยาใกล้บ้านรูปแบบที่ 3 นี้ ในปีแรกยังเป็นการทดลองดำเนินการและศึกษาข้อมูล โดยมีสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ร่วมเก็บข้อมูลและประเมินผล เพื่อนำไปสู่การปรับรูปแบบให้เหมาะสมต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

ฉายารัฐบาลปี67

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี 67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง”

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง” ฉายานายกฯ “แพทองโพย” ด้าน 7 รัฐมนตรีติดโผ “บิ๊กอ้วน-อนุทิน-ทวี” พ่วง 3 รัฐมนตรีโลกลืม ส่วนวาทะแห่งปี “สามีเป็นคนใต้”

เลือกตั้ง อบจ.อุบลฯ

“กานต์ กัลป์ตินันท์” ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ

“กานต์ กัลป์ตินันท์” ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี พร้อมขอบคุณคนเสื้อแดง และนายทักษิณ ชินวัตร ที่ช่วยผลักดัน

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน