ดีเอสไอ 29 ก.ค.-ดีเอสไอสนธิกำลัง 3 หน่วยงาน ตรวจค้นคลินิกเวชกรรมและทันตกรรม ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปทุมธานี หลัง “อนุทิน”เชิญร่วมตรวจสอบความผิดปกติการขอเบิกจ่ายจากคลินิกชุมชนอบอุ่น 18 แห่ง และคลินิกทันตกรรมในเขตกรุงเทพฯ
นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) สนธิกำลังร่วมกับกองบังคับการปราบปราม กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เข้าตรวจค้นสถานที่เป้าหมายจำนวน 4 แห่ง
- บริษัทสยามเมดิคอล ไฮคิว แล็บ จำกัด เลขที่ 2/104 ซอยรังสิต-นครนายก 34/1 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
- บริษัทโปรเซ็นทรัล เมดิคอล กรุ๊ป จำกัด เลขที่ 55/11 ถนนเลียบคลองสาม ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
- คลินิกทันตแพทย์สมรัก เลขที่ 129 3/2 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
- คลินิกทันตแพทย์อนุสรณ์ เลขที่ 59 3/1-2 ถนนลาดพร้าว แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
ผลการตรวจค้นได้ยึดเอกสารการรักษา ใบเสร็จ เวชระเบียน และเครื่องคอมพิวเตอร์ ไว้เพื่อตรวจสอบและอาจใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการทางคดี
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขได้พบความผิดปกติในการขอเบิกจ่ายจากคลินิกชุมชนอบอุ่นจำนวน 18 แห่ง และคลินิกทันตกรรมในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นหน่วยบริการที่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข จากเงินงบประมาณของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่ส่อไปในทางไม่สุจริต และเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เชิญผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมี พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นผู้แทน รวมทั้งผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าหารือ ซึ่งกรมฯได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบการสืบสวนเกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว เพื่อดำเนินการทางอาญา
สำหรับการดำเนินการดังกล่าว เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ตามการร้องขอจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อดำเนินการทางคดีอาญาต่อกลุ่มบุคคลที่กระทำความผิดและเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง โดยจะมีการขยายผลการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินการต่อเนื่องกับหน่วยบริการอีกจำนวน 256 แห่ง และหน่วยทันตกรรมประมาณ 100 แห่ง ต่อไป โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้ดำเนินการการสืบสวนเพื่อพิสูจน์ทราบผู้กระทำความผิดและเพื่อปกป้องเงินงบประมาณแผ่นดินที่ถูกกระทำการโดยทุจริตดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย