มหาดไทยเตรียมกำหนดมาตรฐานราคากลางอุปกรณ์กีฬาทั่วประเทศ

กทม. 8 มิ.ย. – มหาดไทยเตรียมกำหนดมาตรฐานราคากลางอุปกรณ์กีฬาทั่วประเทศ แก้ปัญหาระบบจัดซื้อจัดจ้างทั้งระบบ


นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานโครงการสำคัญของกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ณ บริเวณถนนราชดำเนิน เขตพระนคร เรื่องการจัดซื้ออุปกรณ์กีฬา ว่า ปัญหาสำคัญส่วนหนึ่งคือสำนักงบประมาณไม่เคยตั้งราคากลางมาตรฐานการจัดซื้ออุปกรณ์กีฬาไว้ ทำให้เกิดขั้นตอนของการสอบราคา จึงนำมาซึ่งการฮั้วของผู้ประกอบการ ทำให้ราคากลางสูง เมื่อจัดซื้อจัดจ้างก็เกิดปัญหา ที่ผ่านมาได้เชิญหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามากำหนดราคากลางของอุปกรณ์กีฬาแต่ก็ไม่สำเร็จ ในอนาคตจึงขอให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและกำหนดมาตรฐานราคากลางของอุปกรณ์กีฬาแต่ละประเภทให้ชัดเจน เพื่อแก้ปัญหาทั่วประเทศและนั่นคือสิ่งที่ประชาชนต้องการ

ในขณะเดียวกัน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกำลังแก้ไขปัญหาอยู่ในทุกๆ ด้าน ซึ่งมหาดไทยอาจนำเป็นต้นแบบและโครงการนำร่อง เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในทุกท้องถิ่นทั่วประเทศต่อไป


ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า ขณะนี้ กทม.ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ โดยมีปลัดกรุงเทพมหานครเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งกทม.พร้อมรับการตรวจสอบ และพยายามแก้ไขในเรื่องของระบบการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบ ไม่ใช่แค่กรณีเครื่องออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงโครงการต่าง ๆ ในอนาคตด้วย เมื่อพบผู้กระทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวดและรวดเร็ว โดยมีคณะทำงานในการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจน และขอให้มั่นใจว่า กทม. ไม่นิ่งเฉยต่อเรื่องทุจริต โดยขณะนี้ได้มีคำสั่งชะลอทุกโครงการซื้อเครื่องออกกำลังกายในโครงการที่สุ่มเสี่ยงและไม่โปร่งใส 17 โครงการ โดยไม่สร้างความเสียหายให้กับราชการแล้ว

“อุปกรณ์กีฬาเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเกี่ยวข้องกับสุขภาพของประชาชน กทม. ต้องการสร้างศูนย์กีฬาที่มีคุณภาพ แต่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างนั้น ไม่มีราคากลางที่เป็นมาตรฐานชัดเจน สำหรับอุปกรณ์กีฬาแต่ละประเภท จึงทำให้เกิดช่องโหว่ดังกล่าว หากอุดช่องโหว่นี้ได้จะนำไปประยุกต์ใช้กับอุปกรณ์ด้านอื่น ๆ เช่น อิฐ หิน ปูน ทราย อุปกรณ์ก่อสร้าง ก็จะทำให้ทุกคนสบายใจขึ้น เพราะทุกคนได้แข่งขันกันในราคากลางมาตรฐานชัดเจนที่กำหนดไว้ วันนี้ กทม. เจ็บปวดในเรื่องทุจริต แต่ขอให้มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในอนาคต” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า เรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างนั้นต้องตรวจสอบดูถึงช่องโหว่ของระเบียบกฎหมาย พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างปี 2560 โดยนำมาวิเคราะห์ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร อาทิ การเสนอราคา การเข้าประกวดราคา เนื่องจากผู้บริหารไม่สามารถเข้าไปดูทุกขั้นตอนได้ เพราะรูปแบบของพ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้างคือการกระจายอำนาจ เช่น หากงบประมาณเกิน 200 ล้าน จะมีรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นผู้พิจารณาอย่างละเอียด แต่หากงบประมาณน้อยก็จะกระจายให้หน่วยงานและพื้นที่พิจารณาเพื่อให้มีประสิทธิภาพและสามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งรูปแบบ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ นี้ ใช้งานทั่วประเทศ ดังนั้นคิดว่าปัญหาจึงไม่ได้เกิดจากระบบที่วางไว้ แต่เกิดจากคนที่คิดจะทุจริตจึงหาโอกาสจากช่องว่างของกฎหมาย จึงต้องนำปัญหามาวิเคราะห์ในภาพรวมเพื่ออุดช่องโหว่ของกฎหมาย ส่วนการแก้ปัญหาเรื่องคนก็ต้องแต่งตั้งคนที่ดีขึ้นมาบริหารงาน ดังนั้นการแก้ไขปัญหาระบบกับปัญหาเรื่องคนจึงต้องเดินไปด้วยกันในทิศทางเดียวกัน


ส่วนเรื่องของการมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงหน่วยงานราชการในการควบคุมดูแลของรองปลัดกรุงเทพมหานครเมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.67) เพื่อให้มั่นใจว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะมีความโปร่งใส ไม่มีการยุ่งเกี่ยวกับพยานบุคคลและผู้ให้ข้อมูล โดยอาจจะมีการปรับเปลี่ยนคำสั่งฯ อื่นอีกในอนาคต ซึ่งกทม.ต้องเร่งสร้างความไว้วางใจให้กับประชาชน เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด และ กทม.มีความกังวลใจเพราะหากประชาชนไม่ให้ความไว้วางใจ กทม.ก็ไม่สามารถทำงานได้ จริงๆต้องเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ และต้องไม่ปล่อยปละละเลยเมื่อมีคนแจ้งเหตุเข้ามา ต้องรีบดำเนินการทันที

ส่วนปัญหาเรื่องของรถขนส่งนักกีฬาของกองการกีฬาที่เป็นประเด็น เป็นรถที่ใช้งานแต่ใช้งานไม่บ่อย จึงต้องไปดูในส่วนของรายละเอียดการใช้งานต่อไป เบื้องต้นทราบข้อมูลว่าใช้งานมาตั้งแต่ปี 2561 โดยส่วนตัวคิดว่าเรื่องการตรวจสอบทุจริตเป็นเรื่องที่ดี โดยให้ประชาชนร่วมกันตรวจสอบถึงความโปร่งใสในการทำงานของ กทม.

เรื่องรถขนส่งนักกีฬาที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2561 นั้น เป็นรถที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน จึงต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดความคุ้มค่าและความเหมาะสมต่อไป ซึ่ง กทม. มีรถราชการที่ใช้งานกว่า 10,000 คัน ต่อไปนี้คงต้องใช้งานให้มีประสิทธิภาพ หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานให้เหมาะสม โดยไม่ต้องจัดซื้อรถเพิ่มเติม . -417 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” เผย “สมเด็จพระสังฆราช” รับสั่งสังคายนากฎหมายสงฆ์

วัดราชบพิธฯ 17 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “สมเด็จพระสังฆราช” รับสั่งสังคายนากฎหมายสงฆ์ เพิ่มความเข้มกฎหมายเก่า ชี้ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นส่วนน้อยทำพระพุทธศาสนาเสื่อม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2568 แด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ณ วัดราชบพิธสถิต ว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงประทานพรให้เรามุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ ท่านก็ต้องการความร่วมมือกันของทุกฝ่าย และประเด็นที่สำคัญคือ การไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา ท่านบอกว่า ให้จัดการได้เต็มที่ หากผิดปาราชิกก็ต้องทำไปตามวินัยที่มีอยู่ และขณะนี้มีการพูดคุยกันว่า ฝ่ายพลเรือน พยายามที่จะขออนุญาตออกกฎระเบียบ ซึ่งท่านก็เห็นพ้องต้องกันกับสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ว่าอยากให้นำกฎหมายเก่ามาดู และเพิ่มความเข้มงวด หากจะเขียนอะไรลงไปก็ให้เต็มที่ อย่าให้พระพุทธศาสนามีความเสื่อม และเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเฉพาะจุด โซเชียลพูดถึงไกลไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเคร่งครัด และหากมีการแก้กฎหมายแล้วให้หารือที่มหาเถรสมาคม แต่ถือว่าพระองค์ท่านให้เป็นหลักแล้วว่าให้ดำเนินการให้เข้มงวด ส่วนที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกมาระบุว่า เตรียมเปิดคดีใหม่มีพระในระดับชั้นสมเด็จเข้าไปเกี่ยวข้องแต่ไม่เกี่ยวกับคดีสีกากอล์ฟ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ได้ฟังจากสื่อ คิดว่าตอนนี้ได้คุยกับพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง […]

พบอีก พระชั้นผู้ใหญ่ วิดีโอคอลบอกรัก “สีกากอล์ฟ”

กทม. 17 ก.ค.-พบอีก พระชั้นผู้ใหญ่ ระดับเจ้าอาวาส ใน จ.พิจิตร วิดีโอคอลบอกรัก “สีกากอล์ฟ” ด้านตำรวจจ่อลุยตรวจค้นวัด รวมถึงสถานศึกษาสงฆ์หลายแห่ง เพื่อตรวจสอบเส้นเงิน เวลา 9.30 น. รออีก 1 รูป พระชั้นผู้ใหญ่ ระดับเจ้าอาวาส Video Call บอกรัก สีกากอล์ฟ ในลักษณะว่าเธอเป็นคนแรก และเป็นคนเดียว รักมาก ซึ่งจัดการตรวจสอบพบว่า พระรูปดังกล่าว เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดพิจิตร และมีความสัมพันธ์ในลักษณะฟิลแฟนแบบนี้มานานแล้ว และเป็นคนส่งเงินค่าเช่าบ้านให้สีกากอล์ฟ แทบทุกเดือน สำหรับความคืบหน้ากรณี “สีกากอล์ฟ” มีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพระชั้นผู้ใหญ่ กว่า 20 รูป ในวันนี้มีรายงานว่า ตำรวจ ปปป. พร้อมด้วยตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบกลาง จะลุยตรวจค้นวัดรวมถึงสถานศึกษาสงฆ์หลายแห่ง เพื่อตรวจสอบเส้นเงิน รวมถึงหาพยานหลักฐานเชื่อมโยง อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยูรวงศาวาส ทุจริตเงินวัดไปให้สีกากอล์ฟ โดยการตรวจค้น จะเกิดขึ้นหลังจากการประชุมตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และส่งเสริมพระธรรมวินัย ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 13.00 น. […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมิวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวน เจ็บ 3

อุบลราชธานี 17 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิด ขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี บาดเจ็บ 3 นาย อาการปลอดภัย ชี้เป็นระเบิดตกค้างในพื้นที่สู้รบเดิม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ชุดลาดตระเวนกองร้อยทหารพรานที่ 2302 (ชุด ลว. ร้อย ทพ.2302 ) (ดุสิต) ได้จัดกำลังพลจำนวน 14 นาย ประกอบด้วย ทพ. 2 นาย ชุด RDF 6 นาย ทหารช่าง 6 นาย ออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำลังพลชุดลาดตระเวนได้ประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บริเวณพิกัด WA 220 […]