รร.เซนจูรี่ พาร์ค 9 ก.พ. – พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาทางเลือกในการจัดการปัญหายาบ้าที่เกี่ยวข้องกับการบำบัด การผลิต และการพัฒนายาทดแทนยาบ้า โดยมีผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน และเภสัชกรเชี่ยวชาญร่วมหาแนวทาง
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ปัจจุบันตัวเลขผู้ใช้ยาเสพติดในภาพรวมมีกว่า 8 แสนคน ประมาณ 3 แสนคน ไม่ได้รับการรักษา ใช้วิธีคุมประพฤติรับยาแล้วกลับชุมชน เวทีวันนี้จะแลกเปลี่ยนหาแนวทางทางการแพทย์ และเภสัชฯ เพื่อใช้วิธีหาตัวยาใหม่มาใช้ทดแทนยาบ้าเพื่อบำบัดรักษาผู้ติดยาบ้า ภายใต้แนวคิดแบบการรักษาด้วยยาช่วย หรือ Medication-Assisted Treatment (MAT) และ Harm Reduction โดยให้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อย่างเฮโรอีน มีเมทโทโลน ช่วยทดแทน ที่ผ่านมารัฐทำสำเร็จในการปราบปราม จับกุมเข้าเรือนจำจำนวนมาก แต่ในกลุ่มบำบัดรักษาต้องดูแล หาวิธีใหม่ ๆ มาใช้
สำหรับเวทีประชุมนี้จะหารือในประเด็นหลัก ๆ 2 ประเด็น คือ 1.การหาแนวทางให้ผู้ติดยาบ้าเข้าถึงบริการบำบัดรักษา และพัฒนาตัวยาที่มีประสิทธิผลในการรักษาผู้ติดยาบ้า เพราะตอนนี้ยังไม่มียารักษาโดยตรง ยาที่ใช้ได้เป็นยาที่ยังไม่มีข้อบ่งใช้ที่ชัดเจน (Off Label) และเป็นยานอกบัญชีทั้งหมด ทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาก 2.ความเป็นไปได้ในการใช้นโยบาย “ยาทดแทนยาบ้า” โดยให้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ส่วนข้อเสนอประกาศช่อดอกกัญชาเป็นยาเสพติดนั้น พ.ต.อ.ทวี ยืนยันข้อเสนอของกระทรวงยุติธรรมและ ป.ป.ส.เกี่ยวกับนโยบายกัญชา ที่กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างออกกฎหมายควบคุมว่า หลังยกเลิกกัญชา และพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดในปี 65 และยังไม่มีมาตรการควบคุมกัญชาขณะนี้ เกิดผลกระทบ ผู้ใช้กัญชาจนเป็นปัญหาจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน มีการใช้กัญชาเพิ่มถึง 10 เท่า ซึ่ง สส.พรรคเพื่อไทยเอง ก็ยังขอให้เอากัญชากลับเป็นยาเสพติด ซึ่งจากการที่ตนไปประชุมในเวทีแก้ปัญหายาเสพติดโลก ประเทศอื่น ๆ ต่างก็ไม่ยอมรับให้กัญชาออกจากยาเสพติด ก.ยุติธรรมจึงมีความเห็นว่ากัญชาสามารถใช้ทางการแพทย์ และการวิจัย แต่ห้ามใช้ในทางสันทนาการ ดังนั้นระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมายควบคุมกัญชา ก็ให้ออกประกาศ กำหนดให้ช่อดอกและสารสกัดจากพืชกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดให้โทษ ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด.-119-สำนักข่าวไทย