ป.ป.ส. 16 พ.ย. – ป.ป.ส.เร่งคัดแยกผู้เสพสารเสพติด ป่วยจิตเวชรุนแรงอันตรายต่อสังคม พบกว่า 7 พันคน เข้าบำบัดเต็มระบบ สั่ง ป.ป.ส.ภาค กวดเข้มบริษัทส่งพัสดุภัณฑ์ ตรวจสกัด ไม่ให้ลักลอบส่งยาเสพติด พร้อมจับตาสถานบันเทิงที่ได้รับอนุญาตเปิดถึงตี 4 หากพบยาเสพติดสั่งพักใบอนุญาตทันที
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กล่าวในงานครบรอบ 47 ปี สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ว่า ปัญหายาเสพติดที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามามากขณะนี้ คือ กรณีผู้เสพยาเสพติดจนมีอาการป่วยทางจิตเวช และไม่อาจอยู่ร่วม หรือเป็นอันตรายต่อสังคมชุมชน ซึ่งข้อมูลสำรวจพบว่ามีกว่า 32,000 คน โดย ป.ป.ส.เตรียมมาตรการนำตัวผู้เสพที่มีอาการรุนแรง คลุ้มคลั่ง ซึ่งมีประมาณ 7,000 คน ออกจากชุมชนเพื่อเข้าสู่ระบบบำบัด และสร้างชุมชนเข้มแข็งเพื่อช่วยสอดส่อง ลดจำนวนผู้ค้าผู้เสพในชุมชน และจะปิดแนวเส้นทางลำเลียงยาเสพติด โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดน จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และนครพนม ตั้งเป้าภายใน 1 ปี จะเห็นปัญหายาเสพติดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยยังจับตาพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำที่เป็นแหล่งผลิตสำคัญ ซึ่ง 100% ยังมาจากพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ
รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า ป.ป.ส.จะเข้มข้นการบังคับใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด ม.56, 57 ที่กำหนดให้สถานที่ส่งพัสดุภัณฑ์ เป็นสถานที่ควมคุมของ ป.ป.ส. ซึ่งได้สั่งการให้ ป.ป.ส.ภาค ลงไปกำกับดูแลเข้มงวดตามกฎหมาย และในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ที่รัฐบาลมีนโยบายเปิดโซนนิ่งสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. ได้สั่งการ ป.ป.ส.ภาคเข้าไปทำข้อตกลงกับสถานบันเทิงที่ได้รับอนุญาต หากมีสถานบันเทิงใดฝ่าฝืนปล่อยปละละเลยเรื่องยาเสพติด ป.ป.ส.มีอำนาจสั่งการพักใบอนุญาตได้ และจะเสนอเรื่องทางปกครองรายงานต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป. -สำนักข่าวไทย