fbpx

“ชัชชาติ” คาด 2 สาเหตุ ฝาบ่อทรุด รถบรรทุกร่วงกลางเมือง

กรุงเทพฯ 8 พ.ย. – “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” เผยถึงเหตุฝาบ่อทรุดกลางเมือง รถบรรทุกร่วงเกือบมิดคัน ปากซอยสุขุมวิท 64/1 คาดเกิดจาก 2 สาเหตุ การก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน หรือรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ขณะที่ทั่ว กทม.มีบ่อลักษณะนี้ 700 บ่อ สั่งเพิ่มความระมัดระวัง


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงก่อนเที่ยงวันนี้ (8 พ.ย.66) บริเวณปากซอยสุขุมวิท 64/1 ใกล้ BTS ปุณณวิถี แผ่นซีเมนต์ปิดบ่อเกิดทรุดตัว จนเป็นหลุมขนาดใหญ่กลางถนน และมีรถบรรทุกดินคันหนึ่งตกลงไปเกือบมิดคัน โดยบริเวณดังกล่าวอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการนำสายไฟฟ้าลงดินของการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำงานช่วงกลางคืน และกลางวันจะปิดฝาท่อให้รถวิ่งตามปกติ ใต้ฝามีคานรับน้ำหนักไว้ เบื้องต้นมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และการจราจรบนถนนสุขุมวิท ขาเข้า ติดขัดอย่างหนัก ท้ายแถวยาวไปถึงบางนา

หลังเกิดเหตุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ทันที โดยเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่า รถบรรทุกคันดังกล่าวมีน้ำหนักเกิน ทำให้เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ คานเหล็กด้านล่างแผ่นคอนกรีต ซึ่งมีเพียง 1 คาน พาดไว้ระหว่างแผ่นคอนกรีตและปากบ่อ เกิดการหัก หลังจากนี้ต้องสอบถามไปที่การไฟฟ้าฯ ว่า สาเหตุที่คานหักเกิดจากอะไร และจะต้องตรวจสอบว่า รถคันดังกล่าวบรรทุกเกินมาเท่าไหร่ รวมถึงสั่งตรวจสอบไซต์งานของรถบรรทุกว่า ให้บรรทุกน้ำหนักมาเท่าไหร่


ปัญหาตอนนี้คือ กำลังวางแผนจะนำเครนยกรถบรรทุกออก แต่ต้องระมัดระวังตัวฝา หรือแผ่นเหล็ก 4 แผ่น ที่อาจตกไปด้านล่าง หากยกรถบรรทุกออก ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้นฝาแผ่นเหล็กไม่เสียหายมากนัก ยังสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก จะทำใหม่แค่คานเหล็กตรงกลางที่เสียหาย เบื้องต้นมอบหมายให้ ผอ.สำนักการโยธา ดำเนินการในส่วนนี้ ยอมรับว่าต้องใช้เวลา เพราะกระบวนการคิดต้องละเอียด โดยการร่วมมือระหว่าง กทม. การไฟฟ้าฯ และตำรวจ

กทม.มีบ่อลักษณะเดียวกัน 700 บ่อ สั่งเพิ่มความระมัดระวัง

สำหรับการขุดบ่อลักษณะนี้ เป็นขั้นตอนการนำสายไฟฟ้าลงดินของการไฟฟ้านครหลวง ทั่วกรุงเทพฯ มีประมาณ 700 บ่อ เฉพาะบนถนนสุขุมวิท มีทั้งหมด 27 บ่อ ส่วนอุบัติเหตุในครั้งนี้ ตั้งข้อสังเกตไว้ 2 เรื่อง คือ การก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือน้ำหนักของรถบรรทุก ซึ่งจากการคำนวณน่าจะบรรทุกมาถึง 45 ตัน แต่ต้องพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ต่อไป


ส่วนมาตรการป้องกันปัญหา ไม่อยากให้ตั้งด่านตรวจน้ำหนักบนท้องถนน เพราะส่งผลกระทบให้การจราจรติดขัด ก็จะเน้นไปตรวจสอบที่ไซต์งานก่อสร้างเป็นหลัก ว่ารถบรรทุกที่วิ่งออกมามีการบรรทุกน้ำหนักเกินมาตรฐานหรือไม่

วางแผนใช้เครนยกรถบรรทุกออก-นำดินชั่งน้ำหนัก

ด้านนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. และนายสุนัน ภัคดีธนวาณิช ผู้จัดการโครงการรับเหมา ย่านสุขุมวิท 81 กล่าวว่า จากการประเมินเบื้องต้นพบว่า บ่อที่เกิดเหตุมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 7 เมตร ลึก 15 เมตร แต่ตัวคานเหล็ก 1 เส้น ที่รองรับระหว่างแผ่นคอนกรีตและปากบ่อ มีความยาวเพียง 6 เมตร ทำให้ต้องเอาคานอีกตัวมาเชื่อมต่อให้พอดีบ่อ จึงคาดว่าเป็นสาเหตุทำให้แผ่นคอนกรีตขนาดใหญ่ 4 แผ่น ที่ปิดปากบ่อทรุดตัวลง ซึ่งต้องไปคุยกับวิศวกรว่า สาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร แต่คนขับมีความผิดเรื่องบรรทุกน้ำหนักเกินแน่นอน

ส่วนการแก้ไขจะนำเครน 100 กิโลกรัม มายกรถบรรทุกออก พร้อมดินที่อยู่บนรถ และจะนำรถเครื่องชั่งมาชั่งรถบรรทุกด้วยว่าบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ จากนั้นจะนำคานเหล็กมาซ่อมแซม โดยครั้งนี้จะใช้เพิ่มเป็น 2 คานเหล็กวางคู่กัน และจะเอาหัวเชื่อมวางไขว้กัน

ด้านคนขับรถบรรทุกคันที่ประสบเหตุ เล่าว่า ตนเองขับออกมาจากไซต์งานก่อสร้างคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 64/2 เพื่อบรรทุกดินไปยังปริมณฑล ขับออกมาเพียงไม่กี่ร้อยเมตร เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ แผ่นคอนกรีตบริเวณล้อหลังก็ทรุดตัวลง ทำให้หน้ารถลอยขึ้น ตนเองตกใจจึงรีบลงจากรถ และเห็นว่ารถแท็กซี่ที่ขับตามหลังมาเสียหาย 1 คัน ส่วนไรเดอร์ที่ได้รับบาดเจ็บ ตนไม่เห็น

ปิดจราจรยาวกว่า 1.8 กม. ผู้รับเหมาเสนอยกรถเอง

ทั้งนี้ ขณะเจ้าหน้าที่ กทม.จะนำเครนมายกรถบรรทุกออก ผู้รับเหมาเจ้าของรถบรรทุกไม่ยอม เพราะกลัวว่ารถจะพัง และเสนอจะดำเนินการยกรถบรรทุกเอง จากนั้นก็นำรถเครนมายกด้านหน้ารถบรรทุก

ขณะที่การจราจรบนถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้า มีการปิดถนนตั้งแต่บริเวณแยกสุขุมวิท 101/1 ไปจนถึงแยก 64/2 ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร และเปิดช่องทางพิเศษฝั่งขาออก 1 ช่องทางจราจรแทน

ไม่เหมือนที่คุยกันไว้! ผู้รับเหมาไม่ยอมชั่งน้ำหนักดิน

จากนั้นผู้รับเหมาได้นำรถแบ็กโฮมาทยอยตักดินจากรถบรรทุก ถ่ายไปยังรถอีกคัน แล้วก็ให้ขับนำดินไปเททิ้งที่ไซต์งาน ซึ่งไม่เหมือนกับที่ได้ตกลงกันไว้ว่า เมื่อผู้รับเหมานำดินออกมาจะต้องให้เจ้าหน้าที่ชั่งน้ำหนัก ก่อนจะนำไปเท แต่ผู้รับเหมากลับนำดินไปเทคืนที่ไซต์งานเลย ทำให้ไม่ทราบว่า สรุปแล้วบรรทุกดินมาจำนวนเท่าไร ด้านเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง บอกว่า จากที่เข้าไปคุยกับผู้รับเหมา ก็คุยไม่รู้เรื่อง พูดเพียงว่าให้นำทนายความมาคุยอย่างเดียว

ชาวบ้านร้อง 2 บริษัทรับเหมา ทำถนนร้าว-รั้วพัง

นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในซอยสุขุมวิท 64/2 นำภาพถนนมีรอยร้าวมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน โดยระบุว่า ในซอยแห่งนี้มี 2 บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ทำงานแทบจะ 24 ชั่วโมง โดยเมื่อ 9 เดือนก่อน รถบรรทุกขนดินก็บรรทุกน้ำหนักเกิน จนเป็นเหตุให้แนวรั้วที่อยู่ในซอยพังลงมา และถนนมีรอยร้าว ท่อประปาแตก ประสบความเดือดร้อน จากที่เมื่อก่อนชาวบ้านเคยอยู่กันอย่างสงบสุข. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Made in Thailand แดนไทยเท่ : เสน่ห์ผ้าทอชาวเขา สู่แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของเชียงใหม่

ผ้าทอชาวเขาและเครื่องแต่งกายชนเผ่าต่างๆ ของไทยที่มีลวดลายสวยงามแปลกตาไม่เหมือนใคร ทำให้ดีไซเนอร์ชาวเชียงใหม่ นำมาออกแบบตัดเย็บ กลายเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นที่ทันสมัย

ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้องกรณีนักศึกษาไม่ได้รับเงิน

กรุงเทพฯ 3 พ.ค.-ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้อง กรณีนักศึกษา ไม่ได้รับเงิน ยืนยันโอนเงินให้เแล้ว 

พายุฤดูร้อนถล่ม 31 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง วันนี้ (3 พ.ค.) ได้รับผลกระทบ 31 จังหวัด ในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง

ข่าวแนะนำ

ไฟไหม้โกดังกระดาษดับหมดแน่คืนนี้ เสียหาย 500 ล้าน

เหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บกระดาษรีไซเคิล จ.สมุทรสาคร คุมเพลิงได้แล้ว 90% คาดดับไฟได้หมดภายในคืนนี้ ประเมินความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ด้านเจ้าของพร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

“นายกฯ-แพทองธาร” ขึ้นเวทีเพื่อไทย ยันเงินดิจิทัลได้แน่

“นายกฯ-แพทองธาร” ขึ้นเวทีเพื่อไทยพบประชาชน ขอบคุณชาวร้อยเอ็ด เลือก สส. ให้ได้เป็นรัฐบาล ย้ำเดินหน้าแก้ปัญหาภัยแล้ง-ยาเสพติด ยันดิจิทัลวอลเล็ตได้แน่สิ้นปีนี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเดินหน้าช่วยประชาชนทุกมิติ

นายกฯ พบชาวบ้านมหาสารคาม ย้ำชัดเงินดิจิทัลวอลเล็ตได้แน่ไตรมาส 4 ยืนยันรัฐบาลเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนในทุกๆ มิติ ทั้งภัยแล้ง ยาเสพติด หนี้นอกระบบ

ปภ.นำเฮลิคอปเตอร์บินโปรยน้ำดับไฟป่าห้วยตึงเฒ่า

เจ้าหน้าที่ ปภ. นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินโปรยน้ำดับไฟป่าหลังอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า และพื้นที่สวนลำไยของชาวบ้าน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่