“ชัชชาติ” คาด 2 สาเหตุ ฝาบ่อทรุด รถบรรทุกร่วงกลางเมือง

กรุงเทพฯ 8 พ.ย. – “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” เผยถึงเหตุฝาบ่อทรุดกลางเมือง รถบรรทุกร่วงเกือบมิดคัน ปากซอยสุขุมวิท 64/1 คาดเกิดจาก 2 สาเหตุ การก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน หรือรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ขณะที่ทั่ว กทม.มีบ่อลักษณะนี้ 700 บ่อ สั่งเพิ่มความระมัดระวัง


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงก่อนเที่ยงวันนี้ (8 พ.ย.66) บริเวณปากซอยสุขุมวิท 64/1 ใกล้ BTS ปุณณวิถี แผ่นซีเมนต์ปิดบ่อเกิดทรุดตัว จนเป็นหลุมขนาดใหญ่กลางถนน และมีรถบรรทุกดินคันหนึ่งตกลงไปเกือบมิดคัน โดยบริเวณดังกล่าวอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการนำสายไฟฟ้าลงดินของการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำงานช่วงกลางคืน และกลางวันจะปิดฝาท่อให้รถวิ่งตามปกติ ใต้ฝามีคานรับน้ำหนักไว้ เบื้องต้นมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และการจราจรบนถนนสุขุมวิท ขาเข้า ติดขัดอย่างหนัก ท้ายแถวยาวไปถึงบางนา

หลังเกิดเหตุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ทันที โดยเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่า รถบรรทุกคันดังกล่าวมีน้ำหนักเกิน ทำให้เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ คานเหล็กด้านล่างแผ่นคอนกรีต ซึ่งมีเพียง 1 คาน พาดไว้ระหว่างแผ่นคอนกรีตและปากบ่อ เกิดการหัก หลังจากนี้ต้องสอบถามไปที่การไฟฟ้าฯ ว่า สาเหตุที่คานหักเกิดจากอะไร และจะต้องตรวจสอบว่า รถคันดังกล่าวบรรทุกเกินมาเท่าไหร่ รวมถึงสั่งตรวจสอบไซต์งานของรถบรรทุกว่า ให้บรรทุกน้ำหนักมาเท่าไหร่


ปัญหาตอนนี้คือ กำลังวางแผนจะนำเครนยกรถบรรทุกออก แต่ต้องระมัดระวังตัวฝา หรือแผ่นเหล็ก 4 แผ่น ที่อาจตกไปด้านล่าง หากยกรถบรรทุกออก ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้นฝาแผ่นเหล็กไม่เสียหายมากนัก ยังสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก จะทำใหม่แค่คานเหล็กตรงกลางที่เสียหาย เบื้องต้นมอบหมายให้ ผอ.สำนักการโยธา ดำเนินการในส่วนนี้ ยอมรับว่าต้องใช้เวลา เพราะกระบวนการคิดต้องละเอียด โดยการร่วมมือระหว่าง กทม. การไฟฟ้าฯ และตำรวจ

กทม.มีบ่อลักษณะเดียวกัน 700 บ่อ สั่งเพิ่มความระมัดระวัง

สำหรับการขุดบ่อลักษณะนี้ เป็นขั้นตอนการนำสายไฟฟ้าลงดินของการไฟฟ้านครหลวง ทั่วกรุงเทพฯ มีประมาณ 700 บ่อ เฉพาะบนถนนสุขุมวิท มีทั้งหมด 27 บ่อ ส่วนอุบัติเหตุในครั้งนี้ ตั้งข้อสังเกตไว้ 2 เรื่อง คือ การก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือน้ำหนักของรถบรรทุก ซึ่งจากการคำนวณน่าจะบรรทุกมาถึง 45 ตัน แต่ต้องพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ต่อไป


ส่วนมาตรการป้องกันปัญหา ไม่อยากให้ตั้งด่านตรวจน้ำหนักบนท้องถนน เพราะส่งผลกระทบให้การจราจรติดขัด ก็จะเน้นไปตรวจสอบที่ไซต์งานก่อสร้างเป็นหลัก ว่ารถบรรทุกที่วิ่งออกมามีการบรรทุกน้ำหนักเกินมาตรฐานหรือไม่

วางแผนใช้เครนยกรถบรรทุกออก-นำดินชั่งน้ำหนัก

ด้านนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. และนายสุนัน ภัคดีธนวาณิช ผู้จัดการโครงการรับเหมา ย่านสุขุมวิท 81 กล่าวว่า จากการประเมินเบื้องต้นพบว่า บ่อที่เกิดเหตุมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 7 เมตร ลึก 15 เมตร แต่ตัวคานเหล็ก 1 เส้น ที่รองรับระหว่างแผ่นคอนกรีตและปากบ่อ มีความยาวเพียง 6 เมตร ทำให้ต้องเอาคานอีกตัวมาเชื่อมต่อให้พอดีบ่อ จึงคาดว่าเป็นสาเหตุทำให้แผ่นคอนกรีตขนาดใหญ่ 4 แผ่น ที่ปิดปากบ่อทรุดตัวลง ซึ่งต้องไปคุยกับวิศวกรว่า สาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร แต่คนขับมีความผิดเรื่องบรรทุกน้ำหนักเกินแน่นอน

ส่วนการแก้ไขจะนำเครน 100 กิโลกรัม มายกรถบรรทุกออก พร้อมดินที่อยู่บนรถ และจะนำรถเครื่องชั่งมาชั่งรถบรรทุกด้วยว่าบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ จากนั้นจะนำคานเหล็กมาซ่อมแซม โดยครั้งนี้จะใช้เพิ่มเป็น 2 คานเหล็กวางคู่กัน และจะเอาหัวเชื่อมวางไขว้กัน

ด้านคนขับรถบรรทุกคันที่ประสบเหตุ เล่าว่า ตนเองขับออกมาจากไซต์งานก่อสร้างคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 64/2 เพื่อบรรทุกดินไปยังปริมณฑล ขับออกมาเพียงไม่กี่ร้อยเมตร เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ แผ่นคอนกรีตบริเวณล้อหลังก็ทรุดตัวลง ทำให้หน้ารถลอยขึ้น ตนเองตกใจจึงรีบลงจากรถ และเห็นว่ารถแท็กซี่ที่ขับตามหลังมาเสียหาย 1 คัน ส่วนไรเดอร์ที่ได้รับบาดเจ็บ ตนไม่เห็น

ปิดจราจรยาวกว่า 1.8 กม. ผู้รับเหมาเสนอยกรถเอง

ทั้งนี้ ขณะเจ้าหน้าที่ กทม.จะนำเครนมายกรถบรรทุกออก ผู้รับเหมาเจ้าของรถบรรทุกไม่ยอม เพราะกลัวว่ารถจะพัง และเสนอจะดำเนินการยกรถบรรทุกเอง จากนั้นก็นำรถเครนมายกด้านหน้ารถบรรทุก

ขณะที่การจราจรบนถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้า มีการปิดถนนตั้งแต่บริเวณแยกสุขุมวิท 101/1 ไปจนถึงแยก 64/2 ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร และเปิดช่องทางพิเศษฝั่งขาออก 1 ช่องทางจราจรแทน

ไม่เหมือนที่คุยกันไว้! ผู้รับเหมาไม่ยอมชั่งน้ำหนักดิน

จากนั้นผู้รับเหมาได้นำรถแบ็กโฮมาทยอยตักดินจากรถบรรทุก ถ่ายไปยังรถอีกคัน แล้วก็ให้ขับนำดินไปเททิ้งที่ไซต์งาน ซึ่งไม่เหมือนกับที่ได้ตกลงกันไว้ว่า เมื่อผู้รับเหมานำดินออกมาจะต้องให้เจ้าหน้าที่ชั่งน้ำหนัก ก่อนจะนำไปเท แต่ผู้รับเหมากลับนำดินไปเทคืนที่ไซต์งานเลย ทำให้ไม่ทราบว่า สรุปแล้วบรรทุกดินมาจำนวนเท่าไร ด้านเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง บอกว่า จากที่เข้าไปคุยกับผู้รับเหมา ก็คุยไม่รู้เรื่อง พูดเพียงว่าให้นำทนายความมาคุยอย่างเดียว

ชาวบ้านร้อง 2 บริษัทรับเหมา ทำถนนร้าว-รั้วพัง

นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในซอยสุขุมวิท 64/2 นำภาพถนนมีรอยร้าวมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน โดยระบุว่า ในซอยแห่งนี้มี 2 บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ทำงานแทบจะ 24 ชั่วโมง โดยเมื่อ 9 เดือนก่อน รถบรรทุกขนดินก็บรรทุกน้ำหนักเกิน จนเป็นเหตุให้แนวรั้วที่อยู่ในซอยพังลงมา และถนนมีรอยร้าว ท่อประปาแตก ประสบความเดือดร้อน จากที่เมื่อก่อนชาวบ้านเคยอยู่กันอย่างสงบสุข. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนยังมีฝนตกหนักบางแห่ง

กทม. 2 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

วิวคว้าแชมป์

“วิว-บาส-เฟม” คว้าแชมป์แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น

1 มิ.ย. – “วิว กุลวุฒิ” ตบชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น ส่วน “บาส-เฟม” คว้าแชมป์คู่ผสมมาครองได้สำเร็จ แบดมินตัน ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 รายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักของไทยคนแรกที่ขึ้นมือ 1 ของโลก ตบเอาชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด 21-6 , 21-10 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมฉลองแชมป์ ก่อนขึ้นมือ 1 ของโลกอย่างทางการในสัปดาห์ในการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และยังเป็นแชมป์ที่ 4 ในปีนี้ของ “วิว” […]

“มาริษ” แถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC”

.ต่างประเทศ 1 มิ.ย.-“มาริษ” นำแถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” ยันทำทุกทางไม่ให้บานปลาย ย้ำ กต.ไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยยกหูหา “รองนายกฯ กัมพูชา” แล้ว เห็นพ้องตรงกัน เกิดความสงบความเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้าน “โฆษก กต.” ยันโพสต์ “ฮุนเซน” ไม่มีผล คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC” แน่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำแถลงข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย พลเอก มนัส จันดี เสนาธิการทหาร , นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า ตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยไทยและกัมพูชา เป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกัน ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางที่จะไม่ให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งถ้ากระทบมากไปจะไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องบก […]