ดราม่า “ครูกายแก้ว” เป็นเรื่องเล่าในตำนาน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค. – นักวิชาการด้านศาสนา แนะสายมู ควรมูอย่างมีสติ “ครูกายแก้ว” เป็นเพียงเรื่องเล่าในตำนาน ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่ามีที่มาอย่างไร ขณะที่คนดังขอไม่ยุ่ง และไม่เชื่อ “ครูกายแก้ว”


จากจุดเริ่มต้นของตั้งแต่ที่รถบรรทุกรูปปั้นขนาดใหญ่มีขนาดสูงเกินกว่าสะพานลอยคนข้าม ไม่สามารถผ่านไปได้ บริเวณรัชดาภิเษก 36 โดยภายหลังพบว่า รูปปั้นขนาดใหญ่ยักษ์มีปีก ดวงตาแดง เขี้ยวสีทอง มีลักษณะคนกึ่งนกคือ “ครูกายแก้ว” จนมีพิธีบวงสรวงเบิกเนตรไป เมื่อวันที่ 13 ส.ค.

ประเด็นนี้ก็ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง กระทั่งโลกออนไลน์ต่างเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ภายหลังจากที่มีการแชร์โพสต์ของ “บรรดาลูกศิษย์ครูกายแก้ว” ที่ต่างออกมาตามหา ลูกหมา, ลูกแมว, ลูกกระต่าย, ลูกไก่ ไปจนถึงลูกสัตว์ต่างๆ มีการตามหาเด็กทารกหรือเด็กไม่สมบูรณ์ด้วย โดยมีการอ้างว่า จะนำไปบูชายัญถวายครูกายแก้ว เนื่องจากเชื่อว่ามีความบริสุทธิ์ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง


วันนี้บริเวณลานสักการะของโรงแรม เดอะบาซาร์ แบงค็อก (The Bazaar Hotel Bangkok) ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งรูปปั้น ครูกายแก้ว มีการล้อมรั้วปิดกั้นพื้นที่โดยรอบ และติดประกาศห้ามเข้าตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. โดยจะเปิดให้เข้าสักการะได้ในช่วงเย็น หลังเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป

แต่ตลอดทัังวัน ยังคงมีผู้ศรัทธาจากหลายพื้นที่ ทยอยเดินทางเข้ามาสักการะอย่างต่อเนื่อง แม้จะไหว้ได้แค่จากด้านนอกก็ตาม พนักงานบริษัทเอกชนรายหนึ่ง เดินทางมาจากนนทบุรี เพื่อนำผลไม้ และเครื่องดื่มมาไหว้ หลังจากเมื่อ 2 วันก่อน เคยมาไหว้ขอพรเรื่องโชคลาภและการงาน แล้วสมหวัง เช่นเดียวกับหญิงชาวสุรินทร์ ที่นั่งรถเมล์มาจากรามคำแหง เพื่อนำองุ่นมาถวาย หลังจากเพิ่งมาร่วมพิธีบวงสรวง และเบิกเนตรครูกายแก้วไปเมื่อวันอาทิตย์ โดยส่วนตัวศรัทธาและเชื่อว่า ครูกายแก้ว เป็นนกการเวกในตำนาน มีความศักดิ์สิทธิ์เรื่องโชคลาภและหน้าที่การงาน จึงกลับมาขอพรอีกครั้ง

ขณะที่ อ.จตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการด้านพุทธศาสนา บอกว่า ครูกายแก้ว เป็นเพียงเรื่องเล่าตามความเชื่อในตำนาน ไม่ได้มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือว่าแท้จริงแล้วมีที่มาอย่างไร ส่วนเรื่องเล่าที่บอกว่า มีที่มาจากพระสงฆ์รูปหนึ่งเดินทางไปธุดงค์ปฏิบัติธรรม ทำสมาธิที่ปราสาทนครวัดนครธม ประเทศกัมพูชา และได้เรียนวิชาอาคมของครูกายแก้วสืบต่อมา ก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะถ้าไปในช่วงเกิดสงคราม คงถูกกับระเบิดเสียชีวิตไปแล้ว หรือถ้าไปช่วงหลังสงคราม ที่แห่งนี้ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวเต็มไปหมด ไม่สามารถเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม หรือทำสมาธิได้ และที่เล่ากันว่า ครูกายแก้ว เป็นอาจารย์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรเขมรโบราณ ยิ่งไม่ใช่ เพราะไม่มีหลักฐานยืนยัน ส่วนตัวมองว่า ครูกายแก้ว เป็นเพียงรูปปั้น ที่สร้างขึ้นจากจินตนาการตามความเชื่อของบางกลุ่มคน ไม่ใช่เทพ แต่เป็นปีศาจ มีลักษณะคล้ายกับเหมือนตัวกากอยด์ของฝั่งยุโรป


พร้อมเน้นย้ำว่า สายมูทั้งหลาย ควรมูอย่างมีสติ ใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองว่า มูแบบไหนดี หรือไม่ดี ไม่ควรมูในรูปแบบที่ละเมิดกฎหมาย สร้างความความเดือดร้อน หรือทำเรื่องผิดศีลธรรม เช่น การนำสุนัขและแมวไปบูชายัญ มันล้าหลัง ป่าเถื่อน และอำมหิต มันแสดงถึงความไม่ศิวิไลในการทำบุญ ทางที่ดีควรศรัทธาในคำสอนหรือปรัชญามากกว่า จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของการตลาดธุรกิจวัตถุมงคล

จิตแพทย์ ชี้ความเชื่อครูกายแก้ว อาจไม่ใช่เรื่องจริง

ด้าน นพ.ยงยุทธ วงค์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีนี้ว่า เหมือนกับความเชื่อทั่วไปที่เกิดขึ้นในคนที่มีความไม่มั่นคงทางจิตใจ ต้องนำเรื่องของความเชื่อเข้ามาช่วยสนับสนุน ความคิดและการกระทำ เทคนิคที่จะทำให้ความเชื่อนั้น น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น คือ การสร้างสตอรี่ หรือเรื่องราวมาผนวกกัน เหมือนกับจตุคามรามเทพ หรือ ตุ๊กตาลูกเทพ โดยคราวนี้จะเห็นว่า มีการอ้างว่า ครูกายแก้ว มาจากเขมร หรือเป็นอาจารย์ของท่านใดก็ตาม เรื่องนี้ต้องแยกออกจากกันว่า สตอรี่คือการสร้างเรื่องราว อาจไม่ใช่ข้อเท็จจริง เพียงแต่เสริมเติมแต่งให้คนเกิดความเชื่อ และศรัทธา

ดังนั้นอยากให้ทุกคนไตร่ตรองก่อนจะเชื่อสิ่งใด เพราะต้องเข้าใจ ว่าทุกครั้งที่คนเราประสบปัญหา จะมีคนอยู่ 3 ประเภท ได้แก่ 1. มุ่งแก้ไขปัญหาโดยปราศจากความเชื่อ คนกลุ่มนี้ไม่น่าเป็นห่วง 2. มีแต่ความเชื่อแต่ไม่มุ่งแก้ไข คนเหล่านี้จะมีพฤติกรรม อยู่เฉยๆ จนสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายไป หากไม่มีอะไรร้ายแรง ก็จะเชื่อว่าสิ่งที่ตนนับถือศรัทธานั้นดลบันดาล และ 3. คนที่ทั้งเชื่อ และมุ่งแก้ไข คนกลุ่มนี้ ไม่น่ากังวลเท่ากับคนกลุ่มที่ 2 เพราะยังแก้ไข ทั้งเชื่อและดำเนินการแก้ไขไปด้วยกัน ดังนั้นการจะเชื่อและศรัทธาอะไร อย่าลืมที่จะต้องแก้ไขและพัฒนาชีวิตตนเองไปด้วย

คนดังขอไม่ยุ่ง และไม่เชื่อ “ครูกายแก้ว”

ขณะที่เหล่าคนดัง มีการเคลื่อนไหวกับเรื่องนี้เช่นกัน เช่น “ณวัฒน์ อิสรไกรศรี” เจ้าของเวทีมิสแกรนด์ ออกมาโพสต์ในไอจีสตอรี่ฝากถึงสาวงามมิสแกรนด์ ทุกคนว่า “มิสแกรนด์ไทยแลนด์ และผู้ที่เตรียมตัวเข้าประกวดทุกคนขอความร่วมมือไม่ยุ่งเกี่ยวกับลัทธิครูกายแก้วไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม”

ขณะที่ “ริว จิตสัมผัส” ไลฟ์เฟซบุ๊กส่วนตัว บอกว่า ตนเองไม่ขอกราบไหว้ “ครูกายแก้ว” เพราะมีรูปลักษณ์เป็นซาตาน พญามาร คิดว่าไม่น่าจะดีเท่าไหร่ เป็นความคิดเห็นส่วนตัว สัญลักษณ์แบบนี้ อัตลักษณ์แบบนี้มักจะเกี่ยวกับซาตาน ใครไหว้ซาตานให้ระวัง ขอได้แต่อาจต้องแลกกับของรักหรือชีวิต ชี้ไม่ควรเอาซาตานมาวางไว้กลางเมือง อาจจะเกิดสิ่งไม่ดี ริว ยังบอกด้วยว่า ตามที่ตนศึกษามา พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นับถือพระพุทธเจ้า คิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะนับถือ “ครูกายแก้ว” ที่มีลักษณะเหมือนพญามาร คิดว่าคงมาจากการดลจิตดลใจของผู้สร้างเองหรือเปล่า ตนไม่แน่ใจ”

เช่นเดียวกับ “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” ก็ออกมาบอกว่า ไม่เชื่อ “ครูกายแก้ว” เป็นอาจารย์พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โดยบอกว่า “ครูกายแก้วคือใคร บอกว่าเป็นอาจารย์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เอามาจากไหน ใครจะเถียง ก็ให้เอาหลักฐานมา ลองไปสืบค้นดูว่าพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นับถืออะไร จากหลักฐานที่ค้นพบ บอกว่าพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นับถืออยู่ 2 เรื่อง หนึ่งคือปรัชญาปารมิตา เป็นสูตรมหายาน พระแม่มารดา พระพุทธเจ้า นี่คือสิ่งที่หลักฐานค้นไปเจอ สองคือพระไภษัชยคุรุ พระพุทธเจ้า เป็นพระประธานวัดพระบาทน้ำพุ หรือที่เรากันเรียกว่า พระหมอยา พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นับถือมากๆ และในสมัยนั้นมีคุรุ หรือครูบาอาจารย์ ที่สืบได้ว่ามีตัวตนจริงๆ และเป็นที่เคารพนับถือ แต่ไม่มีเรื่องครูกายแก้ว สืบให้ตายยังไงก็ไม่มี” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

ตชด.ลาดตระเวนเข้ม 24 ชม. แนวชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 29 มิ.ย. – ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 ลาดตระเวน ตั้งบังเกอร์ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.โคกสูง เฝ้าระวังพื้นที่ตลอด 24 ชม. หลังมีรายงานกลุ่มชาวกัมพูชาลักลอบเข้ามาใช้พื้นที่ปลูกพืช-สร้างสิ่งปลูกสร้าง ละเมิดข้อตกลง MOU 43 วันนี้ ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 (ตชด.12) จัดกำลังลาดตระเวนแนวชายแดนในพื้นที่เปราะบาง 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโคกสูง และอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังจากมีกรณีข้อพิพาท ระหว่างไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในจุดที่ยังเป็นพื้นที่ข้อพิพาทจากแนวเขตตาม MOU ปี 2543 ซึ่งห้ามทั้งสองประเทศสร้างสิ่งปลูกสร้างถาวรใดๆ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตชด.12 ในการตรวจจุดแนวชายแดน โดยเริ่มจากแนวตะเข็บรอยต่อบริเวณอำเภอโคกสูง ซึ่งติดกับ จ.บันเตียเมียนเจย ของกัมพูชา ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นแนวเขตพื้นที่ที่เรียกว่าดินต่อดิน ซึ่งเป็นแนวกั้นธรรมชาติอย่างชัดเจน ซึ่งจะแตกต่างจากแนวชายแดน อำเภออรัญประเทศ ที่มีคลองธรรมชาติ ซึ่งแนวคลองลึกและจะมีแนวลวดหนามกั้นชัดเจนตลอดทั้งเส้นทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ เผยว่า บริเวณ อ.โคกสูง มีรายงานว่ากลุ่มชาวกัมพูชา ลักลอบเข้ามาใช้พื้นที่ปลูกพืชหรือสร้างสิ่งปลูกสร้างเล็กๆ ซึ่งละเมิดข้อตกลง […]

น้องสาว ผกก.โจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการตายของพี่ชาย

กทม. 29 มิ.ย.-น้องสาวอดีตผู้กำกับโจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการเสียชีวิตของพี่ชาย และเร่งทำคดี เพื่อให้ครอบครัวได้รับความเป็นธรรม หลังผ่านมา 4 เดือน คดียังไม่คืบ ส่วนบรรยากาศงานฌาปนกิจวันนี้ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า เวลา 15.30 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ นายธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรลักษณ์มหาวิหาร หลังเก็บศพมานานกว่า 4 เดือน บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างโศกเศร้าของบุคคลในครอบครัว ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น ตลอดจนอดีตผู้บังคับบัญชาอย่างพลตำรวจโทสมหมาย กองวิสัยสุข อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดหรือ ป.ส. และผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าที่สนิทสนม ได้เดินทางมาร่วมในพิธีฌาปนกิจวันนี้ด้วย ขณะที่ นางสาวศรัญญา อุทธนผล อายุ 34 ปี น้องสาวของผู้กำกับโจ้ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีดังกล่าวว่า หลังจากตนพร้อมแฟนสาวของผู้กำกับโจ้ เดินทางยื่นคำร้องขอให้ DSI รับคดีการเสียชีวิตของพี่ชายเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากติดใจสาเหตุการการตายของพี่ชาย จนถึงขณะนี้นาน 4 เดือนแล้ว คดียังไม่คืบหน้า ซึ่งล่าสุดวันนี้ พ.ต.อ.ทวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม […]

คปท.แถลงยืนข้างกองทัพปกป้องอธิปไตย ไม่ใช่หนุนรัฐประหาร

กทม. 29 มิ.ย.- คปท. แถลงยืนข้างกองทัพปกป้องอธิปไตย ไม่ใช่สนับสนุนรัฐประหาร และไม่คิดสนับสนุนรัฐประหารแน่นอน นัดหารือใหญ่ 1 ก.ค.นี้ ยกระดับขับไล่นายกฯ-พรรคร่วม เวลา 14.00 น. นายพิชิต ไชยมงคล พร้อมแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ร่วมแถลงจุดยืน ภายหลังการชุมนุมใหญ่เมื่อวานนี้ แต่ปรากฏว่าการปราศรัยของแกนนำบนเวทีบางคนกลับมีเนื้อหาที่เปิดทางให้กับการรัฐประหาร ทำให้ในวันนี้นายพิชิต ต้องออกมาแถลงการณ์ด่วน ชี้แจงว่า พรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลกำลังกล่าวหาประชาชนที่ออกมาชุมนุมว่าสนับสนุนรัฐประหาร ทั้งที่ควรจะกดดันให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ยืนยันว่าแนวทางของ คปท. ไม่เคยเรียกร้องให้เกิดการรัฐประหารจากกองทัพใดๆ ทั้งสิ้น แต่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบต่อคำพูด และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และการที่ คปท. ยืนเคียงข้างกองทัพปกป้องอธิปไตยของชาติ ก็ไม่ได้มีความหมายถึงการรัฐประหารแต่อย่างใด ส่วนแนวทางการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ แกนนำ คปท. จะประชุมร่วมกับแกนนำทุกของคน “รวมพลังแผ่นดิน” ในวันอังคารที่ 1 กรกฎาคมนี้ ว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งจะเป็นการยกระดับกิจกรรมหลังวันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป เพื่อทำกิจกรรมให้เข้มข้นขึ้น อาจจะยังไม่ถึงขั้นปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล แต่พื้นที่การชุมนุมก็คงจะใกล้ทำเนียบรัฐบาลมากขึ้น และไม่ใช้พื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้ว […]

เพลิงไหม้หอพักพยาบาล รพ.ศิริราช

กทม. 29 มิ.ย. – เพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่คุมเพลิงได้แล้ว ช่วยผู้ติดค้างออกมาได้อย่างปลอดภัย วันที่ 29 มิถุนายน 2568 เวลา 12.30 น. รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่วมไทร เหตุเพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล (แปดไร่) โรงพยาบาลศิริราช ถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนนนท์ สปภ.กทม. ถึงที่เกิดเหตุ พบกลุ่มควันจำนวนมากบริเวณชั้นใต้ดิน จึงทำการตรวจสอบและอพยพผู้ที่ติดค้างด้านบนลงมา เวลา 12.55 น. พบจุดต้นเพลิงบริเวณชั้นใต้ดิน เจ้าหน้าที่ดำเนินการใช้น้ำทำการดับ มีผู้ติดค้างภายในลิฟต์ชั้นที่ 12 เจ้าหน้าที่และช่างลิฟต์ประจำอาคาร ได้ทำการช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย เวลา 13.04 น. เพลิงสงบ .-สำนักข่าวไทย