กทม. สั่งทุกเขตปูพรมสำรวจถังดับเพลิง

กทม. 29 มิ.ย.- รองผู้ว่าฯ กทม. สั่งทุกเขตปูพรมสำรวจถังดับเพลิงในพื้นที่ จัดเก็บถังเสื่อมสภาพ เร่งนำถังที่สั่งซื้อใหม่มาทดแทน พร้อมทยอยนำข้อมูลถังเข้าระบบออนไลน์


“ถังดับเพลิงตอนนี้มีหลายที่มา แต่ไม่ว่าจะมาจากไหน เมื่ออยู่ในชุมชนจะเป็นเรื่องของ กทม. ที่ต้องเข้ามาดูแล” รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวขณะที่ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยการจัดเก็บถังดับเพลิงที่เสื่อมสภาพในชุมชนจักรพรรดิพงษ์ และชุมชนวัดสระเกศ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เพื่อคลายความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับการจัดเก็บถังดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร วันนี้ (29 มิ.ย. 66)

การจัดเก็บถังดับเพลิงโดยเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ที่ไปจัดเก็บจะเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจ และความเชี่ยวชาญ เพื่อตรวจสอบว่าถังที่มีอยู่สามารถใช้ได้หรือไม่ หากใช้ได้ก็จะตั้งไว้จุดเดิม ถึงแม้ถังดับเพลิงในชุมชนจะเป็นชนิดผงเคมีแห้ง แต่ก็มีโอกาสรั่วได้เช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของกรุงเทพมหานครจะต้องปูพรมเพื่อตรวจสอบและจัดเก็บถังดับเพลิงที่ใช้ไม่ได้ออกจากพื้นที่ พร้อมกับทำหน้าที่เฝ้าระวังเพลิงด้วย สำหรับประชาชนทั่วไปหากสังเกตพบว่าถังดับเพลิงเป็นสนิมหรือบวม สามารถแจ้งมายังกรุงเทพมหานคร โดยโทร.199 แจ้งผ่านสำนักงานเขต หรือแจ้งผ่านระบบTraffy Fondue ได้


ตามหลักแล้วจะต้องมีถังดับเพลิง 5 หลังคาเรือนต่อ 1 ถัง แต่หากแต่ละหลังคาเรือนมีจำนวนคนมาก มีกิจกรรมที่ต้องเฝ้าระวังมาก หรือมีความเสี่ยงมาก ก็อาจต้องเพิ่มจำนวนถังให้เหมาะสม ซึ่งขณะนี้กรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างจัดทำแผนที่เสี่ยงภัยในกรุงเทพมหานคร (BKK Risk Map) สำรวจความเสี่ยงของชุมชน สำรวจผู้ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ อาทิ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก โดยให้ทุกเขตลงพื้นที่สำรวจความปลอดภัย จุดติดตั้งสัญญาณเตือนไฟไหม้ เส้นทางเคลื่อนย้าย พร้อมจัดทำแผนเผชิญเหตุทุกชุมชนให้ตรงกับสภาพของแต่ละพื้นที่

สำหรับความแตกต่างของถังดับเพลิงแต่ละประเภท ถังดับเพลิงสีแดง จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ถังดับเพลิงบรรจุผงเคมีแห้ง และถังดับเพลิงบรรจุก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) โดยถังดับเพลิงผงเคมีแห้งจะมีแรงดันที่ 195 PSI. มีเกจวัดแรงดัน สายฉีดมีขนาดเท่ากันตลอดทั้งเส้น ส่วนถังดับเพลิง CO2 จะมีแรงดันที่ประมาณ 800 – 1,200 PSI. ไม่มีเกจวัดแรงดัน เนื่องจากเป็นถังที่มีแรงดันสูง ปลายกระบอกฉีดจะมีลักษณะเป็นกรวย ส่วนถังดับเพลิงสีเขียว ภายในจะบรรจุน้ำยาเหลวระเหยหรือสารอื่นที่อยู่ในสถานะของเหลว มีเกจวัดแรงดัน และถังดับเพลิงสเตนเลส ภายในจะบรรจุโฟมหรือน้ำ ซึ่งถังดับเพลิงประเภทนี้จะไม่มีอยู่ในชุมชน ส่วนถังดับเพลิงที่อยู่ในชุมชนปัจจุบันจะมีถังดับเพลิงผงเคมีแห้ง (สีแดง) และถังดับเพลิงน้ำยาเหลวระเหย (สีเขียว)

วิธีการตรวจสอบและดูแลถังดับเพลิงเบื้องต้นสำหรับประชาชน ได้แก่


  • 1. สลักยังอยู่
  • 2. เกจวัดแรงดันอยู่ตรงกลาง ในช่องสีเขียว ไม่ตกไปทางซ้ายหรือขวา
  • 3. รูปทรงถังอยู่ในสภาพปกติ ไม่บวม (ถังที่บวมจะบวมที่ด้านล่าง) ไม่แตกร้าว ไม่เป็นสนิม สายสมบูรณ์ ไม่เปื่อยหรือฉีกขาด
  • 4. ค่อย ๆ ยกถังคว่ำแล้วฟังเสียง ถ้าสารเคมีภายในถังยังใช้ได้ จะได้ยินเสียงคล้ายทรายไหลภายในถัง ในกรณีบางถังถูกตั้งไว้นาน จะเกิดการเกาะของสารเคมี วิธีป้องกันจึงต้องหมั่นยกคว่ำ
  • 5. ควรเก็บถังให้ห่างจากความร้อน แสงแดด น้ำ หรือความชื้น และไม่ควรตั้งวางถังบนพื้นเพราะจะทำให้เกิดสนิมได้ง่าย หากติดตั้งแบบแขวน ระยะความสูงจากพื้นถึงก้านบีบไม่ควรเกิน 1.5 เมตร

เมื่อจะใช้งานเพื่อดับเพลิง ให้ใช้มือข้างถนัดหิ้ว บิดสลักออก ยกหัวฉีดชี้ไปที่ฐานของไฟหรือต้นเพลิง (ทำมุมประมาณ 45 องศา) ผู้ฉีดควรอยู่เหนือลม ระยะห่างจากฐานของไฟควรอยู่ห่างประมาณ 2 – 4 เมตร เพราะสารเคมีอาจจะฟุ้งเข้าตาได้ บีบไกให้สารพุ่งออกมา ทั้งนี้ การใช้ถังดับเพลิงจะเป็นการระงับอัคคีภัยในเบื้องต้นก่อนนักดับเพลิงจะไปถึงที่เกิดเหตุ

ในส่วนของการลงพื้นที่เพื่อตรวจความเรียบร้อยของถังดับเพลิงในชุมชน จะปูพรมดำเนินการทั้ง 50 เขต โดยชุมชนใดที่มีการจัดเก็บถังดับเพลิงที่เสื่อมสภาพไป กรุงเทพมหานครจะนำถังใหม่ไปติดตั้งให้โดยเร็ว ส่วนถังที่ยังใช้งานได้จะมีการตรวจสภาพปีเว้นปี เพื่อให้ประชาชนมั่นใจ ในขณะเดียวกันกรุงเทพมหานครเตรียมนำเข้าข้อมูลถังดับเพลิงในระบบ BKK Risk Map มีการแบ่งสีพื้นที่เป็น แผนที่สีแดง ส้ม เหลือง เพื่อแสดงความเสี่ยงของแต่ละพื้นที่ ซึ่งขณะนี้นำเข้าข้อมูลประปาหัวแดงเรียบร้อยแล้ว และจะดำเนินการนำเข้าข้อมูลในส่วนของถังดับเพลิงตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป

โดยจากนี้ ถังดับเพลิงทุกถังจะมีการติด QR Code เพื่อแสดงข้อมูลประเภทของถัง วันเวลาที่ตรวจบำรุงรักษาล่าสุด ตำแหน่งในการติดตั้ง นอกจากนี้จะมีการระบุคุณสมบัติการดับเพลิงของถังดับเพลิงแต่ละถังด้วย ซึ่งหากประชาชนไม่มั่นใจในการใช้งานให้แจ้งเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครเพื่อขอความช่วยเหลือ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

รวบเจ้าของหอพักโหดย่านรังสิต ข้อหากรรโชกทรัพย์

ปทุมธานี 28 พ.ค. – ตำรวจปทุมธานี บุกรวบเจ้าของหอพักย่านรังสิต พร้อมครอบครัว ข้อหากรรโชกทรัพย์ หลังมีนักศึกษาแจ้งความร้องทุกข์ว่า เจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกาย ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจปทุมธานี นำหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ลงวันที่ 27 พ.ค. ในข้อหากรรโชกทรัพย์ เข้าจับกุม พ.ต.อ.พูลศักดิ์ อายุ 64 ปี นางพัชรียา อายุ 56 ปี และนางสาวพูลชนก อายุ 28 ปี ที่หอพักใน 7 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี จากกรณีมีนักศึกษากว่า 20 ราย เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต และเจ้าหน้าที่ สคบ. ว่าเจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกายนักศึกษา ยึดเอกสารหลักฐานทางราชการ ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน บางจังหวะการจับกุมจะเห็นได้ว่ามีการโต้เถียงกันและมีการขัดขืน แต่สุดท้ายต้องยอมจำนนต่อหมายจับ พล.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า ตำรวจขอหมายจับจากศาลไป 3 […]

คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสี อบต.เกาะสะท้อน อส.-ครู เจ็บ 4

นราธิวาส 28 พ.ค. – คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสีต้านยาเสพติด อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้อาสาสมัครรักษาดินแดนบาดเจ็บ 3 คน ครูบาดเจ็บ 1 คน ส่วนเหตุคนร้ายยิงใส่ป้อมหน้า สภ.จะแนะ ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย เจ็บ 1 นาย เจ้าหน้าที่เร่งไล่ล่าคนร้าย คนร้ายชุดสีดำเดินถือปืนเข้ามาในลานกีฬาเซปักตะกร้อ งานแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด อบต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จากนั้นรัวยิงชุดแรก 4 นัด คนที่ร่วมแข่งขันพากันวิ่งหลบหนี จากนั้นคนร้ายรัวยิงอีก 3 นัด ซึ่งภาพหลุดจากวิถีกล้องไปแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่และหน่วยงานความมั่นคงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ 4 คน ประกอบด้วย 1.นายสุกรี ครูโรงเรียนบ้านเกาะสะท้อน 2.อาสารักษาดินแดนฮัมดานุดดีน 3.อาสารักษาดินแดนมุสลิม และนายไซนุดดิน ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลตากใบ สอบสวนทราบว่าคนร้าย 6 คน ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ 3 คัน ขี่เข้ามาโดยปะปนกับประชาชน และก่อเหตุยิงผู้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดจนมีผู้บาดเจ็บ หลังเกิดเหตุนายอำเภอตากใบลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บ […]

นายกฯ ยกหูคุย “ฮุน มาเนต” คลี่คลายเหตุปะทะชายแดน

รัฐสภา 28 พ.ค.- นายกฯ รับทราบเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เผยยกหูคุยตรง “นายกฯ ฮุน มาเนต” ให้สถานการณ์คลี่คลายเร็วที่สุด ปัดตอบกรณี “ทักษิณ” ประกาศสงครามกับว้าแดง-สถานการณ์ใต้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ในเวลา 17.40 น. ถึงสถานการณ์ชายแดนไทยไทย-กัมพูชา บริเวณด่านช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่า ได้รับรายงานแล้ว และจะมีการพูดคุยกันของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ส่วนตนเองได้พูดคุยกับกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีข้อตกลงกันออกมา ขณะเดียวกัน ตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับ พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วย ไม่มีอะไร ซึ่งมีความเข้าใจตรงกันว่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยเร็วที่สุด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อีก ส่วนจะมีการใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีสองประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของตนเองกับนายกฯ กัมพูชา ก็เป็นไปได้ด้วยดี เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศสงครามกับว้าแดง เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด รัฐบาลมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ะ ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ในวันนี้ […]

ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคาม หลังพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดน

กองทัพอากาศ 28 พ.ค.- ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคามต่อประเทศ หลังตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.03 น. กองทัพอากาศได้สั่งการให้เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 เครื่อง จากหน่วยบิน กองบิน 4 ปฏิบัติภารกิจการบินป้องกันทางอากาศ วิ่งขึ้นจากสนามบินตาคลี หลังหน่วยควบคุมอากาศยานและแจ้งเตือน ตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เครื่องบินต้องสงสัยลำดังกล่าว เป็นอากาศยานสมรรถนะสูงแบบ YAK-130 มีทิศทางบินมุ่งเข้าสู่เขตแดนไทยในระยะใกล้ กองทัพอากาศ จึงสั่งการบินพิสูจน์ทราบและแสดงท่าทีป้องปราม ตามมาตรการปกติ เพื่อเฝ้าระวังและยืนยันสถานการณ์ จากการติดตามพบว่า เครื่องบินดังกล่าวได้เปลี่ยนทิศทางและออกจากเขตใกล้ชายแดนไทย ในเวลา 13.16 น. โดยไม่แสดงพฤติกรรมรุกราน หรือมีเจตนาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศแต่อย่างใด “กองทัพอากาศ ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจปกติในการเฝ้าระวังป้องกันน่านฟ้า ซึ่งกองทัพอากาศดำเนินการอย่างเข้มแข็งและสม่ำเสมอ เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ สร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้แก่ประชาชน” โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว ทั้งนี้ […]