กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – “พิธา” นำ 32 ว่าที่ ส.ส.ก้าวไกล ประชุมร่วมกับผู้ว่าฯ กทม. พร้อมตั้ง Bangkok transition team หวังทำงานไร้รอยต่อ เสนอเดินหน้าแก้ กม.ระเบียบบริหาร กทม.ให้เลือกตั้งนายกเขต พร้อมรับ 21 ข้อเสนอของ กทม.เพื่อพัฒนากรุงเทพฯ น่าอยู่ขึ้น
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยผู้บริหาร กทม.เปิดห้องประชุมหารือกับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ 32 ว่าที่ ส.ส.กทม.ของพรรคก้าวไกล โดยทันทีที่ผู้ว่าฯ กทม. พบกับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ก็ได้สวมกอดกัน ผู้ว่าฯ กทม.ได้กล่าวกับนายวิโรจน์ว่า ฝากจัดการส่วย กทม.ด้วยนะ ขณะที่นายวิโรจน์ ยิ้มและตอบกลับว่าแค่เจออาจารย์ก็พอแล้ว และยินดีในการช่วยแก้ปัญหา เป็นหน้าที่ของผู้แทนราษฎร ขณะที่เมื่อนายพิธา มาถึงก็ได้ชนหมัดกับผู้ว่าฯ กทม.ด้วย
นายชัชชาติ กล่าวภายหลังการประชุมว่า รู้สึกยินดีที่มีการนัดพูดคุยกัน ขอบคุณคุณพิธาที่ให้ความเห็นที่น่าสนใจในการแก้ปัญหา กทม.หลายเรื่อง วันนี้เป็นก้าวแรกของการเดินทางไกล จุดมุ่งหมายเดียวกันคือทำประโยชน์ให้ประชาชนสูงสุด โดย กทม.เสนอ 21 ข้อเสนอเพื่อพัฒนากรุงเทพฯ เช่น การใช้ที่ดินของรัฐเพื่อประโยชน์ของประชาชน เพื่อแก้ปัญหาปากท้อง ผลักดันโครงการตามวาระแห่งชาติ แก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างใน กทม.คือมีการเสนอย้ายท่าเรือคลองเตย ทบทวนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ลดความเหลื่อมล้ำ การแก้ปัญหาการจราจร เป็นต้น
ด้านนายพิธา กล่าวว่า การนัดคุยวันนี้เพื่อการทำงานไร้รอยต่อ และ กทม.ก็มีว่าที่ ส.ส.จากพรรคก้าวไกลถึง 32 คน เชื่อว่าจะช่วยผลักดันกฎหมายต่าง ๆเพื่อคนกรุงเทพฯ ได้ ซึ่งยินดีรับทั้ง 21 ข้อเสนอ ที่จะทำงานร่วมกับกับ ส.ส.และรัฐบาลต่อไป หลาย ๆ ข้อสอดคล้องกับ 300 นโยบายที่ก้าวไกลเสนอ โดยก้าวไกลมี 45 กฎหมาย ที่พรรคเตรียมเสนอสภาเมื่อเป็นรัฐบาล โดยหยิบยกกฎหมาย 1 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับ กทม. ที่เตรียมเสนอคือการแก้ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการ กทม.เพื่อปรับโครงสร้างใหม่ ให้มีการเลือกตั้งนายกเขต เพราะที่ผ่านมา กทม.อาจจะไม่คล่องตัวในการแก้ปัญหาให้ประชาชนได้รวดเร็วในระดับท้องที่ จากเหตุผล คือ สำนักงานเขต กทม.รับผิดชอบดูแลประชาชนมากกว่าท้องถิ่นอื่นถึง 5 เท่า กทม.ไม่มีกลไกท้องถิ่นระดับรองลงมาในการจัดทำบริการสาธารณะให้ประชาชน จากโครงสร้างการบริหาร ในปัจจุบันทำให้ กทม.ทำงานลำบาก
ขณะที่ผู้ว่า กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า เห็นด้วย ที่จะมีการปรับแก้กฎหมาย กทม.ให้ทันสมัยขึ้น ส่วนเรื่องเลือกตั้งระดับเขตนั้น ตนเชื่อมั่นในการกระจายอำนาจอยู่แล้วว่าจะช่วยให้เกิดการพัฒนา แต่รายละเอียดต่างๆ ก็คงจะได้คุยกันต่อไป
ขณะที่นายพิธา กล่าวต่อว่า วันนี้มีการตั้ง Bangkok transition team ขึ้นเพื่อทำงานร่วมมือระหว่าง กทม.และพรรคก้าวไกล โดยให้นายพิจารณ์ เชาวพัฒนพงศ์ เป็นประธานคณะทำงานในส่วนของพรรคก้าวไกล ส่วน กทม.คือนายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษา ผู้ว่าฯ กทม. ร่วมกับทีมงานผู้บริหาร กทม.เพื่อประชุมหารือในประเด็นต่าง ๆ ต่อไป
ส่วนเรื่องที่มองตรงกันว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน และทางพรรคก้าวไกล ก็มีแนวทางในการช่วยแก้ปัญหา เช่น การบริหารแก้ปัญหาน้ำท่วม กทม., การป้องกันการหนุนของน้ำทะเล แก้ได้โดยนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เรื่องปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่เป็นปัญหาต้องแก้ในมุมกว้าง ต้องมีมิติระหว่างประเทศคุยกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย การแก้ปัญหาการจราจร ต้องลดการเดินทางรถส่วนตัว เน้นให้มีระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกเข้าถึงระดับเส้นเลือดฝอยได้จริง การทำตั๋วร่วมมาใช้ให้ได้จริง ให้มีราคาเหมาะสม ส่วนอีกหลายเรื่องของปัญหา เช่น รถไฟฟ้าสีเขียวต้องลงลึกในรายละเอียดเพื่อหาทางแก้ต่อไป. -สำนักข่าวไทย