สธ.ยังไม่พบผู้ได้รับอันตรายจากสารซีเซียม-137

สำนักข่าวไทย 14 มี.ค. – หมอเผยผลเฝ้าระวังทางสาธารณสุขยังไม่พบผู้เข้ามารักษาในอาการที่เข้าได้กับการได้รับสารซีเซียม-137 แนะประชาชนหากเกิดอาการไม่รู้สาเหตุ อาทิ แผลคล้ายไฟไหม้ ดำคล้ำที่ไม่ได้เกิดจากไฟช็อต ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ให้เข้าปรึกษาแพทย์ทันที


นพ.กิติพงษ์ พนมยงค์ นายแพทย์เชี่ยวชาญ ด้านเวชกรรม สาขาเวชกรรมทั่วไป หัวหน้ากลุ่มศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านอาชีวเวชศาสตร์และเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กรมการแพทย์ กล่าวถึงกรณี ท่อบรรจุสารซีเซียม-137 จากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำที่จังหวัดปราจีนบุรี หายปริศนาหลายวันว่า สารซีเซียม-137 ซึ่งจะปล่อยรังสีเบต้าและรังสีแกรมม่า ส่งผลกระทบอันตรายต่อสุขภาพ โดยขึ้นอยู่กับปริมาณรังสีที่ได้รับ และระยะเวลาที่ได้รับรังสีนั้น เบื้องต้นหากท่อบรรจุสารดังกล่าวยังอยู่ในสภาพเดิมยังไม่ถูกชำแหละ ปริมาณการปล่อยรังสีจะน้อยมาก แต่หากได้รับเป็นระยะเวลานานก็มีอันตรายเช่นกัน ส่วนถ้าหากท่อบรรจุสารนั้นถูกชำแหละ จะทำให้สารนั้นถูกปล่อยออกมามากขึ้น และเนื่องจากมีลักษณะเป็นผง อาจจะทำให้มีการสูดดม หรือสัมผัสโดยตรง และเป็นอันตรายมากขึ้น เช่น หากเอามือไปจับ อาจจะทำให้ผิวหนังไหม้หรือถึงขั้นสูญเสียอวัยวะบริเวณนั้นไป นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อระบบเลือด โดยเฉพาะเม็ดเลือดขาว อย่างไรก็ตามจากการเฝ้าระวัง ด้านสาธารณสุขในพื้นที่ ในรอบ 4 วันนี้ ยังไม่พบว่ามีผู้ที่เข้ามารับการรักษาในอาการที่เข้าได้กับการได้รับสารซีเซียม-137 แต่อย่างใด แต่ก็ต้องขอแนะนำประชาชนว่าหากเกิดอาการที่ไม่รู้สาเหตุ เช่น เกิดแผลคล้ายไฟไหม้ ดำคล้ำที่ไม่ได้เกิดจากปัญหาน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ หรือไฟฟ้าช็อต ไม่แน่ใจก็สามารถโทรมาปรึกษาหรือเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลได้

นพ.กิติพงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เนื่องจากทีมค้นหายังไม่พบสารซีเซียม-137 ที่หายไป แม้จะมีการจัดตั้งทีมค้นหาตรวจวัดปริมาณรังสี ตามร้านรับซื้อของเก่าในหลายๆ จุดไปแล้ว ไม่แน่ใจว่าผู้ที่นำออกไปมีการนำไปทิ้งที่ไหนหรือไม่ ดังนั้นหากประชาชนพบวัตถุต้องสงสัย โดยเฉพาะชนิดที่เป็นโลหะ มีสัญลักษณ์รูปใบพัด มีคำเตือนภาษาอังกฤษ Dangerous หรือคำว่า Radio Active และอื่นๆ ขอให้ อยู่ให้ห่างและแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ ทั้งนี้หากบังเอิญว่ามีการสัมผัสโดยไม่รู้ตัว ขอให้ถอดเสื้อผ้า ชำระร่างกาย นำเสื้อผ้าชุดนั้นใส่ถุงมัดปากไว้ในที่ปลอดภัยห่างไกล แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบปริมาณรังสีและเพื่อนำไปทำลายต่อไป. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก