กรุงเทพฯ 1 ก.พ. – กทม. ประกาศขอความร่วมมือ WFH ตามมาตรการวาระแห่งชาติ PM 2.5 จากการคาดการณ์แนวโน้มฝุ่นจะมีค่าสูงต่อเนื่องในช่วงวันที่ 2-4 ก.พ.นี้
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพมหานคร มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยวันนี้ (1 ก.พ. 66) ณ เวลา 18.00 น. ค่าฝุ่นสูงขึ้นในระดับสีแดง มากกว่า 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จำนวน 14 พื้นที่ เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและปิด ส่งผลให้ฝุ่นเกิดการสะสมตัวมากขึ้น และจากการคาดการณ์แนวโน้มฝุ่นจะมีค่าสูงต่อเนื่องในช่วงวันที่ 2-4 ก.พ. 66
ตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติการแก้ปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง PM 2.5 และการหารือร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กรุงเทพมหานครพิจารณาแล้วจึงดำเนินการตามมาตรการดังนี้
WFH 2 วัน (2-3 กุมภาพันธ์ 2566)
-หน่วยงาน กทม. WFH ยกเว้นส่วนที่ให้บริการประชาชน (บุคลากร กทม. ที่ปฏิบัติงานกลางแจ้ง ขอให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา)
-ประสานกับกรมควบคุมมลพิษเพื่อขอความร่วมมือหน่วยงานราชการในพื้นที่ให้ WFH
-ให้ผู้อำนวยการเขตประสานกับเอกชนในพื้นที่ โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ให้ความร่วมมือในการ WFH และสรุปรายงานผลความร่วมมือ ภายในวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566
-กลุ่มเปราะบาง (ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยทางเดินหายใจ และเด็กเล็ก)
-ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 ศูนย์ และ อสส. ออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ แจกหน้ากากอนามัย ให้คำแนะนำ และเฝ้าระวังอาการ
-ขอความร่วมมือสวมหน้ากากอนามัย และลดกิจกรรมภายนอกอาคาร
-หากมีอาการให้ปรึกษาคลินิกมลพิษทางอากาศ ของ กทม. ทั้ง 5 แห่ง คือ เจริญกรุงประชารักษ์ ตากสิน สิรินธร ราชพิพัฒน์ โรงพยาบาลกลาง
เปิดทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 2-4 กุมภาพันธ์ 08.00-15.00 น. สามารถสอบถาม 1646 สายด่วนสุขภาพ
โรงเรียน กทม.
กทม. ไม่ได้สั่งปิดโรงเรียนทั้งหมด เนื่องจากเห็นว่าครูและบุคลากรในโรงเรียน กทม. ได้เตรียมพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ และสามารถช่วยดูแลเด็กได้โดยไม่เป็นภาระกับผู้ปกครอง ตามมาตรการดังต่อไปนี้
-ให้นักเรียนสวมหน้ากากตลอดเวลา (นอกอาคารสวมหน้ากาก 2 ชั้น และ 1 ชั้นในอาคาร)
-ห้ามทำกิจกรรมกลางแจ้งทุกชนิด
-อยู่บ้านแบบสมัครใจได้ หากที่บ้านมีพื้นที่ปลอดฝุ่น
-ทำความสะอาดโรงเรียนเพื่อลดฝุ่น
สถานที่ก่อสร้าง
-ควบคุมการเกิดฝุ่นละอองในสถานที่ก่อสร้างที่อยู่ในกำกับของ กทม. ทุกแห่งอย่างเคร่งครัด
-ตรวจสอบและขอความร่วมมือสถานที่ก่อสร้างเอกชนให้ควบคุมฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้างและการขนส่งอย่างเคร่งครัด กำหนดพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ
-ให้ผู้อำนวยการเขตทุกเขตประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ งดการเผาในที่โล่ง เช่น การเผาหญ้า การเผาขยะ
การเดินทาง
-ประสานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล กวดขันการจอดรถในที่ห้ามจอดบนถนนสายหลักและสายรองตลอดเวลา และการปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
-ขอความร่วมมือประชาชนใช้บริการรถขนส่งมวลชน
-กวดขันไม่ให้รถเครื่องยนต์ดีเซลที่มีค่าไอเสียเกินมาตรฐานมาวิ่งบนท้องถนน .-สำนักข่าวไทย