สธ.มอบของขวัญปีใหม่ 2566 เปิด “คลินิกผู้สูงอายุ” ใน รพ.ทุกระดับ

นนทบุรี 5 ม.ค.- สธ.มอบ “ของขวัญปีใหม่ 2566 สำหรับผู้สูงอายุ” เปิด “คลินิกผู้สูงอายุ” ในโรงพยาบาลทุกระดับ ให้ผู้สูงอายุเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างทั่วถึงเท่าเทียม เพื่ออายุยืนอย่างมีคุณภาพ


จากการคาดการณ์ขององค์การสหประชาชาติระบุว่า ในปี 2040 ประเทศไทยจะมีสัดส่วนประชากรสูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) มากเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน ขณะที่ปัจจุบัน (มิเตอร์ประเทศไทย มหาวิทยาลัยมหิดล, 18 ธ.ค.2565) ประเทศไทยมีประชากรรวม 66.21 ล้านคน เป็นผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป 13.28 ล้านคน หรือร้อยละ 20.05 ของประชากรทั้งประเทศ นั่นหมายถึงขณะนี้ประเทศไทยเป็นสังคมสูงวัยแบบสมบูรณ์ และยังมีการคาดการณ์ว่าอีกไม่ถึง 10 ปี (พ.ศ.2574) ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุที่อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 25% และประมาณ 4% ของผู้สูงอายุ จะไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันด้วยตัวเอง

นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเข้าสู่สังคมสูงวัย และให้ความสำคัญกับปัญหาสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ มีแผนการที่จะขับเคลื่อนนโยบายด้านสุขภาพผู้สูงอายุให้ได้รับการดูแลอย่างเป็นระบบและทั่วถึง มุ่งเน้นให้มีมาตรการในการดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุเป็นนโยบายสำคัญ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีอายุยืนอย่างมีคุณภาพ


ในโอกาสปีใหม่ 2566 นายอนุทิน มอบนโยบายให้ดำเนิน “โครงการของขวัญปีใหม่สำหรับผู้สูงอายุ” ขึ้น โดยกรมการแพทย์ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานร่วมกับกองบริหารการสาธารณสุข และโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข รับผิดชอบด้านการดูแลรักษา เมื่อผู้สูงอายุได้รับการประเมินว่ามีความเสี่ยงในกลุ่มอาการสูงอายุหรือโรคที่เป็นปัญหาสำคัญ ได้รับการส่งต่อเข้ารับการดูแลรักษาที่ “คลินิกผู้สูงอายุ” ในโรงพยาบาลทุกระดับ พร้อมทั้งร่วมมือกับ สปสช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตผู้สูงอายุ เช่น ปัญหาสายตา ปัญหาด้านการกลั้นปัสสาวะ โดยการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็น อาทิ แว่นสายตา ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ และอื่นๆ ที่จำเป็น ให้แก่ผู้สูงอายุ

นพ.ธงชัย กล่าวต่อไปว่า กรมการแพทย์วางแนวทางในการขับเคลื่อน “โครงการของขวัญปีใหม่สำหรับผู้สูงอายุ” พ.ศ.2566 ในประเด็นหลักๆ ดังนี้ 1.สนับสนุนการจัดตั้ง “คลินิกผู้สูงอายุ” ในโรงพยาบาลทุกระดับตามแนวทางเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ (Geriatric approach) เพื่อรองรับการเข้าถึงบริการรับส่งต่อผู้สูงอายุกลุ่มที่มีความเสี่ยงหรือมีปัญหากลุ่มอาการสูงอายุ (Geriatric Syndromes) จากการคัดกรองโดยอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) จัดทำมาตรฐานและส่งเสริมการจัดตั้งคลินิกผู้สูงอายุในโรงพยาบาลทุกระดับ 2.จัดทำหลักสูตรด้านผู้สูงอายุและฝึกอบรมบุคลากรที่มีหน้าที่ในดูแลรักษาผู้สูงอายุ ได้แก่ แพทย์ พยาบาล แพทย์แผนไทย นักวิชาการสาธารณสุขและวิชาชีพอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมายให้สามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ

3.เตรียมพร้อมด้านเทคโนโลยีสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเป็นแนวทางในการนำไปสู่การวินิจฉัย กำหนดแนวทางดูแลรักษารายบุคคล สามารถรับส่งต่อระหว่างหน่วยบริการและจัดการข้อมูลดูแลรักษาได้อย่างเชื่อมโยงด้วยระบบ DMS Care Tools 4.บูรณาการงานร่วมกันระหว่างกรมอื่นๆ ในกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย กรมสุขภาพจิต กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เช่น ร่วมสนับสนุนการตรวจวินิจฉัยโรคทางสายตา และสนับสนุนแว่นตา เป็นต้น


โดยมีเป้าหมายสำคัญคือเพื่อปิดช่องว่างความไม่เท่าเทียมและมุ่งสร้างความทั่วถึงด้านการเข้าถึงบริการของผู้สูงอายุในคลินิกผู้สูงอายุ กระจายโอกาสให้ผู้สูงอายุที่มีปัญหาได้รับการดูแลรักษา ตลอดจนช่วยชะลอการเข้าสู่ภาวะพึ่งพิงและให้ผู้สูงอายุคงศักยภาพในการดำเนินการชีวิตอย่างมีคุณภาพ

พญ.บุษกร โลหารชุน ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กล่าวว่า สถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ เป็นหน่วยงานในสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข มีพันธกิจหลักในการพัฒนาศึกษา วิเคราะห์ วิจัย ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีทางการแพทย์ด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ตลอดจนการดูแลรักษาฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยก่อนวัยผู้สูงอายุและผู้สูงอายุ สถาบันฯ เปิดให้บริการ “คลินิกผู้สูงอายุ” ตามแนวทางการดำเนินงาน “โครงการของขวัญปีใหม่สำหรับผู้สูงอายุ” เพื่อให้บริการประเมินสภาวะสุขภาพผู้สูงอายุ ดังนี้ 1.ประเมินความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน 2.คัดกรองความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด 3.คัดกรองความเสี่ยงหกล้ม 4.ประเมินสุขภาพช่องปาก 5.คัดกรองข้อเข่าเสื่อม 6.คัดกรองภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่

7.ประเมินปัญหาด้านการนอน 8.คัดกรองภาวะซึมเศร้า 9.คัดกรองภาวะสมองเสื่อม 10.คัดกรองสุขภาวะทางตา 11.คัดกรองภาวะด้านโภชนาการ รวมถึงให้คำปรึกษาแนะนำเรื่องการใช้ยาและการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ โดยสหวิชาชีพทั้งแพทย์ พยาบาล นักกายภาพบำบัด นักกิจกรรมบำบัด และนักโภชนาการ เป็นต้น ด้วยเครื่องมือที่มีคุณภาพสูง ถูกต้องและแม่นยำ เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแล รักษา ป้องกันและฟื้นฟูได้อย่างครอบคลุมและเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]