“สมศักดิ์” เผยระบบบล็อกเชน แจ้งเบาะแสยาเสพติดแบบความลับ เตรียมทดลองใช้ ม.ค.นี้

31 ธ.ค. – “สมศักดิ์” เผยระบบบล็อกเชน แจ้งเบาะแสยาเสพติดแบบความลับ เตรียมทดลองใช้ ม.ค.นี้ หวังลบความเชื่อผู้ค้ายา รู้ตัวคนแจ้ง มั่นใจสังคมตื่นตัว ยึดอายัดทรัพย์ถึงเป้า 1 แสนล้าน ช่วยป้องกันเยาวชนเป็นทาสยาเสพติด


วันที่ 31 ธ.ค.65 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการแจ้งเบาะแสยาเสพติดแบบไม่เปิดเผยตัวตน หรือระบบบล็อกเชน ว่า กระทรวงยุติธรรมเล็งเห็นความสำคัญของผู้แจ้งเบาะแสยาเสพติด ที่ขณะนี้สังคมเริ่มตื่นตัวอยากเข้ามามีส่วนร่วมเป็นพลเมืองดีมากขึ้น อย่างนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เพราะทุกภาคส่วนตระหนักเห็นแล้วว่ายาเสพติดถือเป็นภัยร้ายในสังคมที่ทำลายอนาคตเยาวชน แต่ที่ผ่านมามีคนโทรแจ้งเบาะแสที่สายด่วน 1386 เพียง 16,000 คู่สาย ทั้งที่ประเทศไทยมีกว่า 8 หมื่นหมู่บ้าน โดยอาจเป็นเพราะประชาชนกังวลในเรื่องของความปลอดภัย ตนจึงให้ ป.ป.ส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำระบบบล็อกเชน ที่ไม่สามารถระบุตัวตนคนแจ้งได้ ทำให้มีความปลอดภัย 100% ซึ่งจะเป็นการช่วยลบความเชื่อแบบเดิมๆ ที่ผู้ค้ายา จะรู้ตัวคนแจ้งเบาะแสเร็วมากจากเจ้าหน้าที่รัฐ

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ระบบบล็อกเชน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนทีมวิจัยของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กำลังศึกษาระบบอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าระบบมีความปลอดภัยสูง คาดว่าจะสามารถทดสอบการใช้งานได้เบื้องต้นภายในเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 เพราะทีมวิจัยกำลังเร่งศึกษารูปแบบการจ่ายเงินรางวัลนำจับ 5% ที่ขณะนี้มี 2 แนวทาง คือ 1.การจ่ายผ่านระบบ Blockchain และ Smart Contracts 2.การจ่ายผ่านระบบ Virtual Account และ ATM แต่ในแนวทางแรก มีความเป็นไปได้มากกว่า เพราะด้วยขั้นตอนที่ซับซ้อน จะไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า ใครเป็นผู้แจ้งเบาะแส ซึ่งจะถูกจัดเก็บข้อมูลเป็นความลับ


“และนอกจากทีมวิจัยศึกษาระบบอย่างละเอียดแล้ว ป.ป.ส. จะสำรวจความต้องการของผู้แจ้งเบาะแสผ่านเว็บไซต์ด้วย เพื่อจะได้พัฒนาระบบให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึง หรือดำเนินการได้ง่าย รวมถึงได้มีการหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อให้การจ่ายเงินรางวัลนำจับเป็น สกุลเงินดิจิทัล ถูกต้องตามระเบียบ เรียบร้อยแล้ว จะเห็นได้ว่า ผมพยายามนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเป็นอีกกลไกในการปราบปรามยาเสพติด เพราะผมเข้าใจดีว่าปัญหายาเสพติดได้เข้าไปสร้างความรุนแรงในครอบครัว จึงเน้นการยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายผู้ค้ายา เพื่อตัดวงจรเหล่านี้ ทำให้ปี 66 ตั้งเป้ายึดทรัพย์ไว้ 1 แสนล้านบาท ซึ่งถ้าได้รับความร่วมมือจากประชาชนแจ้งเบาะแสผ่านระบบบล็อกเชน ก็จะทำให้สามารถยึดได้เกินเป้าอย่างแน่นอน และจะเป็นการร่วมมือกันแก้ปัญหายาเสพติด ให้ลูกหลานของเราไม่ตกเป็นทาสของยาเสพติดอีกต่อไป“ รมว.ยุติธรรม กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

เคลื่อน 18 ศพเหยื่อบัสมรณะ ถึงบ้านเกิด ญาติร่ำไห้อาลัย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิต 18 ราย จากเหตุรถบัสพลิกคว่ำ ถึงวัดป่าวิเวกธรรมคุณ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติที่รอรับศพ

สำรวจจุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ พบว่ารถคันดังกล่าวฝ่าฝืนคำสั่งไม่ยอมจอดพักรถและลงชื่อก่อนจุดเกิดเหตุ 1 กิโลเมตร ทำให้รถเกิดเบรกแตกไหลลงเขาจนเกิดโศกนาฏกรรม

นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ถกปราบบุหรี่ไฟฟ้า

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ประชุมปราบปราม “บุหรี่ไฟฟ้า” ขีดเส้น 30 วัน ดำเนินการให้เด็ดขาด สั่งเข้มห้ามขายใกล้สถานศึกษา ต้องจัดการผู้นำเข้า

รถบัสดูงานคว่ำ

เร่งหาสาเหตุรถบัสคณะดูงานบึงกาฬ พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน

เจ้าหน้าที่เร่งกู้ซากรถบัสคณะดูงานเทศบาลบึงกาฬ เสียหลักพลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก พร้อมเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุ หลังมีรายงานว่าตอนลงเขารถบัสใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม.