กทม. หารือมาตรการจัดงาน Countdown เน้นความปลอดภัย

กรุงเทพฯ 29 ธ.ค. – กทม. หารือมาตรการจัดงาน Countdown เน้นความปลอดภัย การสื่อสารระหว่างหน่วยงานต้องชัดเจน หากเกิดเหตุ


(29 ธ.ค.65) ณ ห้อง @work ชั้น 3 โซนออฟฟิศ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน : รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือมาตรการจัดงานปีใหม่ ร่วมกับเซ็นทรัลเวิลด์ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ว่า ความห่วงใยด้านความปลอดภัยของประชาชน เนื่องจากเป็นกิจกรรม Countdown ซึ่งเซ็นทรัลเวิลด์จะเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติมาร่วมงาน จำนวนมาก คาดว่าประมาณ 80,000-100,000 คน ที่เป็นห่วงคือ ปีนี้คนจะเยอะมาก อาจจะอั้นมาจากหลายๆ ปี และเป็นปีที่มีการผ่อนคลายมาตรการหลายๆ อย่าง ท่านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีความเป็นห่วงในเรื่องของความแออัดของประชาชนที่จะมาอยู่ในพื้นที่เดียวกัน มาตรการทางสุขภาพที่พอจะทำได้ และไม่มีเรื่องการระบาดของโรค หรือเหตุที่เราไม่อยากให้เกิด อาทิ อัคคีภัย เหตุจราจล หรือเหตุไม่ปลอดภัยอื่นๆหลังจากนี้

ทั้งนี้ ทางศูนย์การค้าและตำรวจได้ร่วมกันจัดกิจกรรมมาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องมาหลายปี มีความชำนาญในพื้นที่และการจัดงาน กทม. ในฐานะเจ้าของพื้นที่วันนี้จึงเข้าร่วมรับฟังการทำงานของทั้ง 2 หน่วยงาน สิ่งใดที่เป็นช่องว่างที่ กทม. จะช่วยเพิ่มเติมได้ สิ่งใดเป็นข้อกังวล ข้อจำกัด รวมถึงสิ่งที่เคยมักจะเป็นปัญหาในเวลาที่เกิดเหตุ คือเรื่องการสื่อสารระหว่างกัน การย้ายประชาชนหมู่มากออกจากพื้นที่หากเกิดเหตุ การเข้าพื้นที่ให้เร็วเพื่อช่วยเหลือประชาชนต้องทำแบบไหน รวมถึงการเตรียมพร้อมของหน่วยแพทย์และการส่งต่อผู้ป่วย ซึ่งกทม. ได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมอุปกรณ์และรถดับเพลิง เจ้าหน้าที่เขต และหน่วยแพทย์และพยาบาล ร่วมบูรณาการปฏิบัติหน้าที่กับทั้ง 2 หน่วยงานในทุกจุด


“ที่ห่วงอีกแบบคือทุกคนอาจจะไม่ได้มาในพื้นที่จัดงาน แต่อาจจะมีการฉลองตามร้านอาหาร สถานประกอบการ หรือแม้แต่ที่บ้านเรือน นั่นหมายความว่ากำลังพลของกทม. และตำรวจต้องคลุมทั้งพื้นที่ ซึ่งเราทำเต็มที่ เป็นความพยายามที่ให้ประชาชนมั่นใจว่า เราอยากฟื้นฟูเศรษฐกิจ หวังว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้น ขอให้ทุกคนสนุกกันอย่างปลอดภัย” รองผู้ว่าฯทวิดา กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย