กรุงเทพฯ 12 ธ.ค. – “หมอมนูญ” แนะจับตาโควิด XBB ระบาดในอินเดีย เชื่อไม่นานแพร่ในไทย ขณะที่ยอดโควิดรายสัปดาห์ พบมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 3,961 ราย เสียชีวิต 107 ราย
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ภายในประเทศ หลังปรับจากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง โดยรายงานสถานการณ์เป็นรายสัปดาห์พบว่า ระหว่างวันที่ 4-10 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยรายใหม่รักษาตัวในโรงพยาบาล 3,961 คน (เฉลี่ยวันละ 566 คน) รวมผู้ป่วยสะสม ตั้งแต่ 1 ม.ค.65 จำนวน 2,492,054 ราย และสะสมตั้งแต่เริ่มระบาด 4,715,489 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 107 ราย (เฉลี่ยวันละ 15 ราย) เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน รวมผู้เสียชีวิตตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาด 33,392 ราย
นอกจากนี้ ยังมีรายงานจำนวนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว 143,250,945 โดส แบ่งเป็นอย่างน้อย 1 เข็ม 57,095,546 โดส, อย่างน้อย 2 เข็ม 53,579,321 โดส และอย่างน้อย 3 เข็ม 32,576,078 โดส
ด้าน นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ในเฟซบุ๊กชื่อ “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” ระบุว่า ประเทศไทยต้องจับตาเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์อะไรที่กำลังแพร่ระบาดในประเทศอินเดีย เพราะหลายครั้งที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์ตัวใหม่ในประเทศอินเดีย หลังจากนั้นอีกไม่นานก็พบการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์นั้นในประเทศไทย ขณะนี้อินเดียเริ่มเห็นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์ XBB ซึ่งเป็นลูกผสมของไวรัสโควิดสายพันธุ์ BA.2.10.1 กับ BA.2.75 เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะแทนที่สายพันธุ์ BA.2.75 ในประเทศอินเดีย
ฉะนั้นไทยควรเตรียมตัวได้ว่า หลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ BA.2.75 อีกไม่นานก็จะมีสายพันธุ์ XBB แพร่ระบาดเหมือนอินเดีย เพราะสายพันธุ์ใหม่นี้ติดต่อกันง่ายกว่าสายพันธุ์เดิม และหลบหลีกภูมิคุ้มกัน ไม่ว่าจากการฉีดวัคซีนหรือการติดเชื้อธรรมชาติได้ดีกว่าสายพันธุ์เดิม
ปัจจุบันไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ใช้เวลาสั้นกว่าเดิม เพียง 3-4 เดือน ก็เข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดิม และทำให้เกิดการระบาดใหญ่ระลอกใหม่ ซ้ำแล้วซ้ำอีกไปทั่วโลก โชคดีที่ไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ๆ ไม่ได้ทำให้คนป่วยหนัก และเสียชีวิตเหมือนสายพันธุ์เดลตา โดยเฉพาะคนที่ได้รับวัคซีน 4 เข็ม คือ ได้วัคซีนครบ 2 โดส และตามด้วยเข็มกระตุ้นอีก 2 เข็ม
ขณะที่กรมการแพทย์เชิญชวนให้ประชาชนรีบไปฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต โดยสามารถเข้ารับบริการได้ที่สถานพยาบาลภายใต้สังกัดกรมการแพทย์ รพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน รพ.สงฆ์ สถาบันสิรินธร เพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพฯ สถาบันประสาทวิทยา สถาบันมะเร็งแห่งชาติ สถาบันโรคทรวงอก สถาบันโรคผิวหนัง สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี รพ.นพรัตนราชธานี รพ.เมตตาประชารักษ์ (วัดไร่งขิง) รพ.มหาวชิราลงกรณธัญบุรี สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี และ รพ.มะเร็งชลบุรี .-สำนักข่าวไทย
