เปิดประชุมวิชาการด้านการแพทย์ฉุกเฉิน “National EMS Forum 2022”

กรุงเทพฯ 19 ต.ค.-“อนุทิน” เปิดประชุมวิชาการด้านการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศไทย National EMS Forum 2022 มุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรมการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงอย่างมีประสิทธิภาพ


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดประชุมวิชาการด้านการแพทย์ฉุกเฉินระดับชาติครั้งที่ 14 ประจำปี 2565 ในหัวข้อ “การวิจัยและนวัตกรรมการแพทย์ฉุกเฉิน” National EMS Forum 2022 : Research and Innovation on Emergency Medicine ซึ่งเป็นเวทีประชุมวิชาการ นำเสนอผลงาน และจัดนิทรรศการ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์นำไปสู่การขับเคลื่อนและพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินในภาคส่วนต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ
 
นายอนุทิน กล่าวว่า ระบบการแพทย์ฉุกเฉินมีความสำคัญมากต่อการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินตั้งแต่ก่อนมาถึงโรงพยาบาล เป็นปฏิบัติการที่ต้องประสานและร่วมงานกับหน่วยงานอื่น เพื่อให้ผู้ป่วยฉุกเฉินมาถึงโรงพยาบาลได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และทันท่วงที ซึ่งจะช่วยลดการเสียชีวิต ความพิการ หรือภาวะแทรกซ้อนได้ โดยประเทศไทยมีการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลการสังเคราะห์งานวิจัยด้านการแพทย์ฉุกเฉินที่ผ่านมา พบว่าผลงานวิจัยยังไม่ครอบคลุมต่อการนำไปใช้ประโยชน์ ทั้งระดับนโยบายและการปฏิบัติงานในพื้นที่ มีข้อจำกัดทั้งนักวิจัยและการสร้างเครือข่ายที่ยังมีจำนวนไม่เพียงพอ ต่อการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อให้ไทยมีมาตรฐานระบบการแพทย์ฉุกเฉินในระดับสากล ประชาชนเชื่อมั่นและผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับบริการอย่างมีคุณภาพทั่วถึงและเท่าเทียม โดยเป็นสังคมแห่งการรอบรู้ และเครือข่ายมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งได้นั้น การวิจัยและนวัตกรรมการแพทย์ฉุกเฉิน นับว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ที่จะได้มาซึ่งองค์ความรู้ แนวทาง เทคโนโลยี และนวัตกรรม นำสู่การพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวว่า ในปี 2564-2565 สพฉ.มีงานวิจัยและนวัตกรรมเพิ่มขึ้น ทั้งที่ได้จากการศึกษา ค้นคว้าและดำเนินการโดยบุคลากรภายในสถาบันฯ และเครือข่ายวิจัย ซึ่งมีความโดดเด่น น่าสนใจ และนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งในเชิงนโยบายและการพัฒนาระบบในระดับพื้นที่
 
การประชุมวิการครั้งนี้ เพื่อนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การขับเคลื่อนและพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมพัฒนา และกระตุ้นให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ได้ศึกษา ค้นคว้า วิจัย และนำองค์ความรู้ใหม่ๆ เผยแพร่สู่เวทีประชุมวิชาการระดับชาติ รวมทั้งสร้างเครือข่ายทางวิชาการ ต่อยอดงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ประเทศไทยมีมาตรฐานระบบการแพทย์ฉุกเฉินในระดับสากล ที่ประชาชนเชื่อมั่นและผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับบริการอย่างมีคุณภาพและทั่วถึง


ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ ทั้งรูปแบบการประชุมมีทั้งการบรรยาย การเสวนา การนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมด้วยรูปแบบ Tedx talk จากวิทยากรผู้มีความรู้ความสามารถ ในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน การนำเสนอและประกวดผลงานวิชาการประเภทโปสเตอร์ การจัดประชุมห้องย่อยจำนวน 2 ห้อง ได้แก่ ห้องนวัตกรรมบริการการแพทย์ฉุกเฉินเพื่อการเข้าถึงบริการที่มีมาตรฐานอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม และห้องย่อยเรื่องนวัตกรรมระบบปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินดิจิทัล หรือ D1669.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย