พระนครศรีอยุธยา 12 ต.ค.-ปณดร่วมกับสปสช.สธ.ลงพื้นที่อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เยี่ยมผู้ป่วยไตวายเรื้อรังสิทธิบัตรทองประสบภัยน้ำท่วม รับทราบข้อมูลเพื่อนำมาปรับการให้บริการส่งน้ำยาล้างไตถึงบ้าน ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายพีระ อุดมกิจสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด(ปณด) และคณะ ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยนพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. และทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ป่วยไตวายเรื้อรังในระบบหลักประกันสุขภาพหรือบัตรทอง ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เพื่อให้เป็นไปตามโครงการจัดระบบการจัดส่งน้ำยาล้างไต ยา และเวชภัณฑ์ ถึงบ้านผู้ป่วย พื้นที่อุทกภัยได้ต่อเนื่อง โดยรับฟังบรรยายสรุปการดูแลผู้ป่วยไตวาย ผู้ปวยโรคเรื้อรังที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหัวเวียง ตรวจเยี่ยมบ้านผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง 2 ราย เพื่อดูสภาพความเป็นอยู่ รวมทั้งรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะโดยตรงจากผู้ป่วย
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสปสช. กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคกลางขณะนี้ เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ในส่วนผู้ป่วยที่ล้างไตทางช่องท้อง ที่ทางสปสช. มีระบบส่งน้ำยาล้างไตถึงบ้านได้อย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับองค์การเภสัชกรรม(อภ.) และไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชัน ซึ่งขณะนี้มีจำนวนเก็บสำรองมากเพียงพอ ส่วนผู้ป่วยที่ต้องฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียมซึ่งต้องไปฟอกที่โรงพยาบาล
“แม้ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างรุนแรงถึงขั้นปิดบริการ แต่ สปสช.จัดระบบเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากที่ไหนมีปัญหาสามารถหารพ.สำรองให้ได้ทันที ตามนโยบายนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่มอบหมายให้สปสช.ดำเนินการแก้ไข เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับบริการอย่างต่อเนื่อง สอดรับนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในภาวะอุทกภัยด้วย” เลขาธิการสปสช. กล่าว
ด้านนายพีระ อุดมกิจสกุล กรรมการผู้จัดการปณด กล่าวว่า โครงการจัดส่งน้ำยาล้างไตให้กับผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง เป็นอีกหนึ่งในบริการด้าน healthcare solution ของ บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด ดูแลผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังในโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือผู้ป่วยสิทธิบัตรทองทั่วประเทศของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ที่ร่วมดำเนินการกับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งโครงการดังกล่าว เป็นภารกิจสำคัญเกี่ยวพันกับชีวิตผู้ป่วย เพราะหากเกิดปัญหาความล่าช้า ไม่ทันท่วงที ผู้ป่วยอาจอยู่ในภาวะวิกฤติ เกิดน้ำท่วมปอด ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้ ดังนั้น ต้องจัดส่งน้ำยาล้างไตให้ถูกต้อง ครบถ้วน ตรงเวลา ซึ่งปัจจุบันมีผู้ป่วยที่รับบริการกว่า 3 หมื่นรายต่อเดือน ปณดต้องจัดส่งน้ำยาล้างไตและอุปกรณ์ประมาณ 3 ล้านถุงต่อเดือนหรือกว่า 36 ล้านถุงต่อปี
“ที่ผ่านมาปณด มุ่งเน้นให้ผู้ป่วยได้รับน้ำยาล้างไตครบถ้วน ตรงเวลาโดยพัฒนาระบบและนำเทคโนโลยีมาใช้ ในการให้บริการจัดส่งถึงบ้านผู้ป่วยและจัดเรียงน้ำยาล้างไตตามวันหมดอายุแบบ FEFO (First Expire First Out ) พร้อมทั้งพัฒนาระบบการขนส่งและกระจายสินค้าเพื่อความสะดวกและเข้าถึงบริการ ด้วยการนำมาตรฐานหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการจัดเก็บและขนส่งยาที่เป็นระบบสากลมาใช้ทั้งระบบ GSP(Good Storage Practice) /GDP (Good Distribution Practices) บนพื้นฐานของทรัพยากรการขนส่งที่ทันสมัยครบวงจร เพื่อรองรับการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพบริการขนส่งด้านยาและเวชภัณฑ์( healthcare solution ) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งการให้บริการ ที่ปณด มีความภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมดูแลสุขภาพของคนไทยตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งหวังลดลดความเหลื่อมล้ำของสังคม สร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข” นายพีระ กล่าว.-สำนักข่าวไทย