กรุงเทพฯ 5 ต.ค. – กรมการแพทย์ โดยสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) เตือนสตรีที่นิยมเที่ยวยามค่ำคืนหรือต้องทำงานในสถานบันเทิง ระมัดระวังตนเอง ไม่ควรรับอาหารหรือเครื่องดื่มจากคนแปลกหน้า อาจเป็นเหยื่อถูกมอมยาได้
นพ.ธงชัย กีรติหัตยากร อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่าในปัจจุบันเรามักจะได้รับทราบข่าวการถูกมอมยาเพื่อวัตถุประสงค์ในการก่ออาชญากรรม หรือคุกคามทางเพศบ่อยครั้ง ซึ่งตัวยาที่ใช้มักจะเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท กลุ่มยานอนหลับ หรือยาระงับประสาท กลุ่มยากระตุ้นอารมณ์ทางเพศ ซึ่งมีคุณสมบัติออกฤทธิ์เร็วหลังจากการใช้ไม่เกิน 30 นาที ละลายได้ดีในน้ำ ง่ายต่อการผสมในเครื่องดื่ม ทำให้มึนงง วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ง่วงซึม ร้อนวูบวาบ ควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่มีสติ หรือสลบได้ และทำให้ผู้ถูกวางยาสูญเสียความทรงจำไปชั่วขณะ ไม่สามารถจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทเหล่านี้อันตรายมาก มีฤทธิ์กดการหายใจ และเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งนี้ หากมีการใช้ในปริมาณมากร่วมกับยานอนหลับ ซึ่งออกฤทธิ์ทำให้หลับเร็ว หรือใช้ร่วมกับสารเสพติดอื่นๆ หรือผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเพิ่มความเสี่ยงทำให้ผู้ถูกวางยาเสียชีวิตได้
นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า การใช้ยาหรือสารเสพติดต่างๆ เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่ออาชญกรรมหรือมอมเมาผู้อื่น มีความผิดตามกฎหมาย และมีผลต่อร่างกายเหยื่อ ร้ายแรงที่สุดอาจทำให้เสียชีวิตได้ เตือนกลุ่มสุภาพสตรีที่นิยมเที่ยวหรือต้องทำงานในสถานบังเทิงให้ระมัดระวังตนเองให้มาก อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า เพราะอาจตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดี หลีกเลี่ยงการเสพยาและสารเสพติดทุกชนิด ไม่รับอาหารหรือเครื่องดื่มจากคนแปลกหน้า รวมถึงไม่เปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดีได้ผสมสิ่งใดลงในเครื่องดื่มและนำมาให้ดื่ม ทั้งนี้ ต้องสังเกตตัวเองหรือคนใกล้ชิดหากพบอาการผิดปกติ เช่น คลื่นไส้อาเจียน มึนงง เดินเซ หายใจลำบาก มีอาการคล้ายเมาสุราแม้ไม่ได้ดื่มหรือดื่มไปเพียงเล็กน้อย ต้องรีบพาตัวเองหรือคนใกล้ชิดออกจากสถานที่ดังกล่าว และรีบพาไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ หากประสบปัญหาเกี่ยวกับยาและสารเสพติดสามารถขอรับคำปรึกษาเรื่องยาและสารเสพติดได้ที่ สายด่วนบำบัดยาเสพติด 1165 หรือเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดได้ที่ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กรมการแพทย์ จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์แม่ฮ่องสอน โรงพยาบาลธัญญารักษ์ขอนแก่น โรงพยาบาลธัญญารักษ์อุดรธานี โรงพยาบาลธัญญารักษ์สงขลา และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี หรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่www.pmnidat.go.th. -สำนักข่าวไทย