สธ.ยันน้ำท่วมยังไม่กระทบสถานพยาบาล

สธ. 13 ก.ย.- ปลัด สธ.เผยยังไม่มีสถานพยาบาลใดได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง แต่สั่งการไว้เตรียมพร้อมรับมือ ทั้งสำรองยาเวชภัณฑ์และงบฯ ฉุกเฉิน โดยปมน้ำท่วมขังในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ก่อให้เกิดความเครียดระยะสั้น คนอาจห่วงรถหรือทรัพย์สิน และไม่เท่าปี 54 ที่พบคนเครียดถึง 10% พร้อมย้ำสถานการณ์น้ำปัจจุบันเป็นน้ำรอระบายจากน้ำฝน


นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์น้ำที่อาจส่งผลกระทบต่อสถานพยาบาลและสุขภาพใจของประชาชน ว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยข้อมูลของกรมชลประทาน พบว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีการระบายขณะนี้อยู่ที่ 1,800 ลบ.ม./วินาที ยังไม่มีสถานพยาบาลใดที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้รับผลกระทบ แต่หากมีการระบายน้ำลงมา 1,900 ลบ.ม./วินาที อาจได้รับผลกระทบ จึงได้มีการเตรียมวางไว้ ในสถานพยาบาลที่มีความเสี่ยง ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ทั้ง รพ.อ่างทอง, รพ.ชัยนาท และ รพ.สิงห์บุรี, รพ.อุทัยธานี รวมถึง รพ.มหาราช จ.นครราชสีมา ทั้งนี้ เตรียมงบกลางไว้ 10 ล้านบาท สำหรับใช้ในภาวะฉุกเฉินร่วมกับจังหวัด และสำรองยาและเวชภัณฑ์ไว้แล้ว แต่อย่างไรก็ตามจากการประเมินสถานการณ์คาดว่าผลกระทบจากสถานการณ์น้ำ เชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงเท่าปี 2554 ที่ต้องเผชิญกับ 3 น้ำด้วยกัน ทั้งน้ำเหนือ น้ำหนุน และน้ำฝน โดยสถานการณ์ปัจจุบันในปี 2565 เป็นเพียงสถานการณ์น้ำฝนที่ตกลงมาเท่านั้น

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำฝนที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่นี้ เป็นน้ำรอระบาย ไม่ได้ค้างหรือนานแรมเดือน เหมือนปี 2554 ซึ่งในส่วนของสภาวะจิตใจที่ได้รับผลกระทบล้วนแตกต่างกัน โดยน้ำฝนที่ท่วมขังในปัจจุบัน อาจก่อให้เกิดความเครียดแบบชั่วคราว และก่อให้เกิดผลเสียหายกับทรัพย์สิน แต่ไม่ได้ทำให้คนเครียดเหมือนตอนปี 54 ที่เพิ่งเผชิญกับน้ำครั้งแรก ที่พบคนเกิดความเครียดและได้รับผลกระทบราว 10% ทำให้บทเรียนจากปี 54 ครั้งนี้ บางคนอาจบ่นบ้าง แต่ก็เชื่อว่าจะผ่านไปได้ ดังนั้นภาครัฐต้องเร่งแก้ไขสถานการณ์ให้เร็วที่สุด พร้อมแนะนำให้คนเราต้องปรับตัว เครียดได้บ่นได้ แต่ต้องพยายามเอาตัวเองออกจากวิกฤติ เช่น รู้ว่ามีน้ำท่วมกันอาจเปลี่ยนเส้นทางจราจรหรือหันมาใช้รถขนส่งสาธารณะแทน เพื่อป้องกันรถยนต์ ซึ่งถือว่าเป็นทรัพย์สินราคาแพงได้รับความเสียหาย เพราะแม้แต่ตนเองล่าสุดก็เผชิญกับสถานการณ์รถยนต์ส่วนตัวจมน้ำเสียหายเช่นกัน ดังนั้นเครียดได้ บ่นได้ แต่ต้องมีสติ


ด้าน นพ.ยงยุทธ วงค์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ความเครียดที่เกิดขึ้นกับคนกรุงเทพฯ หรือปริมณฑลที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมนี้ เป็นเพียงความเครียดระยะสั้น ไม่ถึงขั้นวิตกกังวล หรือแพนิคเป็นโรค เพียงแต่เรื่องนี้ต้องรู้สึกพลิกวิกฤติเป็นโอกาส เมื่อเกิดความเครียดกับสถานการณ์ฝนตกแบบนี้ ดังนั้นเมื่อรู้ว่าจะมีฝนก็ควรมีการวางแผนจัดการสิ่งของ หรือวางแผนการเดินทาง และที่สำคัญต้องเลือกรับข่าวสารเฉพาะหน่วยที่รับผิดชอบโดยตรง ไม่ควรที่จะรับข่าวสารอื่นที่เกินจำเป็น เพื่อป้องกันความเครียดสะสม เกิดอาการนอนไม่หลับ กังวล ได้ เช่น เลือกรับข่าวสารทางเว็บไซต์ของหน่วยงาน สำนักงานเขต หรือพื้นที่ที่ตนเองอยู่ และจำหมายเลขหรือช่องทางติดต่อ หากเกิดผลกระทบจะได้ขอความช่วยเหลือ. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต เปิดใจกับสื่อ ลูกชายยังอยู่ในอาการช็อก เชื่อเสียใจและอยากมาขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต