2 สามีภรรยาขับกระบะเสียหลักแหกโค้งดับคาที่

31 ก.ค. – ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเข้าตรวจสอบเหตุกระบะเสียหลักหลุดโค้งชนแบริเออร์ข้างทาง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดบริเวณจุดกลับรถใต้สะพานต่างระดับสาลีโข ถนนชัยพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด ที่เกิดเหตุเป็นจุดกลับรถใต้สะพานต่างระดับ และบริเวณทางโค้งหลังแบริเออร์คอนกรีตพบร่างของผู้เสียชีวิต 2 รายเป็นชาย 1 คนและ หญิง 1 คนทราบชื่อคือนายอดิศักดิ์ กลำเงิน อายุ 45 ปี และ น.ส.สุชาดา สาเพียร อายุ 46 ปีมีอาชีพเป็นแม่บ้านประจำอยู่ในหมู่บ้านหรูมีชื่อแห่งหนึ่ง


ใกล้กันพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู สีบรอนซ์-ทอง ทะเบียน กษ 5414 นนทบุรี สภาพตัวรถหลังคายุบด้านหน้าพังเสียหายยับเยิน ตัวรถกระเด็นเข้าไปอยู่ด้านหลังแบบริเออร์คอนกรีต ซึ่งเป็นในแนวรั่วเขตของที่ทำการหมวดบำรุงทางหลวงชนบทชัยพฤกษ์ ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบร่องรอยชน และคราบน้ำมันเครื่องสาดกระเด็นติดอยู่กับแบริเออร์คอนกรีตอีกด้วย หลังเกิดเหตุทางญาติทราบข่าวได้เดินทางมาที่เกิดเหตุกล่าวว่า นายอดิศักดิ์ ซึ่งเป็นสามีกำลังขับรถไปส่งภรรยาซึ่งเป็นแม่บ้านประจำหมู่บ้านมีชื่อแห่งหนึ่งใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งทั้ง 2 คนเพิ่งขับรถออกจากบ้านมาเพียงไม่ถึง 1 กิโลเมตรเท่านั้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่านายอดิศักดิ์ น่าจะขับรถมาด้วยความเร็วเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุที่เป็นจุดกลับรถซึ่งเป็นทางโค้งและไม่สามารถควบคุมรถได้เกิดเสียหลักพุ่งชนแบริเออร์คอนกรีตก่อนที่จะพุ่งข้ามไปชนรั้วเหล็กของที่ทำการหมวดบำรุงทางหลวงชนบทชัยพฤกษ์ได้รับความเสียหายและเป็นเหตุให้ทั้ง 2 คนกระเด็นออกมาจากตัวรถเสียชีวิตดังกล่าว


รถบัสฝ่าไฟแดงชนจักรยานยนต์ หนุ่ม 17 ปีดับคาถนน

พ.ต.ท.นิธิศ ทองดี สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุร ชนกันบนถนนสุขุมวิทตัดออกถนนบายพาสเลี่ยงเมืองชลบุรี ช่วงไฟแดงโรงเรียนธารทิพย์ หมู่ 2 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี มีผู้เสียชีวิตจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ ที่เกิดเหตุพบศพนายจิตรบุตร จิตรสว่าง อายุ 17 ปี สภาพศีรษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์ เลือดนองพื้น ลำตัวมีรอยล้อเหยียบ ซึ่งกู้ภัยพยายามปั้มหัวใจยื้อชีวิตแล้วแต่นายจิตรบุตร ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีเขียว ทะเบียน ดมม 291 ชลบุรี ของผู้ตายล้มอยู่ด้านข้างขวามีรอยถูกชนพังยับเยิน ห่างไปประมาณ 40 เมตร พบรถบัสรับ -ส่งพนักงานบริษัท โซนี่ จำกัด ยี่ห้อ SUNLONG สีเขียว-ขาว ทะเบียน 30-2117 ปทุมธานี ด้านข้างมีชื่อ เฉลิมภัทร จอดอยู่ด้านหน้าซ้ายมีรอยชนพังยับกระจกบังลมมีรอยศีรษะกระแทกแตก

สอบถามนายเทพพร เปลี่ยนทองคำ อายุ 45 ปี คนขับรถบัส อ้างว่า ขับมาจะออกถนนบายพาสเลี่ยงเมือง ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ออกจากซอย 9 ตัดหน้ารถ ตนพยายามหักหลบและเบรกแล้วแต่ไม่ทัน ฝั่งตนกำลังไฟเหลือง ซึ่งฝั่งผู้ตายก็ไม่น่าจะเขียว


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหานายเทพพร คนขับรถบัส ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต แต่จะได้ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

หัวหน้าช่างชะตาขาดซ่อมไฮดรอลิครถบรรทุก หัวลากไหลทับตาย

ส่วนที่ จ.ลำปาง ร้อยตำรวจเอก ทรงวุฒิ เกตุวงศ์ พนักงานสอบสวนเวร สถานีตำรวจภูธร สภ.เมือง ลำปาง พร้อมแพทย์เวรชันสูตรโรงพยาบาลลำปางและเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยนครลำปาง เดินทางเข้าไปตรวจสอบบริเวณ ลานซ่อมรถ ภายในพื้นที่ของบริษัทเอกชนรับเหมาสร้างทางชื่อดัง หลังจากรับแจ้งจากชาวบ้านว่า หัวหน้าช่างซ่อมรถ เสียชีวิตคารถบรรทุกพ่วงบริเวณโกดังด้านใน เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบศพนายสาคร คำวาส อายุ 67 ปี ชาว อ.ลี้ จ.ลำพูน เสียชีวิตในสภาพศพยังยืนก้มตัว โดยหัวมุดเข้าไปด้านในห้องเครื่องซึ่งอยู่บริเวณช่วงใต้หัวลากของรถบรรทุกพ่วง ทะเบียน 80-6896 ลำปาง โดยพบว่า ศีรษะของผู้ตาย ถูกหัวลากเครื่องทับจนเสียชีวิตดังกล่าว และคาดว่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง

ทั้งนี้ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้ออกจากบ้านมาตั้งแต่ตอนเช้า และได้เข้ามาซ่อมเครื่องรถยนต์ เนื่องจากทราบ ว่า ระบบไฮดรอลิคของรถบรรทุกคันนี้ มีปัญหา ผู้ตายจึงยกหัวลากขึ้น และช่วงระหว่างเข้าไปซ่อม เพื่อที่จะเปลี่ยนสายไฮดรอลิคที่ชำรุด ปรากฏว่าหัวลากได้ไหลลงมาทับศีรษะ ขณะผู้ตายกำลังยืนซ่อม เพื่อจะเปลี่ยนสายไฮดรอลิคอยู่จนเสียชีวิต

ซึ่งหลังเกิดเหตุแล้วทางแพทย์เวรโรงพยาบาลลำปาง ได้ชันสูตรแล้วไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลของการถูกทำร้าย ได้มอบศพ เพื่อให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามทางศาสนาต่อไป .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย