พระนครศรีอยุธยา 9 ส.ค. – ตำรวจแจ้งข้อหาพยายามฆ่า 13 ผู้ร่วมศึก 2 โรงน้ำแข็งสาดกระสุนถล่มกันกลางเมืองพระนครศรีอยุธยา
เหตุสองโรงน้ำแข็ง จ.พระนครศรีอยุธยา ใช้อาวุธปืนยิงถล่มกันกลางถนนสายวัดใหญ่ชัยมงคล-วัดพนัญเชิง ใกล้กับทางรถไฟ ต.คลองสวนพลู จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. เมื่อวานนี้ (8 ส.ค.) เนื่องจากไม่พอใจที่อีกฝ่ายส่งน้ำแข็งทับเส้นทาง
คู่กรณีคือ กลุ่มรถส่งน้ำแข็งของโรงน้ำแข็งอโยธยา ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.เกาะเรียน กับโรงน้ำแข็งพันล้าน พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนเปิดฉากดวลปืนได้มีการปิดล้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่กันมาก่อนหน้านี้แล้ว กระทั่งมีการปิดล้อมรถและดวลปืนกันอีก ตามคลิปที่ปรากฏ กระบะโตโยต้า สีขาว ตอนเดียว ของโรงน้ำแข็งอโยธยา พุ่งชนกับรถยนต์แฮมเมอร์ สีแดง ของฝ่ายโรงน้ำแข็งพันล้าน คนในรถทั้งสองคัน ต่างวิ่งออกจากรถ นอกจากนี้ยังมีรถตู้สีดำขับมาจอด และมีชายฉกรรจ์ 3 คน ลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ สักพักรถแฮมเมอร์สีแดงขับออกไป เหตุการณ์นี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ถูกส่งโรงพยาบาล พระนครศรีอยุธยา

จากการตรวจสอบถนนที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนขนาดต่างๆ ตกเกลื่อนอยู่จำนวนมาก ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาเป็นชายวัยรุ่นได้ 4 คน พร้อมรถกระบะโตโยต้า สีดำ เป็นของกลุ่มโรงน้ำแข็งพันล้าน ตรวจค้นในรถพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. 2 กระบอก ขนาด .38 อีก 2 กระบอก ส่วนรถกระบะโตโยต้าสีขาว ตอนเดียว เป็นของโรงน้ำแข็งอโยธยา สภาพด้านหน้าถูกชนพังเสียหาย ฝากระโปรงรถมีรอยถูกยิง ตำรวจระดมกำลังเร่งสืบสวนและจับกุมตัวผู้ร่วมก่อเหตุได้ 13 คน
พล.ต ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา นำพนักงานสอบสวนทำการสอบสวน 13 ผู้ต้องหา ผู้บาดเจ็บ รวมถึงผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ลากยาวไปจนถึง 3 ทุ่ม ก่อนเปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมด 13 คน ประกอบด้วย ฝ่ายโรงน้ำแข็งอโยธยา 2 คน ฝ่ายโรงน้ำแข็งพันล้าน 8 คน และฝ่ายกำนันตำบลเกาะเรียนอีก 3 คน ซึ่งตำรวจได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่า ชุลมุนต่อสู้เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน พร้อมตรวจยึดอาวุธปืน 7 กระบอก ยานพาหนะ 4 คัน ซึ่งผู้ต้องหาทุกคนรับสารภาพ นอกจากนี้ยังสอบสวนพยานหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม และหากพบบุคคลกระทำความผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ส่วนสาเหตุการยิงถล่มกันครั้งนี้มาจากการขัดแย้งทางธุรกิจการส่งน้ำแข็ง. – สำนักข่าวไทย