สงขลา 29 พ.ค. – ต้นไม้ยักษ์อายุนับร้อยปีล้มทับกุฏิพังเสียหายทั้งหลัง ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลามีผู้เสียชีวิต 1 ราย หลังเกิดฝนตกและลมพัดแรงต่อเนื่อง 2 วันต้นไม้ยักษ์อายุนับร้อยปีล้มทับกุฏิพังเสียหายทั้งหลัง ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลามีผู้เสียชีวิต 1 ราย หลังเกิดฝนตกและลมพัดแรงต่อเนื่อง 2 วัน
เกิดเหตุต้นไม้ยักษ์อายุนับร้อยปีล้มทับกุฏิ ภายในสำนักสงฆ์บ้านทุ่งปราบ ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา พังเสียหายทั้งหลัง ทำให้คนขับรถ อายุ 56 ปี ที่นอนอยู่ในกุฏิ เสียชีวิตคาที่ รถเก๋งสีบรอนซ์ทอง ทะเบียนสงขลา ที่จอดอยู่ข้างกุฏิ ได้รับความเสียหาย 1 คัน กระจกหน้ารถและข้างรถด้านซ้ายแตก กระโปรงหน้ายุบ เบื้องต้นคาดเกิดจากฝนตกและลมพัดแรงต่อเนื่อง ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
ส่วนที่ จ.สตูล ชาวบ้านในหลายอำเภอได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากพายุฝนลมแรง เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (28 พ.ค.) บ้านเรือนพังเสียหาย หลังคาเปิด ต้นไม้ล้มขวางถนนหลายแห่ง เจ้าหน้าที่เร่งเข้าสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน เนื่องจากสภาพอากาศยังคงแปรปรวน มีลมกระโชกแรง โดยเฉพาะพื้นที่ ต.ตันหยงโป อ.เมืองสตูล หมู่บ้านชายทะเลถูกพายุพัดเข้าถึง 2 ครั้ง บ้านเรือนพังเสียหาย กระเบื้องแตกกระจายหลายหลัง บางหลังเพิ่งซ่อมแซมเสร็จ ก็มาเจอพายุกระหน่ำซ้ำพังเสียหายรอบ 2 อบต.ตันหยงโป คาดเบื้องต้นมีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 3 หมู่บ้าน ไม่ต่ำกว่า 18 หลังคาเรือน ต้องเร่งนำกำลังเข้าช่วยเหลือ. – สำนักข่าวไทย