“พระย้อย” มือแฉคลิปอดีตพระกาโตะ ประกาศลาสิกขา

10 พ.ค. – “พระย้อย” แจ้งจะเดินทางไปปลีกวิเวก สวดมนต์ภาวนา ปฏิบัติธรรมให้จิตสงบ พร้อมประกาศลาสิกขา 11 พ.ค.นี้ หลังจากนั้นจะตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ยืนยันจะดูแลปกป้องพระพุทธศาสนาตลอดไป


พระธวัฒน์พล จกฺกวโร หรือพระย้อย ผู้ที่นำคลิปเสียงอดีตพระกาโตะ หรือนายพงศกร จันทร์แก้ว ที่เป็นข่าวมั่วสีกาชื่อ “ตอง” จนได้รับความสนใจกว้างขวาง โดยในคลิปของ “พระย้อย” ยาวประมาณ 30 วินาที แจ้งว่าจะเดินทางไปปลีกวิเวก สวดมนต์ภาวนา ปฏิบัติธรรมให้จิตสงบ ที่สถานที่แห่งหนึ่ง และตัดสินใจประกาศลาสิกขาในวันที่ 11 พ.ค.65 หลังจากนั้นจะเป็นฆราวาสที่ตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ พร้อมยืนยันว่าจะดูแลปกป้องพระพุทธศาสนาตลอดไป

อย่างไรก็ตาม ในคลิปดังกล่าว “พระย้อย” ไม่ได้ระบุเวลาและสถานที่ลาสิกขาว่าเป็นที่ใด คาดว่าจะแจ้งเวลาและสถานที่ให้ทราบในภายหลัง แต่ยังระบุเพียงสั้นๆ อีกว่าหลังสึกแล้ว ในวันที่ 14 พ.ค.65 จะเดินทางไปเป็นเจ้าภาพบวชนาคให้กับเยาวชนที่ฐานะยากจน ณ วัดหน้าพระลาน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้นจะเดินทางกลับไปบ้านภรรยาที่ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช พักอาศัยและประกอบอาชีพตามปกติต่อไป


พศ.ยังไม่พบหลักฐานแต่งตั้งอดีตพระกาโตะเป็นรักษาการเจ้าอาวาส
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบตำแหน่งของอดีตพระกาโตะ ในขณะที่ยังบวชอยู่นั้น นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ยืนยันว่ายังไม่พบเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรว่าอดีตพระกาโตะได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ จริงหรือไม่ ซึ่งประเด็นนี้มีความสำคัญมาก ต้องพิสูจน์ให้ได้ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ด้วย เพราะหากอดีตพระกาโตะมีสถานะเป็นเพียงพระลูกวัด เมื่อคืนเงินที่ยืมมาจากวัดไปแล้วก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ ซึ่งการแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสที่ถูกต้องนั้นต้องมีการแต่งตั้งด้วยลายลักษณ์อักษร เพราะการแต่งตั้งเจ้าอาวาสถูกรองรับด้วย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ มาตรา 39 ระบุว่า ให้รักษาการเจ้าอาวาส มีตำแหน่งเสมือนหนึ่งเป็นเจ้าอาวาส ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องพยายามค้นหาหลักฐานมารองรับ เพราะการแต่งตั้งกับไม่แต่งตั้งมีผลต่อคดี หากเป็นรักษาการเจ้าอาวาส การที่นำเงินวัดไปใช้จ่ายส่วนตัวนั้นมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา แต่หากไม่ได้เป็นรักษาการ เมื่อมีการคืนเงินก็ถือว่าจบ

ส่วนเหตุผลที่พระราชวรญาณ เจ้าอาวาสวัดบุปผารามวรวิหาร กรุงเทพมหานคร แต่งตั้งอดีตพระกาโตะเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาตินั้น ตามที่มีข้อมูลระบุว่าเนื่องจากอดีตเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ หรือหลวงพ่อกล่อม ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งวัด เป็นลูกพี่ลูกน้องกับพระราชวรญาณ เจ้าอาวาสวัดบุปผารามวรวิหาร ภายหลังหลวงพ่อกล่อมมรณภาพ ได้ฝากฝังให้พระราชวรญาณเป็นผู้ดูแลต่อ โดยมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากเจ้าคณะตำบลในพื้นที่ตามอำนาจการแต่งตั้ง แต่เนื่องจากระยะทางที่ค่อนข้างไกล ทำให้พระราชวรญาณไม่ได้ลงไปดูแลกิจการของวัดเพ็ญญาติด้วยตัวเอง แต่จะลงไปเฉพาะศาสนพิธีสำคัญเท่านั้น จึงมีการมอบหมายให้พระกาโตะช่วยดูแลวัดดังกล่าว ในฐานะรักษาการเจ้าอาวาส แต่เป็นการพูดด้วยวาจา

ผอ.สำนักพุทธฯ บอกว่ากรณีนี้ถือว่าไม่ใช่ตามระเบียบที่ถูกต้อง ซึ่งเจ้าคณะปกครองอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนเรื่องการดำเนินการกับพระที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม พระนอกรีต ไม่ใช่เฉพาะประเด็นของอดีตพระกาโตะเท่านั้น ทาง พศ. ได้สรุปประเด็นปัญหาเข้าหารือต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) แล้ว มีมติให้สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กรรมการ มส. ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายปกครองของ มส. พิจารณาแนวทางบทลงโทษสำหรับพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งบทลงโทษพระผู้ปกครองใกล้ชิดด้วย เพราะถือว่ามีหน้าที่โดยตรงที่ต้องดูแลพระในปกครองให้อยู่ในกรอบ ไม่ใช่เพิกเฉยปล่อยให้พระที่อยู่ในปกครองไปประพฤติปฏิบัติไม่เหมาะสม


ขณะที่ นายสิทธา มูลหงษ์ ผู้ตรวจราชการ และโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า จากรายงานของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) นครศรีธรรมราช ยืนยันชัดเจนแล้วว่าอดีตพระกาโตะ ขณะบวชเป็นพระสงฆ์นั้นเป็นเพียงพระลูกวัด ไม่ได้เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ ทั้งยังไม่มีตำแหน่งใดๆ ภายในวัด เป็นเพียงผู้ดูแลจัดการการก่อสร้างภายในวัดเท่านั้น ซึ่งวัดเพ็ญญาติ มีผู้รักษาการเจ้าอาวาสคือ พระราชวรญาณ วัดบุปผาราม ตามคำสั่งเจ้าคณะ ต.พิปูน เมื่อวันที่ 1 ม.ค.2564 ส่วนบัญชีที่อดีตพระกาโตะขอยืมเงินวัดไปนั้น พบว่าเป็นบัญชีชื่อวัดเพ็ญญาติ ซึ่งตามกฎหมายแล้วจะต้องเป็นเจ้าอาวาส หรือผู้รักษาการเจ้าอาวาส ร่วมกับไวยาวัจกรของวัด เป็นผู้เปิดบัญชีในชื่อวัดได้ ซึ่งทางผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ ได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เนื่องจากอดีตพระกาโตะไม่ได้เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาส จึงไม่มีอำนาจในการเปิดบัญชีเงินฝากในชื่อของวัด

นอกจากนี้ทาง พศ. อยู่ระหว่างการหาแนวทางการจัดทำฐานข้อมูลพระสงฆ์ที่ต้องอาบัติปาราชิก ไม่สามารถบวชใหม่ได้ เพื่อให้พระอุปัชฌาย์สามารถตรวจสอบข้อมูลก่อนได้ โดยจะต้องมีการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้พระสงฆ์ที่ปาราชิกแอบไปบวชใหม่ได้อีก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

ศาล รธน.รับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” แทรกแซง กกต. คดีฮั้ว สว.

ศาล รธน.สั่งรับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” ฝ่าฝืนจริยธรรม เหตุใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซง กกต. กรณีดีเอสไอรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากผิดหลุดตำแหน่ง ให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]

โหวตไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ ยัน ชี้แจงทุกประเด็น ลั่น ทั้งเสียงหนุน-เสียงไม่ไว้วางใจ จะเป็นพลังให้มุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน