ญาติร่ำไห้รับศพรองนายก อบต.-คนขับรถ

นครนายก 16 ก.พ. – ตำรวจเร่งสอบสวนแกะรอยคนร้ายตามประกบยิงถล่มรถนายก อบต.บางสมบูรณ์ อาการสาหัส ส่วนรองนายก อบต. และคนขับรถเสียชีวิต ญาติเข้ารับศพร่ำไห้แทบขาดใจ


ภรรยากรีดร้องแทบขาดใจเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่นำร่างสามีคือ นายวัชระ นุชแดง คนขับรถของผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ญาณกร โท้ประยูร นายก อบต.บางสมบูรณ์ อำเภอเมืองนครนายก และร่างของนายสมชาย ม่วงกาศ รองนายก อบต.บางสมบูรณ์ ออกมาจากห้องเก็บศพ โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ มศว.องครักษ์ ทั้งสองคนคือเหยื่อคนร้ายที่ใช้อาวุธสงครามกระหน่ำยิงขณะขับรถกลับจากงานเลี้ยงเมื่อคืนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งมีนายก อบต.บางสมบูรณ์ นั่งมาด้วย ได้รับบาดเจ็บสาหัส และนายวิชาญ เจริญรุ่งเรื่อง นั่งข้างคนขับ ไม่ได้รับบาดเจ็บ

ศพของนายวัชระ นุชแดง นำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดจันทร์เรือง และศพของนายสมชาย ม่วงกาศ รองนายก อบต.บางสมบูรณ์ นำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดเข็มทอง ทั้ง 2 วัดอยู่ในพื้นที่ตำบลบางสมบูรณ์ อำเภอองครักษ์ โดยบรรยากาศที่วัดเข็มทอง ญาติๆ เตรียมสถานที่เพื่อประกอบพิธีรดน้ำศพนายสมชาย ม่วงกาศ รองนายก อบต. โดยจัดดอกไม้วางหน้าศพเป็นสีขาว ท่ามกลางญาติพี่น้อง เพื่อนจำนวนมาก ทยอยมาร่วมพิธีบริเวณศาลาวัด


ลูกชายรองนายก อบต. เชื่อปมสังหารเรื่องการเมือง
นายชัยสิทธิ์ ม่วงกาศ อายุ 43 ปี ลูกชายรองนายก อบต.บางสมบูรณ์ บอกว่า ทางครอบครัวยังสงสัยปมเหตุการยิงถล่มครั้งนี้มาจากเรื่องขัดแย้งทางการเมืองสองขั้ว เพราะพ่อของตนไม่เคยมีปัญหาเรื่องอื่น ตนสนิทกับพ่อ พูดคุยกันทุกเรื่อง พ่อเป็นคนคิดบวก อยากขอให้นำคนผิดมารับโทษโดยเร็วที่สุด ยืนยันจะเดินตามรอยพ่อ ไม่ชอบการเมือง ชอบด้านปกครองดูแลประชาชนมากกว่า ระบุก่อนเกิดเหตุ 2 วัน ฝันว่าไปงานศพพ่อตัวเอง และคืนถัดมาฝันว่าตนเองถูกยิง พอเข้าวันรุ่งขึ้นก็มาเล่าให้แม่ฟัง และในคืนวันเดียวกันพ่อก็ถูยิงเสียชีวิต

ย้อนไปวันเกิดเหตุช่วงดึกของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ บนถนนบากท่อ-บางปรัง หมู่ 2 ช่วงโค้งตายศ ตำบลศรีจุฬา อำเภอเมืองนครนายก พยานที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าเห็นรถขับมา 2 คัน คันแรกคือ รถแวนยี่ห้อฮุนได รุ่น H1 สีดำ เป็นรถของนายก อบต. โดยมีรถกระบะสีดำขับตามหลังมาเรื่อยๆ ดูแล้วไม่ได้เป็นการขับขี่หนีกันมา จากนั้นรถกระบะได้เร่งเครื่องประกบรถของนายก อบต. ด้านข้างฝั่งคนขับ แล้วใช้อาวุธสงครามรัวยิงเป็นชุดมากกว่า 10 นัด จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บดังกล่าว

ในรถแวนมีผู้โดยสาร 4 คน ตำแหน่งที่นั่งคนขับคือ นายวัชระ นุชแดง เป็นคนขับรถ และเป็นคนสนิทของผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ญาณกร โท้ประยูร นายก อบต.บางสมบูรณ์ ถูกยิงเข้าลำตัวและขา รวม 3 นัด เสียชีวิต นายสมชาย ม่วงกาศ รองนายก อบต.บางสมบูรณ์ นั่งอยู่เบาะหลังคนขับ ถูกยิงเข้าลำตัวด้านขวาทะลุหลัง 1 นัด และต้นขาซ้าย เสียชีวิต ส่วนนายก อบต.บางสมบูรณ์ ซึ่งนั่งเบาะหลังเช่นกัน กระสุนเข้าแขน หัวไหล และขา รวม 4 นัด และถากเข้าที่ท้ายทอย 6-7 นัด และอีกคนคือ นายวิชาญ เจริญรุ่งเรื่อง นั่งข้างคนขับ ไม่ได้รับบาดเจ็บ


อดีตนายก อบต.บางสมบูรณ์ ยันไม่มีเอี่ยว
หลายฝ่ายพุ่งเป้าว่าเหตุการณ์นี้จะเกี่ยวข้องกับนายประสพโชค อดีตนายก อบต.บางสมบูรณ์ หรือไม่ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งมา 12 ปี ก่อนเสียตำแหน่งให้กับผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ญาณกร โท้ประยูร

หลังตกเป็นจำเลยสังคม เมื่อวานนี้ (15 ก.พ.) เจ้าตัวได้ออกมาชี้แจงความบริสุทธิ์ผ่านสื่อว่าไม่ได้เป็นคนสั่งการ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทำ แต่ต้องตกเป็นจำเลยสังคม เป็นลูกผู้ชายพอ และหากมีการพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้เป็นคนทำใครจะออกมาขอโทษ

ส่วนกรณีนายกคนใหม่เคยมีคดีฉ้อโกงเช็คเกือบ 8 ล้านบาท และเรื่องโกงเครื่องเวชภัณฑ์ อาหารกุ้ง ตนได้ยื่นให้ทาง กกต. ตรวจสอบ หากผิดจริงก็ต้องมีเลือกตั้งใหม่ แล้วตนจะก่อเหตุไปเพื่ออะไร

ขณะที่เฟชบุ๊ก Yannakorn Trenner Toprayoon ซึ่งเป็นของนายก อบต.บางสมบูรณ์ ได้โพสต์คลิปตัวเองหลังถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มความยาว 4 วินาที โดยระบุข้อความ “วันวาเลน์ไทน์ และวันเกิดปีนี้เกือบเป็นวันที่เกือบจบชีวิต…จากอาจารย์มหาวิทยาลัย…สู่นักการเมือง…บททดสอบความกล้าหาญที่ต้องแลกเพื่อประชาชน”

วันนี้ (16 ก.พ.) ยังมีหลักฐานเพิ่มเติมออกมาเป็นภาพกล้องวงจรปิดจากร้านค้าแห่งหนึ่ง บนถนนสายนครนายก- านสร้าง นทึกภาพเหตุการณ์ช่วงเวลาที่ 21.15.42- 21.15.45 น. เป็นเวลา 3 นาที จับภาพ รถของนายก อบต.บางสมบูรณ์ กำลังขับกลับบ้าน หลังไปร่วมประชุมงานเลี้ยงในอำเภอเมืองนครนายก ดยมีรถเก๋งสีขาวขับตามหลัง ซึ่งคาดว่าเป็นรถของกลุ่มคนร้าย

ผช.ผบ.ตร.ชี้เบาะแสรถต้องสงสัยยิงถล่มนายก อบต.
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมดูสภาพรถ และร่องรอยกระสุน ระบุคดีคืบหน้า มั่นใจจะสามารถคลี่คลายคดีได้ ส่วนปมสังหารยังพุ่งเป้าไปที่เรื่องการเมืองท้องถิ่นและเรื่องส่วนตัว ได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งสอบปากคำในกลุ่มของผู้ต้องสงสัย และไล่กล้องวงจรปิด หากใครมีเบาะแสรถที่ขับขี่ช่วงเวลา 3 ทุ่ม จนเกือบ 4 ทุ่ม ในเส้นทางนครนายก-บ้านสร้าง ที่พบเห็นรถเก๋งมิตซูบิชิ ลักษณะสีคล้ายสีบอร์นเงิน หรือใกล้เคียง อาจไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหลัง ส่งข้อมูลมาได้ที่ 191 หรือตำรวจภูธรจังหวัดนครนายก

นอกจากนี้ยังได้ภาพจากกล้องหน้ารถ กำลังขยายผลการตรวจสอบเพิ่มเติม เป็นประโยชน์ในการสืบสวน ขณะที่ผลตรวจหัวกระสุนและปลอกกระสุน พบว่าอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนอาก้า สั่งกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบฐานประวัติ ส่วนจำนวนคนร้ายยังไม่สามารถระบุได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ระงับเดินทางเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม-บ้านผักกาด ชั่วคราว

จันทบุรี 7 มิ.ย. – หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ออกหนังสือราชการ ระงับนักท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา เดินทางผ่านเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม – บ้านผักกาด ชั่วคราว ยกเว้นแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ลงนามในหนังสือราชการด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เรื่อง ขอระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯ โดยอ้างอิงตามประกาศให้ใช้กฎอัยการศึก ในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง […]

มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา – สุรนารี คุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย. – ทบ.ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน สำหรับรายละเอียดทั้งหมดในคำสั่งดังกล่าวสามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารทางการของกองทัพบกที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ -313-สำนักข่าวไทย

ปปง. ร่วมสอบกรณีพบเงินต้องสงสัยถูกทิ้ง 12 ล้าน

7 มิ.ย.- ปปง. ร่วมตรวจสอบกรณีพบเงินสด 12 ล้าน วางทิ้งในกล่องข้างถังขยะคอนโดเมืองทองฯ ชี้ผู้อ้างเป็นเจ้าของเงินต้องชี้แจงรายละเอียดที่มาให้ได้ จากกรณีที่พลเมืองดี พบธนบัตรเงินสด 12 ล้านบาท ในกล่องพลาสติกสีเทา บริเวณคอนโดเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารดังกล่าว คือ นายทวีวัฒน์ และนายทวีวัฒน์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วระบุเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านดังกล่าว นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ในฐานะโฆษก ปปง. กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า ขั้นตอนตามปกติหากพบเหตุสงสัย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดย ปปง. ได้ประสานการทำงานร่วมกับตำรวจอยู่แล้ว ซึ่งต้องสอบสวนคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเงิน กับผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน ทั้งธนาคาร และส่วนงานที่ผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของเงินระบุถึง สุดท้ายเจ้าของต้องชี้แจงในรายละเอียดว่าเงินดังกล่าวได้มาอย่างไร ถ้าพนักงานสอบสวนรวบรวมว่า เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในข้อใด หรือทรัพย์ดังกล่าวอาจเกี่ยวกับการกระทำผิดตามกฎหมายฟอกเงินที่ปัจจุบันมี 28 มูลฐานความผิด การจะมีการประสานส่งเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ ปปง. […]

“อนุทิน” ย้ำไม่ย้ายกระทรวง ยึดข้อตกลงเดิม​ นายกฯ ให้ความมั่นใจแล้ว

สุวรรณภูมิ​ 7 มิ.ย.-“อนุทิน” ลั่นไม่มีอะไรต้องตกลงแล้ว ทุกอย่างจบตั้งแต่กินช็อกมินต์ หลังกระพือยึดเก้าอี้ มท.1 ชี้ “ภูมิใจไทย” ไม่ได้เดินไปขอร่วมรัฐบาล ย้ำชัดไม่ย้ายกระทรวงยึดข้อตกลงเดิม ระบุนายกฯ ก็ให้ความมั่นใจแล้ว ยอมรับกินข้าว รวมไทยสร้างชาติ แล้ว แต่คุยปมพลังงาน ยันไม่ต้องจับมือต่อรอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยโดยยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยใดๆ ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. หากมีการถามมายังพรรคภูมิใจไทย พรรคก็ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร เพราะได้คุยในเบื้องต้นภายในพรรคแล้วว่ารัฐมนตรีทุกคนยังทำงานได้อย่างเต็มที่ กระทรวงที่กำกับดูแลในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อถามว่า กระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้แบบนี้แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการกระทรวงมหาดไทยคืนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มองว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร มันเขย่าไม่ได้ นี่เป็นรัฐบาลผสม และเป็นข้อตกลงที่เราหารือกันตั้งแต่เราตั้งรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน 2 ปีแล้ว และมายังรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รูปแบบนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ตรงนี้ไม่ใช่ว่าเป็นของใคร แต่เป็นข้อตกลงและเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ที่มีข่าวบอกว่าคนนี้ทำงานดีหรือไม่ดี […]