ชุมพร 13 พ.ย. – สถานการณ์ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากที่ชุมพร ยังน่าห่วง กระทบ 8 อำเภอ ครอบคลุมทั้งจังหวัด โดยเฉพาะ อ.หลังสวน อ.สวี และ อ.ทุ่งตะโก ได้รับผลกระทบหนัก ย้อนดูความเสียหายในรอบ 24 ชั่วโมง
ฝนตกชุมพรยังอ่วม เส้นทางยังอัมพาตหลายจุด
ตั้งแต่เมื่อคืน ถนนสายเอเชีย 41 ซึ่งเป็นถนนสายหลักสำหรับขึ้นลงภาคใต้ หลากเข้าท่วมหลายจุด ตั้งแต่บริเวณตำบลขุนกะทิง อ.เมืองชุมพร อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.หลังสวน บางจุดน้ำเข้าท่วมสูงถึง 80 เซนติเมตร ทำให้ต้องปิดการจราจร รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ รถจอดติดสะสมหนาแน่นอยู่ตามปั๊มน้ำมันและสองข้างทางจำนวนมาก ผู้ที่จะสัญจรล่องลงทางภาคใต้ หากเดินทางต่อต้องเลี่ยงไปใช้ถนนเพชรเกษม จากสี่แยกปฐมพรไป จ.ระนอง ส่วนขาขึ้นต้องเลี่ยงไปใช้ถนนสายพะโต๊ะ-ระนอง ซึ่งเป็นเส้นทางอ้อมไปทางฝั่งอันดามัน ระยะทางไกลกว่า 200 กิโลเมตร
จนถึงขณะนี้ยังคงมีรถติดอยู่บนถนนเอเชีย 41 จำนวนมาก ขณะที่ช่องทางขาล่องใต้ มีรถบรรทุกขนาดใหญ่ฝ่าฝืนขับสวนเลนขึ้นไปเพื่อให้เดินทางให้พ้นพื้นที่น้ำท่วมผิวการจราจร แต่ไม่สามารถไปต่อได้ ทำให้เกิดรถติดทั้งขาขึ้นและขาล่อง ตำรวจพยายามประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือแต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ยังคงมีรถฝ่าฝืนวิ่งสวนเลนขึ้นไปจำนวนมาก ขณะที่บางพื้นที่ยังมีฝนตก
ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศด่วนปิดทางเส้นทางสายใต้ ช่วงระหว่างสถานีสวี-เขาสวนทุเรียน ตั้งแต่เวลา 20.25 น. เมื่อคืนนี้ หลังน้ำหลากท่วมทางรถไฟระหว่างสถานีสวี-เขาสวนทุเรียน อ.สวี ช่วงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 500/15-501/8 ระยะทางประมาณ 80 เมตร เกรงกระทบความปลอดภัยการเดินรถ น้ำยังหลากท่วมถนนเพชรเกษม ทำให้ไม่สามารถขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์ได้ ส่งผลผู้โดยสารที่เดินทางมากับขบวนรถต้องหยุดรอเปิดทาง 8 ขบวน
ล่าสุด การรถไฟฯ ประกาศปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทาง ของขบวนรถในเส้นทางสายใต้ จำนวน 3 ขบวน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ยังมีความจำเป็นในการเดินทาง และงดเดินขบวนรถ 10 ขบวน เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสาร ตั้งแต่วันนี้ (13 พ.ย.) เป็นต้นไปจนกว่ามีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ดังนี้
ปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทาง จำนวน 3 ขบวน
- ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 43/40 กรุงเทพ – สุราษฎร์ธานี – กรุงเทพ ปรับเปลี่ยนเป็น กรุงเทพ – ชุมพร – กรุงเทพ
- ขบวนรถธรรมดาที่ 255 ธนบุรี – หลังสวน ปรับเปลี่ยนเป็น ธนบุรี – ชุมพร
งดเดินขบวนรถ 10 ขบวน
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 31/32 กรุงเทพ – ชุมทางหาดใหญ่ – กรุงเทพ
- ขบวนรถด่วนที่ 83/84 กรุงเทพ – ตรัง – กรุงเทพ
- ขบวนรถด่วนที่ 85/86 กรุงเทพ – นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ
- ขบวนรถเร็วที่ 171/172 กรุงเทพ – สุไหงโกลก – กรุงเทพ
- ขบวนรถขนส่งหีบห่อวัตถุด่วนที่ 985/986 กรุงเทพ – สุไหงโกลก – กรุงเทพ
ส่วนสถานการณ์วันนี้ เส้นทางรถไฟช่วง สทล. 500/1 – 501/8 ระหว่างสถานีสวี – เขาสวนทุเรียน ระดับน้ำมีแนวโน้มเริ่มลดลง ระบบอาณัติสัญญาณ และทางรถไฟได้รับความเสียหายเล็กน้อย มีน้ำกัดเซาะหินบนทางรถไฟ ระยะทางประมาณ 230 เมตร ทั้งนี้ หากระดับน้ำลดลง เจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมดำเนินการซ่อมแซมอัดหิน โดยประมาณการซ่อมแซมแล้วเสร็จภายใน 1 วัน หลังจากระดับน้ำลดลงสู่สภาวะปกติ
ค้นหาเจ้าของร้านอาหารดัง คาดอาจถูกน้ำป่าพัด
ที่บ้านหาดทรายรี หมู่ที่ 8 ต.ท่าหิน อ.สวี นายสุรินทร์ จันทร์น้อย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 พร้อมชาวบ้านมากกว่า 100 คน เข้าสวนยางพาราขนาดใหญ่ริมห้วยในหมู่บ้าน หลังมีคนพบรถส่วนตัวของนายมนัสแดง ประดับ อายุ 62 ปี เจ้าของร้านอาหารน้องแดงซีฟู้ด ร้านอาหารชื่อดังริมหาดทรายรี แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของชุมพร จอดอยู่ทางเข้าสวนยาง โดยหายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่เวลา 12:00 น เมื่อวานนี้ (12 พ.ย.) บอกกับญาติว่าจะไปเตรียมเปิดร้านอาหารหลังปิดมาหลายเดือนจากโควิด และจะไปดูเครื่องปั๊มน้ำในสวนยางพารา ต่อมาญาติไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งมีผู้ไปพบรถในช่วงเช้า หลังค้นหาตลอดทั้งวันก็ยังไม่พบ ทำให้ต้องยกเลิกการค้นหา และเตรียมขอความร่วมมือจากหน่วยงานนำกำลังและสุนัขดมกลิ่นในวันพรุ่งนี้ เบื้องต้นคาดว่า นายมนัส น่าจะจอดรถทิ้งไว้ ก่อนจะเดินลุยน้ำเข้าไปในสวน และอาจถูกน้ำป่าพัดสูญหายไป
ถนนเลียบชายหาด อ.สวี ยัง อ.เมือง ยังใช้การไม่ได้ น้ำท่วมสูง
ส่วนถนนสายหาดทรายรี ไป อ.สวี ซึ่งเป็นถนนเลียบชายทะเล ที่สามารถเข้าสู่ อ.สวี และออกไปยังถนนสายเอเชีย 41 ในพื้นที่หมู่ที่ 10 ต.ท่าหิน อ.สวี ยังมีน้ำหลากท่วมผิวจราจร สูงมากกว่า 1 เมตร ทำให้ชาวบ้าน 2-3 หมู่บ้าน รวมกว่า 50 ครัวเรือน เดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากไม่สามารถออกไปหาอาหารและน้ำดื่มได้ ชาวบ้านบางส่วนนำเรือท้องแบนออกไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบนถนนสายดังกล่าว
ชาวบ้านทำอาหารแจกจ่ายให้รถที่ติดอยู่บนถนนสายเอเชีย 41
ชาวบ้าน ต.วิสัยเหนือ และวิสัยใต้ ที่อาศัยอยู่สองริมฝั่งถนนสายเอเชีย 41 นำอาหารบรรจุกล่องออกเดินเคาะประตูรถที่ติดอยู่บนถนน บริเวณ กม.31-กม.33 อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งติดเป็นระยะยาวเกือบ 20 กิโลเมตร ตั้งแต่เมื่อเวลา 20.00 น. เมื่อวานนี้ จนถึงตอนที่ชาวบ้านเอาข้าวไปแจกจ่ายก็เกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว หลายคนยังไม่ได้กินข้าว ชาวบ้านจึงช่วยกันหุงหาอาหารบรรจุกล่องพร้อมน้ำมามอบให้เพื่อประทังความหิว บางคนบอกว่าเคยประสบเหตุต้องติดค้างอยู่บนท้องถนนเป็นวันๆ รู้ซึ้งดี จึงทำข้าวกล่องมาแจกจ่ายในครั้งนี้
ชลประทานชุมพรเร่งช่วยสูบน้ำหน้าโรงพยาบาลชุมพร
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เผยโครงการชลประทานชุมพรติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งสูบน้ำระบายน้ำออกจากหน้าโรงพยาบาลชุมพร เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับ-ส่งผู้ป่วย พร้อมระดมเครื่องจักร-เครื่องมือช่วยระบายน้ำออกจากถนนสายเอเชีย 41 กม.33-34 ซึ่งระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 50-60 เซนติเมตร ทั้งฝั่งขาล่องใต้และฝั่งขาขึ้น ตลอดจนนำกระสอบทรายและไม้สนเข้าซ่อมแซมถนนช่วงคลองนาคราช ถนนเส้นทุ่งรวงทอง วัดพระขวาง-ขุนกระทิง ที่ชำรุด เนื่องจากถูกน้ำกัดเซาะ รวมถึงการขุดลอกเปิดช่องทำนบดินบริเวณจุดก่อสร้างประตูระบายน้ำนาขา อ.หลังสวน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการการระบายน้ำของคลองบางมุด และยังได้รับการสนับสนุนรถแบ็กโฮจากภาคเอกชนเข้าไปขุดเปิดคันท้ายประตูระบายน้ำปากคลองนาคราช เพื่อช่วยระบายน้ำลงสู่คลองผันน้ำอีกทางหนึ่ง ล่าสุดเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณถนนลอกอตัน และบริเวณหมู่ที่ 6 ต.นาทุ่ง อ.เมืองชุมพร
ทหารช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อ.สวี-อ.หลังสวน จ.ชุมพร
กำลังพลหน่วยทหารพัฒนา กองทัพไทย ชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 6 นาย พร้อมรถ และเรืออะลูมิเนียมท้องแบนกู้ภัย เข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ม.2 บ้านนาคราม ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร อำนวยความสะดวกรับ-ส่งประชาชนในการเดินทางสัญจรเข้า-ออก ในพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 1 เที่ยว ประชาชนที่เข้ารับบริการ จำนวน 3 คน พร้อมทั้งแจกจ่ายสิ่งของอุปโภคบริโภค (น้ำดื่ม 300 ขวด) เนื่องจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ อ.สวี ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ระดับสูง 2.5 ม. พร้อมจัดชุดบรรเทาติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และประสานหน่วยงานในพื้นที่ตลอดเวลา
ส่วนที่ อ.หลังสวน กำลังพลกองพันทหารปืนใหญ่ที่25 ค่ายเขตอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร พร้อม ยุทโธปกรณ์ เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยฉับพลัน ขนย้ายเครื่องเครัวขึ้นที่สูง และขนย้ายยานพาหนะออกจากพื้นที่ ม.9 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน ให้อยู่ในจุดที่ปลอดภัย เนื่องจากมวลน้ำเริ่มหลากท่วมพื้นที่ปลายน้ำ ก่อนจะไหลลงทะเล. – สำนักข่าวไทย