ภาพรวมน้ำท่วมชุมพร กระทบทั้ง 8 อำเภอ หนักสุด หลังสวน-สวี-ทุ่งตะโก

ชุมพร 13 พ.ย. – สถานการณ์ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากที่ชุมพร ยังน่าห่วง กระทบ 8 อำเภอ ครอบคลุมทั้งจังหวัด โดยเฉพาะ อ.หลังสวน อ.สวี และ อ.ทุ่งตะโก ได้รับผลกระทบหนัก ย้อนดูความเสียหายในรอบ 24 ชั่วโมง


ฝนตกชุมพรยังอ่วม เส้นทางยังอัมพาตหลายจุ
ตั้งแต่เมื่อคืน ถนนสายเอเชีย 41 ซึ่งเป็นถนนสายหลักสำหรับขึ้นลงภาคใต้ หลากเข้าท่วมหลายจุด ตั้งแต่บริเวณตำบลขุนกะทิง อ.เมืองชุมพร อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.หลังสวน บางจุดน้ำเข้าท่วมสูงถึง 80 เซนติเมตร ทำให้ต้องปิดการจราจร รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ รถจอดติดสะสมหนาแน่นอยู่ตามปั๊มน้ำมันและสองข้างทางจำนวนมาก ผู้ที่จะสัญจรล่องลงทางภาคใต้ หากเดินทางต่อต้องเลี่ยงไปใช้ถนนเพชรเกษม จากสี่แยกปฐมพรไป จ.ระนอง ส่วนขาขึ้นต้องเลี่ยงไปใช้ถนนสายพะโต๊ะ-ระนอง ซึ่งเป็นเส้นทางอ้อมไปทางฝั่งอันดามัน ระยะทางไกลกว่า 200 กิโลเมตร

จนถึงขณะนี้ยังคงมีรถติดอยู่บนถนนเอเชีย 41 จำนวนมาก ขณะที่ช่องทางขาล่องใต้ มีรถบรรทุกขนาดใหญ่ฝ่าฝืนขับสวนเลนขึ้นไปเพื่อให้เดินทางให้พ้นพื้นที่น้ำท่วมผิวการจราจร แต่ไม่สามารถไปต่อได้ ทำให้เกิดรถติดทั้งขาขึ้นและขาล่อง ตำรวจพยายามประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือแต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ยังคงมีรถฝ่าฝืนวิ่งสวนเลนขึ้นไปจำนวนมาก ขณะที่บางพื้นที่ยังมีฝนตก


ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศด่วนปิดทางเส้นทางสายใต้ ช่วงระหว่างสถานีสวี-เขาสวนทุเรียน ตั้งแต่เวลา 20.25 น. เมื่อคืนนี้ หลังน้ำหลากท่วมทางรถไฟระหว่างสถานีสวี-เขาสวนทุเรียน อ.สวี ช่วงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 500/15-501/8 ระยะทางประมาณ 80 เมตร เกรงกระทบความปลอดภัยการเดินรถ น้ำยังหลากท่วมถนนเพชรเกษม ทำให้ไม่สามารถขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์ได้ ส่งผลผู้โดยสารที่เดินทางมากับขบวนรถต้องหยุดรอเปิดทาง 8 ขบวน

ล่าสุด การรถไฟฯ ประกาศปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทาง ของขบวนรถในเส้นทางสายใต้ จำนวน 3 ขบวน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ยังมีความจำเป็นในการเดินทาง และงดเดินขบวนรถ 10 ขบวน เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสาร ตั้งแต่วันนี้ (13 พ.ย.) เป็นต้นไปจนกว่ามีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ดังนี้
ปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทาง จำนวน 3 ขบวน

  1. ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 43/40 กรุงเทพ – สุราษฎร์ธานี – กรุงเทพ ปรับเปลี่ยนเป็น กรุงเทพ – ชุมพร – กรุงเทพ
  2. ขบวนรถธรรมดาที่ 255 ธนบุรี – หลังสวน ปรับเปลี่ยนเป็น ธนบุรี – ชุมพร

งดเดินขบวนรถ 10 ขบวน


  1. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 31/32 กรุงเทพ – ชุมทางหาดใหญ่ – กรุงเทพ
  2. ขบวนรถด่วนที่ 83/84 กรุงเทพ – ตรัง – กรุงเทพ
  3. ขบวนรถด่วนที่ 85/86 กรุงเทพ – นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ
  4. ขบวนรถเร็วที่ 171/172 กรุงเทพ – สุไหงโกลก – กรุงเทพ
  5. ขบวนรถขนส่งหีบห่อวัตถุด่วนที่ 985/986 กรุงเทพ – สุไหงโกลก – กรุงเทพ

ส่วนสถานการณ์วันนี้ เส้นทางรถไฟช่วง สทล. 500/1 – 501/8 ระหว่างสถานีสวี – เขาสวนทุเรียน ระดับน้ำมีแนวโน้มเริ่มลดลง ระบบอาณัติสัญญาณ และทางรถไฟได้รับความเสียหายเล็กน้อย มีน้ำกัดเซาะหินบนทางรถไฟ ระยะทางประมาณ 230 เมตร ทั้งนี้ หากระดับน้ำลดลง เจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมดำเนินการซ่อมแซมอัดหิน โดยประมาณการซ่อมแซมแล้วเสร็จภายใน 1 วัน หลังจากระดับน้ำลดลงสู่สภาวะปกติ

ค้นหาเจ้าของร้านอาหารดัง คาดอาจถูกน้ำป่าพัด
ที่บ้านหาดทรายรี หมู่ที่ 8 ต.ท่าหิน อ.สวี นายสุรินทร์ จันทร์น้อย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 พร้อมชาวบ้านมากกว่า 100 คน เข้าสวนยางพาราขนาดใหญ่ริมห้วยในหมู่บ้าน หลังมีคนพบรถส่วนตัวของนายมนัสแดง ประดับ อายุ 62 ปี เจ้าของร้านอาหารน้องแดงซีฟู้ด ร้านอาหารชื่อดังริมหาดทรายรี แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของชุมพร จอดอยู่ทางเข้าสวนยาง โดยหายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่เวลา 12:00 น เมื่อวานนี้ (12 พ.ย.) บอกกับญาติว่าจะไปเตรียมเปิดร้านอาหารหลังปิดมาหลายเดือนจากโควิด และจะไปดูเครื่องปั๊มน้ำในสวนยางพารา ต่อมาญาติไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งมีผู้ไปพบรถในช่วงเช้า หลังค้นหาตลอดทั้งวันก็ยังไม่พบ ทำให้ต้องยกเลิกการค้นหา และเตรียมขอความร่วมมือจากหน่วยงานนำกำลังและสุนัขดมกลิ่นในวันพรุ่งนี้ เบื้องต้นคาดว่า นายมนัส น่าจะจอดรถทิ้งไว้ ก่อนจะเดินลุยน้ำเข้าไปในสวน และอาจถูกน้ำป่าพัดสูญหายไป

ถนนเลียบชายหาด อ.วี ยัง อ.เมือง ยังใช้การไม่ได้ น้ำท่วมสูง
ส่วนถนนสายหาดทรายรี ไป อ.สวี ซึ่งเป็นถนนเลียบชายทะเล ที่สามารถเข้าสู่ อ.สวี และออกไปยังถนนสายเอเชีย 41 ในพื้นที่หมู่ที่ 10 ต.ท่าหิน อ.สวี ยังมีน้ำหลากท่วมผิวจราจร สูงมากกว่า 1 เมตร ทำให้ชาวบ้าน 2-3 หมู่บ้าน รวมกว่า 50 ครัวเรือน เดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากไม่สามารถออกไปหาอาหารและน้ำดื่มได้ ชาวบ้านบางส่วนนำเรือท้องแบนออกไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบนถนนสายดังกล่าว

ชาวบ้านทำอาหารแจกจ่ายให้รถที่ติดอยู่บนถนนสายเอเชีย 41
ชาวบ้าน ต.วิสัยเหนือ และวิสัยใต้ ที่อาศัยอยู่สองริมฝั่งถนนสายเอเชีย 41 นำอาหารบรรจุกล่องออกเดินเคาะประตูรถที่ติดอยู่บนถนน บริเวณ กม.31-กม.33 อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งติดเป็นระยะยาวเกือบ 20 กิโลเมตร ตั้งแต่เมื่อเวลา 20.00 น. เมื่อวานนี้ จนถึงตอนที่ชาวบ้านเอาข้าวไปแจกจ่ายก็เกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว หลายคนยังไม่ได้กินข้าว ชาวบ้านจึงช่วยกันหุงหาอาหารบรรจุกล่องพร้อมน้ำมามอบให้เพื่อประทังความหิว บางคนบอกว่าเคยประสบเหตุต้องติดค้างอยู่บนท้องถนนเป็นวันๆ รู้ซึ้งดี จึงทำข้าวกล่องมาแจกจ่ายในครั้งนี้

ลประทานชุมพรเร่งช่วยสูบน้ำหน้าโรงพยาบาลชุมพร
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เผยโครงการชลประทานชุมพรติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งสูบน้ำระบายน้ำออกจากหน้าโรงพยาบาลชุมพร เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับ-ส่งผู้ป่วย พร้อมระดมเครื่องจักร-เครื่องมือช่วยระบายน้ำออกจากถนนสายเอเชีย 41 กม.33-34 ซึ่งระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 50-60 เซนติเมตร ทั้งฝั่งขาล่องใต้และฝั่งขาขึ้น ตลอดจนนำกระสอบทรายและไม้สนเข้าซ่อมแซมถนนช่วงคลองนาคราช ถนนเส้นทุ่งรวงทอง วัดพระขวาง-ขุนกระทิง ที่ชำรุด เนื่องจากถูกน้ำกัดเซาะ รวมถึงการขุดลอกเปิดช่องทำนบดินบริเวณจุดก่อสร้างประตูระบายน้ำนาขา อ.หลังสวน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการการระบายน้ำของคลองบางมุด และยังได้รับการสนับสนุนรถแบ็กโฮจากภาคเอกชนเข้าไปขุดเปิดคันท้ายประตูระบายน้ำปากคลองนาคราช เพื่อช่วยระบายน้ำลงสู่คลองผันน้ำอีกทางหนึ่ง ล่าสุดเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณถนนลอกอตัน และบริเวณหมู่ที่ 6 ต.นาทุ่ง อ.เมืองชุมพร

ทหารช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อ.สวี-อ.หลังสวน จ.ชุมพร
กำลังพลหน่วยทหารพัฒนา กองทัพไทย ชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 6 นาย พร้อมรถ และเรืออะลูมิเนียมท้องแบนกู้ภัย เข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ม.2 บ้านนาคราม ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร อำนวยความสะดวกรับ-ส่งประชาชนในการเดินทางสัญจรเข้า-ออก ในพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 1 เที่ยว ประชาชนที่เข้ารับบริการ จำนวน 3 คน พร้อมทั้งแจกจ่ายสิ่งของอุปโภคบริโภค (น้ำดื่ม 300 ขวด) เนื่องจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ อ.สวี ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ระดับสูง 2.5 ม. พร้อมจัดชุดบรรเทาติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และประสานหน่วยงานในพื้นที่ตลอดเวลา

ส่วนที่ อ.หลังสวน กำลังพลกองพันทหารปืนใหญ่ที่25 ค่ายเขตอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร พร้อม ยุทโธปกรณ์ เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยฉับพลัน ขนย้ายเครื่องเครัวขึ้นที่สูง และขนย้ายยานพาหนะออกจากพื้นที่ ม.9 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน ให้อยู่ในจุดที่ปลอดภัย เนื่องจากมวลน้ำเริ่มหลากท่วมพื้นที่ปลายน้ำ ก่อนจะไหลลงทะเล. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบถ่ายรูป ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ

ทำเนียบ 3 ก.ค.- ชื่นมื่น! 14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบฯ ตั้งแต่ช่วงเช้า ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ “อรรถกร” มาถึงคนแรก ปิดท้ายด้วย “นายกฯ แพทองธาร” เตรียมประชุม ครม. นัดพิเศษในช่วงบ่าย แบ่งงานรองนายกฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีใหม่ 14 คน ทยอยเดินทางมายังตึกสันติไมตรี เพื่อตรวจเอทีเค ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีที่เดินทางมาเป็นคนแรก คือ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้น นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามด้วย นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

กู้ร่างครบแล้ว เหตุไฟไหม้โรงงานทิชชู เสียชีวิต 10 ราย

สระบุรี 2 ก.ค. – เหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู ในนิคมเหมราช จ.สระบุรี ล่าสุดพบร่างที่ 10 ซึ่งเป็นร่างสุดท้าย ถือว่าภารกิจการค้นหาสิ้นสุดแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายกว่า 50 ชั่วโมง ยุติลงแล้ว หลังเกิดเพลิงไหม้อาคารบริษัทผลิตกระดาษทิชชู ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิว เอช เอ ซอย 8 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ทีมกู้ชีพ กู้ภัยร่วมกตัญญู กู้ภัยสว่างรัตนตรัย และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับฝ่ายปกครอง และชุดค้นหาเร่งระดมสรรพกำลัง ปูพรมค้นหาร่างผู้สูญหาย 10 คน นำโดยนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค ลงพื้นที่เกาะติดการค้นหาผู้สูญหาย ช่วง 10.30 น. มีรายงานจากทีมค้นหามูลนิธิร่วมกตัญญู แจ้งว่า ที่ชั้นบนของอาคารเกิดเหตุ พบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง อยู่ในสภาพเหลือแต่กระดูกบริเวณชั้นที่ 2 ฝั่งตะวันตกของโรงงาน ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รายที่ […]

เร่งคลี่คลายคดีโจรฉกเงิน-ทองคำ วัดม่วง

กทม. 2 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโจรวัดม่วง ลักเงินเจ้าอาวาส 10 ล้าน ทองคำ 250 บาท หายล่องหน ขณะที่อดีตพระคนสนิท เผยประตูกุฏิล็อกถึง 5 ชั้น เชื่อฝีมือคนใน พร้อมเรียกร้องตรวจสอบเงินบริจาควัด ความคืบหน้า เหตุคนร้ายย่องลักทรัพย์ เงิน 10 ล้าน-ทองคำหนัก 250 บาท ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค วันนี้ชุดสืบสวนของ บก.ปปป. ร่วมกับชุดคลี่คลายคดีของ สน.เพชรเกษม เดินทางไปที่วัดม่วงเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่เมื่อเดินทางไปที่กุฎิเจ้าอาวาส ปรากฏว่า กุฏิปิดเงียบล็อกกุญแจจากด้านหน้า ไร้เงาเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ ปปป. จึงพยายามโทรไปหาเจ้าอาวาสแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เปิดเผยว่า หลังปรากฏข่าว เจ้าอาวาสได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่าเงินและทองคำภายในกุฏิหาย ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่ากุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ และการจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อกถึง 5 ชั้น แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะเข้าไปได้ มองว่าตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปน่าจะทำได้ยาก […]