ภาพรวมน้ำท่วมชุมพร กระทบทั้ง 8 อำเภอ หนักสุด หลังสวน-สวี-ทุ่งตะโก

ชุมพร 13 พ.ย. – สถานการณ์ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากที่ชุมพร ยังน่าห่วง กระทบ 8 อำเภอ ครอบคลุมทั้งจังหวัด โดยเฉพาะ อ.หลังสวน อ.สวี และ อ.ทุ่งตะโก ได้รับผลกระทบหนัก ย้อนดูความเสียหายในรอบ 24 ชั่วโมง


ฝนตกชุมพรยังอ่วม เส้นทางยังอัมพาตหลายจุ
ตั้งแต่เมื่อคืน ถนนสายเอเชีย 41 ซึ่งเป็นถนนสายหลักสำหรับขึ้นลงภาคใต้ หลากเข้าท่วมหลายจุด ตั้งแต่บริเวณตำบลขุนกะทิง อ.เมืองชุมพร อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.หลังสวน บางจุดน้ำเข้าท่วมสูงถึง 80 เซนติเมตร ทำให้ต้องปิดการจราจร รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ รถจอดติดสะสมหนาแน่นอยู่ตามปั๊มน้ำมันและสองข้างทางจำนวนมาก ผู้ที่จะสัญจรล่องลงทางภาคใต้ หากเดินทางต่อต้องเลี่ยงไปใช้ถนนเพชรเกษม จากสี่แยกปฐมพรไป จ.ระนอง ส่วนขาขึ้นต้องเลี่ยงไปใช้ถนนสายพะโต๊ะ-ระนอง ซึ่งเป็นเส้นทางอ้อมไปทางฝั่งอันดามัน ระยะทางไกลกว่า 200 กิโลเมตร

จนถึงขณะนี้ยังคงมีรถติดอยู่บนถนนเอเชีย 41 จำนวนมาก ขณะที่ช่องทางขาล่องใต้ มีรถบรรทุกขนาดใหญ่ฝ่าฝืนขับสวนเลนขึ้นไปเพื่อให้เดินทางให้พ้นพื้นที่น้ำท่วมผิวการจราจร แต่ไม่สามารถไปต่อได้ ทำให้เกิดรถติดทั้งขาขึ้นและขาล่อง ตำรวจพยายามประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือแต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ยังคงมีรถฝ่าฝืนวิ่งสวนเลนขึ้นไปจำนวนมาก ขณะที่บางพื้นที่ยังมีฝนตก


ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศด่วนปิดทางเส้นทางสายใต้ ช่วงระหว่างสถานีสวี-เขาสวนทุเรียน ตั้งแต่เวลา 20.25 น. เมื่อคืนนี้ หลังน้ำหลากท่วมทางรถไฟระหว่างสถานีสวี-เขาสวนทุเรียน อ.สวี ช่วงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 500/15-501/8 ระยะทางประมาณ 80 เมตร เกรงกระทบความปลอดภัยการเดินรถ น้ำยังหลากท่วมถนนเพชรเกษม ทำให้ไม่สามารถขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์ได้ ส่งผลผู้โดยสารที่เดินทางมากับขบวนรถต้องหยุดรอเปิดทาง 8 ขบวน

ล่าสุด การรถไฟฯ ประกาศปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทาง ของขบวนรถในเส้นทางสายใต้ จำนวน 3 ขบวน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ยังมีความจำเป็นในการเดินทาง และงดเดินขบวนรถ 10 ขบวน เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสาร ตั้งแต่วันนี้ (13 พ.ย.) เป็นต้นไปจนกว่ามีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ดังนี้
ปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทาง จำนวน 3 ขบวน

  1. ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 43/40 กรุงเทพ – สุราษฎร์ธานี – กรุงเทพ ปรับเปลี่ยนเป็น กรุงเทพ – ชุมพร – กรุงเทพ
  2. ขบวนรถธรรมดาที่ 255 ธนบุรี – หลังสวน ปรับเปลี่ยนเป็น ธนบุรี – ชุมพร

งดเดินขบวนรถ 10 ขบวน


  1. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 31/32 กรุงเทพ – ชุมทางหาดใหญ่ – กรุงเทพ
  2. ขบวนรถด่วนที่ 83/84 กรุงเทพ – ตรัง – กรุงเทพ
  3. ขบวนรถด่วนที่ 85/86 กรุงเทพ – นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ
  4. ขบวนรถเร็วที่ 171/172 กรุงเทพ – สุไหงโกลก – กรุงเทพ
  5. ขบวนรถขนส่งหีบห่อวัตถุด่วนที่ 985/986 กรุงเทพ – สุไหงโกลก – กรุงเทพ

ส่วนสถานการณ์วันนี้ เส้นทางรถไฟช่วง สทล. 500/1 – 501/8 ระหว่างสถานีสวี – เขาสวนทุเรียน ระดับน้ำมีแนวโน้มเริ่มลดลง ระบบอาณัติสัญญาณ และทางรถไฟได้รับความเสียหายเล็กน้อย มีน้ำกัดเซาะหินบนทางรถไฟ ระยะทางประมาณ 230 เมตร ทั้งนี้ หากระดับน้ำลดลง เจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมดำเนินการซ่อมแซมอัดหิน โดยประมาณการซ่อมแซมแล้วเสร็จภายใน 1 วัน หลังจากระดับน้ำลดลงสู่สภาวะปกติ

ค้นหาเจ้าของร้านอาหารดัง คาดอาจถูกน้ำป่าพัด
ที่บ้านหาดทรายรี หมู่ที่ 8 ต.ท่าหิน อ.สวี นายสุรินทร์ จันทร์น้อย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 พร้อมชาวบ้านมากกว่า 100 คน เข้าสวนยางพาราขนาดใหญ่ริมห้วยในหมู่บ้าน หลังมีคนพบรถส่วนตัวของนายมนัสแดง ประดับ อายุ 62 ปี เจ้าของร้านอาหารน้องแดงซีฟู้ด ร้านอาหารชื่อดังริมหาดทรายรี แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของชุมพร จอดอยู่ทางเข้าสวนยาง โดยหายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่เวลา 12:00 น เมื่อวานนี้ (12 พ.ย.) บอกกับญาติว่าจะไปเตรียมเปิดร้านอาหารหลังปิดมาหลายเดือนจากโควิด และจะไปดูเครื่องปั๊มน้ำในสวนยางพารา ต่อมาญาติไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งมีผู้ไปพบรถในช่วงเช้า หลังค้นหาตลอดทั้งวันก็ยังไม่พบ ทำให้ต้องยกเลิกการค้นหา และเตรียมขอความร่วมมือจากหน่วยงานนำกำลังและสุนัขดมกลิ่นในวันพรุ่งนี้ เบื้องต้นคาดว่า นายมนัส น่าจะจอดรถทิ้งไว้ ก่อนจะเดินลุยน้ำเข้าไปในสวน และอาจถูกน้ำป่าพัดสูญหายไป

ถนนเลียบชายหาด อ.วี ยัง อ.เมือง ยังใช้การไม่ได้ น้ำท่วมสูง
ส่วนถนนสายหาดทรายรี ไป อ.สวี ซึ่งเป็นถนนเลียบชายทะเล ที่สามารถเข้าสู่ อ.สวี และออกไปยังถนนสายเอเชีย 41 ในพื้นที่หมู่ที่ 10 ต.ท่าหิน อ.สวี ยังมีน้ำหลากท่วมผิวจราจร สูงมากกว่า 1 เมตร ทำให้ชาวบ้าน 2-3 หมู่บ้าน รวมกว่า 50 ครัวเรือน เดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากไม่สามารถออกไปหาอาหารและน้ำดื่มได้ ชาวบ้านบางส่วนนำเรือท้องแบนออกไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบนถนนสายดังกล่าว

ชาวบ้านทำอาหารแจกจ่ายให้รถที่ติดอยู่บนถนนสายเอเชีย 41
ชาวบ้าน ต.วิสัยเหนือ และวิสัยใต้ ที่อาศัยอยู่สองริมฝั่งถนนสายเอเชีย 41 นำอาหารบรรจุกล่องออกเดินเคาะประตูรถที่ติดอยู่บนถนน บริเวณ กม.31-กม.33 อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งติดเป็นระยะยาวเกือบ 20 กิโลเมตร ตั้งแต่เมื่อเวลา 20.00 น. เมื่อวานนี้ จนถึงตอนที่ชาวบ้านเอาข้าวไปแจกจ่ายก็เกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว หลายคนยังไม่ได้กินข้าว ชาวบ้านจึงช่วยกันหุงหาอาหารบรรจุกล่องพร้อมน้ำมามอบให้เพื่อประทังความหิว บางคนบอกว่าเคยประสบเหตุต้องติดค้างอยู่บนท้องถนนเป็นวันๆ รู้ซึ้งดี จึงทำข้าวกล่องมาแจกจ่ายในครั้งนี้

ลประทานชุมพรเร่งช่วยสูบน้ำหน้าโรงพยาบาลชุมพร
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เผยโครงการชลประทานชุมพรติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งสูบน้ำระบายน้ำออกจากหน้าโรงพยาบาลชุมพร เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับ-ส่งผู้ป่วย พร้อมระดมเครื่องจักร-เครื่องมือช่วยระบายน้ำออกจากถนนสายเอเชีย 41 กม.33-34 ซึ่งระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 50-60 เซนติเมตร ทั้งฝั่งขาล่องใต้และฝั่งขาขึ้น ตลอดจนนำกระสอบทรายและไม้สนเข้าซ่อมแซมถนนช่วงคลองนาคราช ถนนเส้นทุ่งรวงทอง วัดพระขวาง-ขุนกระทิง ที่ชำรุด เนื่องจากถูกน้ำกัดเซาะ รวมถึงการขุดลอกเปิดช่องทำนบดินบริเวณจุดก่อสร้างประตูระบายน้ำนาขา อ.หลังสวน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการการระบายน้ำของคลองบางมุด และยังได้รับการสนับสนุนรถแบ็กโฮจากภาคเอกชนเข้าไปขุดเปิดคันท้ายประตูระบายน้ำปากคลองนาคราช เพื่อช่วยระบายน้ำลงสู่คลองผันน้ำอีกทางหนึ่ง ล่าสุดเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณถนนลอกอตัน และบริเวณหมู่ที่ 6 ต.นาทุ่ง อ.เมืองชุมพร

ทหารช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อ.สวี-อ.หลังสวน จ.ชุมพร
กำลังพลหน่วยทหารพัฒนา กองทัพไทย ชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 6 นาย พร้อมรถ และเรืออะลูมิเนียมท้องแบนกู้ภัย เข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ม.2 บ้านนาคราม ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร อำนวยความสะดวกรับ-ส่งประชาชนในการเดินทางสัญจรเข้า-ออก ในพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 1 เที่ยว ประชาชนที่เข้ารับบริการ จำนวน 3 คน พร้อมทั้งแจกจ่ายสิ่งของอุปโภคบริโภค (น้ำดื่ม 300 ขวด) เนื่องจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ อ.สวี ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ระดับสูง 2.5 ม. พร้อมจัดชุดบรรเทาติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และประสานหน่วยงานในพื้นที่ตลอดเวลา

ส่วนที่ อ.หลังสวน กำลังพลกองพันทหารปืนใหญ่ที่25 ค่ายเขตอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร พร้อม ยุทโธปกรณ์ เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยฉับพลัน ขนย้ายเครื่องเครัวขึ้นที่สูง และขนย้ายยานพาหนะออกจากพื้นที่ ม.9 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน ให้อยู่ในจุดที่ปลอดภัย เนื่องจากมวลน้ำเริ่มหลากท่วมพื้นที่ปลายน้ำ ก่อนจะไหลลงทะเล. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]