หนุ่มฆ่าบีบคอสาวเปลือยกายเข้าข่ายฆาตรกรต่อเนื่อง

สมุทรปราการ 6 ก.ย. – ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาบีบคอฆ่าหญิงสาวเปลือยกายหมกศพในห้องพักพื้นที่ จ.สุมทรปราการ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ด้านผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ที่วันนี้ลงพื้นที่แถลงข่าวด้วยตนเอง ชี้ว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมทางเพศที่รุนแรง และอาจจะเข้าข่ายเป็นฆาตรกรต่อเนื่อง เพราะมีประวัติก่อเหตุลักษณะเดียวกันในหลายพื้นที่


จากกรณี น.ส.จิราพร อายุ 27 ปี หญิงสาวสวยรูปร่างดี ถูกฆาตกรรมเสียชีวิตในสภาพเปลือยกาย มีเลือดไหลออกปากและจมูก ที่ลำคอมีรอยเขียวช้ำ เหตุเกิดภายในห้องพักแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ ในที่เกิดเหตุยังพบถุงยางอนามัยใช้แล้วตกเกลื่อนห้องและถังขยะ รวม 12 ชิ้น

ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในอาคารห้องเช่าของผู้เสียชีวิตเป็นหลักฐานสำคัญมัดตัวผู้ต้องหา เนื่องจากพบว่าอยู่กับผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้าย ก่อนจะพบเป็นศพในวันที่ 3 ก.ย.


23.14 น. ของวันที่ 31 ส.ค. ผู้เสียชีวิตเปิดประตูรับผู้ต้องหาเข้าไปในอาคาร ก่อนจะเดินตามเข้าห้องพักไปด้วยกัน เที่ยงคืนของวันใหม่ ผู้ต้องหาเดินออกจากอาคารไป

ตี 1 เศษๆ ผู้ต้องหากลับมาที่หน้าอาคารห้องพักผู้เสียชีวิตอีกครั้ง ลักษณะยืนตอบแชทที่หน้าประตู ก่อนจะเข้าไปภายในอาคาร โดยมีผู้เสียชีวิตลงมาเปิดประตูให้เช่นเดิม จากนั้นผู้เสียชีวิตได้เดินกลับเข้าห้องพัก ไม่นานผู้ต้องหาเดินตามเข้าไป

ประมาณ 1 ชั่วโมง 25 นาทีต่อมา กล้องวงจรปิดปรากฏภาพผู้ต้องหาเดินออกจากห้อง ด้วยท่าทีปกติ ไม่มีพิรุธใดๆ เพียงไม่ได้สวมเสื้อแขนยาวเหมือนตอนเข้าไป ส่วนที่แขนซ้ายหนีบขวดน้ำดื่มออกมาดื่มด้วย และก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ออกไปยังพบมี รปภ.มายืนพูดคุยสอบถาม


ส่วนนี้เป็นแชทไลน์โต้ตอบระหว่างผู้ต้องหากับผู้เสียชีวิต ที่ทีมข่าวสำนักข่าวไทยได้รับ ซึ่งเป็นการคุยกันช่วงตี 1 เศษๆ ก่อนที่ผู้เสียชีวิตจะลงมาเปิดประตูรับผู้ต้องหาขึ้นไปบนห้องรอบที่ 2 โดยในแชทไลน์มีใจความว่าให้ผู้เสียชีวิตลงมารับขึ้นไปบนห้อง เพื่อปฏิบัติภารกิจให้เสร็จสิ้น หลังได้จ่ายเงินให้ไปแล้ว

ตำรวจเร่งสืบสวนหาข้อมูลจนทราบชื่อผู้ต้องหาคือ นายเอกพจน์ อายุ 34 ปี ตรวจสอบพบมีประวัติเคยถูกจำคุกในคดีข่มขืนกว่า 5 ปี และเพิ่งพ้นโทษเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะก่อเหตุบีบคอ ฆ่าชิงทรัพย์ น.ส.จิราพร ยังไม่ทันข้ามวันก็ไปก่อเหตุลักษณะเดียวกันกับเหยื่อสาวในพื้นที่ สน.บางนา ซึ่งเหยื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดี พร้อมเผยว่าถูกนายเอกพจน์บีบคอจนเกือบเสียชีวิต แต่เหยื่อได้ร้องขอชีวิต นายเอกพจน์จึงข่มขู่รีดไถเงินจำนวน 6,000 บาท พร้อมนำโทรศัพท์มือถือของเหยื่อไปด้วย

ที่สุดตำรวจสามามาจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นห้องพักของแฟนสาวคนปัจจุบัน ตำรวจชี้ผู้ต้องหามีพฤติกรรมชอบใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะกับผู้หญิง โดยผู้ต้องหาจะนำรูปหนุ่มหล่อมาเป็นโปรไฟล์ ก่อนจะทักหญิงสาวสวย พูดคุยทำความรู้จัก ก่อนจะก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน

ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ประมาณ 4-5 วันก่อนเกิดเหตุได้ติดต่อกับผู้ตายทางทวิตเตอร์ และมีการขอซื้อบริการเป็นเวลา 1 ชั่วโมง กระทั่งวันถึงวันนัดหมาย ได้เสพไอซ์ก่อนไปหาผู้เสียชีวิตที่ห้องพัก แต่ยังไม่ทันได้เสร็จกิจ เนื่องจากอวัยวะเพศไม่แข็งตัว จึงออกจากห้อง และกลับเข้าไปอีกครั้ง ระหว่างนั้นได้มีปากเสียงกับผู้เสียชีวิต เนื่องจากถูกเหยียดหยามเรื่องขนาดอวัยวะเพศ ตนโมโหจึงลงมือบีบคอจนแน่นิ่ง ไม่ได้คิดว่าจะถึงขั้นเสียชีวิต จากนั้นได้หยิบสร้อยข้อมือทองคำและโทรศัพท์ 3 เครื่องหลบหนีไป

วันนี้ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังห้องพักที่เกิดเหตุ ยังไม่ทันได้ทำอะไร พบว่าผู้ต้องหามีอาการตัวแข็ง เกร็ง ก้าวขาไม่ออก เจ้าหน้าที่เกรงว่าจะเป็นลม จึงให้นั่งพักบนเตียงที่ก่อเหตุ ก่อนจะลุกขึ้นมาไหว้ขอขมาผู้เสียชีวิต และทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อ โดยเฉพาะช่วงใช้มือบีบคอผู้เสียชีวิต ผู้ต้องหาเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่าตนไม่ได้ตั้งใจฆ่า และอยากขอโทษแม่ผู้เสียชีวิต

ขณะที่ตำรวจเตือนหญิงสาวกับการใช้โซเชียลเป็นสะพานในการนัดพบกับชายหนุ่ม ให้มีความระมัดระวัง รอบคอบ ก่อนจะตกเป็นเหยื่อเช่นกรณีนี้

นอกจากข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแล้ว ตำรวจยังเตรียมแจ้งข้อหาลักทรัพย์กับผู้ต้องหาด้วย พร้อมส่งตัวทดสอบทางด้านสุขภาพจิต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]