fbpx

มิจฉาชีพหลอกพระโอนเงิน อ้างค่าเสียหายลูกชายขี่รถชน

สระบุรี 19 มี.ค. – พระโดนแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน 5,000 บาท อ้างเป็นค่าเสียหายที่ลูกชายพระขี่รถจักรยานยนต์ชนบาดเจ็บ


กรณีมีกลุ่มมิจฉาชีพโทรศัพท์มาหลอกเอาเงิน 5,000 บาท จากพระลูกวัดเขาดินใต้ ต.หัวปลวก อ.เสาไห้ จ.สระบุรี โดยอ้างว่า รถจักรยานยนต์ของลูกชายพระได้ขี่มาชนกับรถจักรยานยนต์ของลูกชายกลุ่มมิจฉาชีพ จนได้รับบาดเจ็บแขนหัก ขอให้พระโอนเงินมาให้ เพื่อเป็นค่ารักษาและค่าซ่อมรถ จนพระหลงเชื่อ ด้วยความห่วงลูก เกรงจะมีความผิด จึงโอนเงินไปให้ จนกระทั่งมารู้ทีหลังว่าถูกหลอก จึงแจ้งตำรวจให้เร่งดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพ

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (19 มี.ค.) พระทองอ่อน นิโล ปโล (พระลูกวัด) อายุ 64 ปี ซึ่งจำพรรษาอยู่ที่วัดเขาดินใต้ หมู่ 12 ต.หัวปลวก อ.เสาไห้ จ.สระบุรี เปิดเผยให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564 เวลา 18.00 น. กลุ่มมิจฉาชีพโทรศัพท์มาหาพระทองอ่อนว่า ลูกชายของพระขี่รถจักรยานยนต์ไปชนกับรถของลูกชายกลุ่มมิจฉาชีพ โดยอ้างว่าลูกของตนได้รับบาดเจ็บแขนหัก และรถเสียหาย บริเวณ ถ.สุดบรรทัด หน้าสถานีขนส่งจังหวัดสระบุรี และเรียกเงินค่าเสียหายเป็นค่ารักษา 5,000 บาท ขอให้โอนมาเลย แล้วจะเลิกราต่อกัน จนพระหลงเชื่อโอนไปให้


พระทองอ่อน เล่าว่า ขณะที่พูดคุยกันทางโทรศัพท์ กลุ่มมิจฉาชีพพยายามสร้างสถานการณ์ คล้ายกับว่าทั้งหมดอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยใช้เสียงร้องของผู้บาดเจ็บผ่านทางโทรศัพท์ที่กำลังสนทนากัน เพื่อให้พระทองอ่อนหลงเชื่อ โดยมีเสียงคล้ายเสียงร้องของคนเจ็บจากอุบัติเหตุ จนทำให้พระทองอ่อนตกใจหลงเชื่อ เนื่องจากไม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ อีกทั้งด้วยความเป็นห่วงลูกชาย พระทองอ่อนจึงโอนเงินไปให้กลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว 5,000 บาท ตามเลขบัญชีที่แจ้งมา จากนั้นพระทองอ่อนได้โทรศัพท์ไปถามโยมแฟนที่บ้าน และให้โยมแฟนขี่รถจักรยานยนต์ไปดูลูกชาย พร้อมสอบถามความจริง พบว่า ลูกชายยังทำงานอยู่ที่โรงงาน ในพื้นที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยไม่ได้ประสบอุบัติเหตุ หรือได้รับอันตรายอย่างที่กลุ่มมิจฉาชีพกล่าวอ้าง พระทองอ่อนจึงได้นำหลักฐานการโอนเงิน 5,000 บาท เข้าแจ้งความที่ สภ.เสาไห้ จ.สระบุรี เพื่อให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้านนายสงวนรัฐ เลี้ยงดี อายุ 37 ปี เจ้าของร้านที่รับโอนเงินออนไลน์ นำหลักฐานการโอนเงิน จำนวน 5,000 บาท มาแสดงต่อผู้สื่อข่าว เพื่อเป็นหลักฐานว่ามีการโอนเงินไปให้กับกลุ่มมิจฉาชีพจริง พร้อมทั้งเผยว่า ขณะนั้นตนเองไม่รู้มาก่อนว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว คิดว่าเป็นการโอนเงินตามปกติ จึงไม่เฉลียวใจ และได้โอนเงินไปให้ตามคำสั่งของลูกค้า

พระทองอ่อน ยังบอกอีกว่า เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้รู้เท่าทันกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้โทรศัพท์หลอกลวงในลักษณะนี้ โดยใช้ความทุกข์และความเดือดร้อนจากอุบัติเหตุมาหลอกลวงคนอื่น อยากให้ประชาชนตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนโอนเงิน พร้อมขอให้ตำรวจติดตามจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง