ศาลให้ประกันตัว 22 กะเหรี่ยงบางกลอย เงื่อนไขห้ามบุกรุกอีก

เพชรบุรี 8 มี.ค. – ศาลจังหวัดเพชรบุรี อนุญาตให้ประกันตัว 22 กะเหรี่ยงบางกลอย โดยมีเงื่อนไขห้ามกลับขึ้นไปบุกรุกป่าบางกลอยบนอีก หากยังฝ่าฝืนจะโดนปรับและถอนประกัน


ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ปฏิบัติการสายฟ้า ปิดยุทธการพิทักษ์ป่าต้นน้ำเพชร เข้าจับกุมกลุ่มผู้บุกรุกป่าต้นน้ำใน อช.แก่งกระจาน ซึ่งมีนายนอแอ๊ะ มีมิ ลูกชายนายคออี้ กับชาวบ้านอีกหลายคน ขึ้นไปบุกรุกยึดถือที่ดิน โค่นไม้ เผาป่า อ้างว่าเป็นชุมชนดั้งเดิม โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ จำนวน 3 ลำนำ ขาไป จำนวน 10 เที่ยวบิน จำนวน 42 นาย ขากลับ จำนวน 28 เที่ยวบิน จำนวน 71 นาย รวมผู้กระทำความผิดฯ หลังนำตัวชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวลงมาแล้ว ได้ทำการตรวจสุขภาพ และดำเนินคดีตามกฎหมาย มีการตรวจคัดกรองโควิด-19 และตรวจสุขภาพของผู้กระทำความผิด การตรวจพิสูจน์บุคคล การแจ้งหมายจับ และบันทึกเปรียบเทียบปรับ บันทึกการจับกุม นำส่งพนักงานสืบสวน สภ.แก่งกระจาน สามารถจับกุมผู้กระทำผิดตามหมายจับได้รวม 22 คน (ชาย 15 หญิง 7) ทำการเปรียบเทียบปรับ จำนวน 28 คน (ชาย 13 หญิง 15) คัดกรองบุคคลที่เป็นเด็ก นำส่งผู้ปกครอง จำนวน 37 คน (ชาย 19 หญิง 18) รวมจำนวนราษฎรบ้านบางกลอยในปฏิบัติการครั้งนี้ทั้งสิ้น 87 ราย ซึ่งหลังสอบปากคำผู้ต้องหาตามหมายจับเสร็จ ก็ได้ขออนุญาตศาลจังหวัดเพชรบุรี นำตัวฝากขังยังเรือนจำกลางเพชรบุรี ศาลจังหวัดเพชรบุรีได้อนุมัติตามคำขอ จึงควบคุมตัวทั้ง 22 คน เข้าสู่เรือนจำกลางเพชรบุรี และไม่มีผู้ใดมายื่นประกันตัว

ล่าสุดศาลจังหวัดเพชรบุรี อนุญาตให้ประกันตัวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอยแล้ว โดยมีเงื่อนไขว่า หากกลับขึ้นไปบุกรุกบางกลอยบน ห้วยบางกลอย บนอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จะถูกปรับครั้งละ 50,000 บาท นอกจากนี้ ให้รายงานตัวต่อฝ่ายปกครอง (กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน) ทุกๆ 12 วัน โดยนายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า ชาวบ้านทั้ง 22 คน ได้เขียนคำร้องด้วยตนเองว่าตนเป็นผู้ยากไร้ โดยศาลจังหวัดเพชรบุรีให้ผู้ต้องหาทั้งหมดปฏิญาณตนว่าจะไม่กลับไปกระทำความผิดดังกล่าว หรือขึ้นไปบริเวณป่าบางกลอยบนอีก หรือพื้นที่อื่นในเขตอุทยานฯ ที่อุทยานฯ ไม่อนุญาตให้เข้าไป หากยังฝ่าฝืนจะโดนปรับครั้งละ 50,000 บาท และถอนประกัน ทั้งนี้ ให้ผู้ต้องหาทั้งหมดอยู่ภายใต้กำกับดูแล สอดส่อง ของผู้ปกครองท้องที่ พร้อมรายงานตัวกับฝ่ายปกครองทุก 12 วัน จากนั้นผู้ใหญ่บ้านบางกลอย ได้จัดเตรียมรถมารับผู้ต้องหาทั้ง 22 คน เดินทางกลับไปยังหมู่บ้านบางกลอยแล้ว. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ