“ทนายษิทรา” พร้อมช่วยเหลือ-แนะนำทางคดีให้ “ลุงพล”

ภูมิภาค 25 ม.ค. – ทนายษิทรา พร้อมทีมงาน เดินทางถึงท่าอากาศยานสกลนคร หลังรับปากจะเดินทางมาดูคดีน้องชมพู่ และช่วยเหลือทางคดีให้กับลุงพล ทนายษิทรา ระบุเบื้องต้นพร้อมให้ความช่วยเหลือแนะนำคดีความ ทั้งคดีไม้มะค่าแต้ คดีทำร้ายร่างกายนักข่าวช่องดัง


พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุเพียงสั้นๆ ว่าผลการตรวจพิสูจน์ผ่านเครื่องจับเท็จในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ซึ่งมีการสอบปากคำนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล, นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น ครอบครัวน้องชมพู่ และชาวบ้านบ้านกกกอก จ.มุกดาหาร ขณะนี้ได้ผลออกมาแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูลใดๆ

ขณะที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พร้อมทีมงาน เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสกลนคร เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังรับปากจะเดินทางมาดูคดีน้องชมพู่ และช่วยเหลือทางคดีให้กับลุงพล โดยมีลุงพลและป้าแต๋นรอต้อนรับ บรรยากาศก่อนจะเดินทางขึ้นรถออกจากสนามบิน ทางทนายตั้มลุงพล และป้าแต๋น ได้พูดคุยกันเล็กน้อย โดยสีหน้าของลุงพลและป้าแต๋นไม่ได้มีอาการเคร่งเครียดแต่อย่างใด


กระทั่งเมื่อเวลา 17.00 น. ทนายตั้ม ลุงพล ป้าแต๋น ตั้งโต๊ะแถลงข่าวที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครสกลนคร เบื้องต้นจากการพูดคุยกับลุงพลได้ข้อสรุปร่วมกันว่ามีการเปลี่ยนแผนการลงพื้นที่บ้านกกกอก ออกไปก่อน เนื่องจากหลายฝ่ายอาจไม่สบายใจ เพราะเดินทางมาจากพื้นที่สีแดง จ.สมุทรสาคร ยืนยันมีใบขอออกจากพื้นที่สมุทรสาคร และมีการตรวจโควิด-19 เรียบร้อยแล้ว แต่เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย จะรอให้จังหวัดมีการคลายล็อกดาวน์ก่อนจึงจะมีการลงพื้นที่บ้านกกกอกและที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าน้องชมพู่เสียชีวิตได้อย่างไร ขณะนี้จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะรับทำคดีของลุงพลหรือไม่ในตอนนี้ แต่เบื้องต้นพร้อมจะให้ความช่วยเหลือแนะนำคดีความ เช่น คดีไม้มะค่าแต้ คดีทำร้ายร่างกายนักข่าวช่องดัง ส่วนกระแสข่าวว่าที่ว่าอาจจะมีการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องช่วงวันวาเลนไทน์นี้ ยืนยันหากบุคคลที่ถูกออกหมายจับเป็นลุงพลจริง ก็พร้อมช่วยเหลือเบื้องต้นตามขั้นตอนทางกฎหมาย โดยวันพรุ่งนี้ลุงพลจะพาทนายตั้มไปทำบุญที่วัดพระธาตุเชิงชุม ซึ่งจะมีเวลาพูดคุยกันมากขึ้น

ขณะที่คดีครอบครองไม้มะค่าแต้ เบื้องต้นลุงพลได้แจ้งพนักงานสอบสวน สภ.กกตูม ขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาครอบครองไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และคดีที่ทำร้ายผู้สื่อข่าว ที่มีการแจ้งดำเนินคดีรวม 3 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกาย ข่มขืนจิตใจ และพยายามชิงทรัพย์ ออกไปก่อน เพราะในวันนี้ติดภารกิจส่วนตัว ต้องเดินทางไปรับทนายษิทรา

ด้านนายประหยัด คูณมี ปลัดอาวุโสอำเภอดงหลวง ระบุว่า จากการลงพื้นที่ตามคำสั่งของนายอำเภอดงหลวง ที่มีคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบปากคำยูทูบเบอร์ ลงตรวจสอบข้อเท็จจริงบ้านลุงพล และไปนมัสการพระอาจารย์สมบัติ ในข้อเท็จจริงส่วนหนึ่งแล้ว และได้นัดแนะผู้ถูกร้องเรียนตามประเด็นที่พี่น้องร้องเรียนทั้ง 5 ประเด็น เสร็จแล้วคงได้ข้อเท็จจริง ทางศูนย์ดำรงธรรม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร จะมีการนำข้อมูลทั้งของชาวบ้านที่เดือดร้อน กลุ่มยูทูบเบอร์ที่ชี้แจงเข้าที่ประชุมของอำเภอ โดยมีคณะกรรมการร่วมพิจารณาหาแนวทาง คาดจะได้ข้อสรุปว่าจะให้ยูทูบเบอร์ออกจากพื้นที่บ้านกกกอกหรือไม่ในสัปดาห์หน้า.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ