ขับเก๋งไล่ยิงหนุ่มนั่งรถมากับแฟนสาว 9 นัด เจ็บหนัก

ปทุมธานี 20 ม.ค. – หนุ่มดักรอแฟนสาว เห็นพาชายอื่นนั่งหน้ารถมาด้วย เลือดขึ้นหน้าชักปืนไล่กระหน่ำยิงฝ่ายชาย 9 นัด บาดเจ็บสาหัส


เมื่อเวลา 14.45 น. วันนี้ (20 ม.ค.) ร.ต.อ.นิติพงษ์ มีคำ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดภายในซอยมิตรบ้านกลาง หมู่ 2 ต.สวนพริกไทย อ.เมือง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาติภัทร พิเนตรบูรณะ ผกก.สภ.สวนพริกไทย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สวนพริกไทย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ภ.จว.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 (ศพฐ.1) และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ในที่เกิดเหตุบริเวณปากซอยมิตรบ้านกลาง 2 เจ้าหน้าที่พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อ นายสุจินต์ ทับทิมศรี อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 1 ต.เขากะลา อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน จำนวน 3 นัด เข้าที่หัวไหล่ขวาทะลุหลัง ข้อมือขวาและหลังเท้าขวาทะลุ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนรีบนำตัวส่ง รพ.ปทุมธานี นอกจากนี้ บริเวณถนนหน้าปากซอยมิตรบ้านกลาง 2 พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 9 ปลอก และจากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบสถานที่เกิดเหตุ ยังพบว่ากระสุนพลาดไปถูกร้านทำท่อไอเสียรถที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ โดยหัวกระสุนปืนยิงเข้าไปในร้าน 4 นัด ถูกข้าวของภายในร้านได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน และสอบสวนเจ้าของร้านไว้เป็นพยาน


จากการสอบถามนายวุฒิ (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) อายุ 43 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเห็นรถเก๋ง 2 คัน คันแรกเป็นโตโยต้า ยาริส สีบรอนซ์ มีผู้หญิงขับถอยหลังมาจากด้านหน้าโรงแรม โดยมีผู้ชาย ซึ่งเป็นคนเจ็บ นั่งอยู่หน้ารถ และมีรถเก๋งโตโยต้า อัลติส ขับไล่ลักษณะดันหน้ารถมา หลังจากถอยมาได้ไม่ถึง 100 เมตร ผู้หญิงได้จอดรถแล้วให้ชายที่นั่งคู่มาด้วยลงจากรถ จากนั้นมือปืนที่ขับตามมาก็จอดรถ และลงมาพร้อมใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงหลายนัด จนผู้ได้รับบาดเจ็บต้องวิ่งหนีเข้าไปในป่าหญ้าข้างร้านทำท่อไอเสีย หลังจากนั้นทั้งรถผู้หญิงและรถคนร้ายก็ขับเข้าไปในซอยมิตรบ้านกลาง ซึ่งสามารถไปออกถนน 347 และถนนติวานนท์ได้ หลังเกิดเหตุตนจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาให้การช่วยเหลือ

ด้าน พ.ต.อ.ชาติภัทร พิเนตรบูรณะ ผกก.สภ.สวนพริกไทย กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง ทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังก่อเหตุ เบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากเรื่องหึงหวง อย่างไรก็ตาม จะให้พนักงานสอบสวนไปสอบปากคำผู้บาดเจ็บอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง