อุบลราชธานี 14 ม.ค. – โซเชียลแชร์ระทึก! คลิปรถกระบะลากเทรลเลอร์บรรทุกฟางแห้งมาเต็มคันเกิดไฟไหม้ที่ท้ายรถ ขณะวิ่งบนถนนวาริน-ศรีสะเกษ จ.อุบลราชธานี ชาวเน็ตรุมด่าว่าเห็นแก่ตัว ไม่ยอมจอด กลัวรถไหม้ ด้านคนขับแจงขับหนีออกมาจากชุมชนเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย เพราะเหตุเกิดหน้าโรงเรียน
นี่เป็นภาพเหตุการณ์ขณะรถกระบะพ่วงขนฟางแห้งที่ไฟกำลังลุกท่วม วิ่งยาวบนถนนหลักวาริน-ศรีสะเกษ จ.อุบลราชธานี ทำให้ฟางหล่นเกลื่อนเต็มถนน แถมฟางที่หล่นยังมีไฟลุกอยู่ตลอด คลิปนี้ถูกนำมาโพสต์ในเพจวารินชำราบบ้านเฮา หลังโพสต์นี้เผยแพร่ออกไป บรรดาชาวเน็ตต่างเข้ามารุมต่อว่าผู้ขับขี่ว่าประมาทบ้าง เห็นแก่ตัวบ้าง ที่ไม่ยอมจอด ยังรถขับต่อไป ทั้งที่ไฟยังลุกท่วมรถ ซึ่งอาจจะก่ออันตรายต่อรถคันอื่น หรือลุกลามไปยังบ้านเรือนประชาชน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. พ.ต.ท.เทิดภักดิ์ ศุภศร สารวัตรสอบสวน สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถขนฟาง หน้าโรงเรียนบ้านทางสาย บนทางหลวงหมายเลข 226 วาริน-ศรีสะเกษ เป็นทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร จึงประสานงานดับเพลิงพื้นที่ใกล้เคียงเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุด้านหน้าโรงเรียนบ้านทางสาย พบกองฟางติดไฟหล่นบนถนนเป็นทางยาว ห่างออกมาประมาณ 1 กิโลเมตร พบรถกระบะมาสด้าสีแดง หมายเลขทะเบียน บย-5408 อุบลราชธานี ท้ายพ่วงเทรลเลอร์ไม่มีทะเบียน บนเทรลเลอร์มีฟางถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน ท้ายรถกระบะถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายบางส่วน
นายชัยยงค์ ตั้งใจ อายุ 42 ปี คนขับ เล่าว่า รับฟางมาจากบ้านหนองแต้ อ.ม่วงสามสิบ จำนวน 150-180 ก้อน เพื่อไปส่งให้ลูกค้าบ้านถ่อน อ.วารินชำราบ เมื่อขับมาถึงหน้าโรงเรียนบ้านทางสาย เทรลเลอร์เกิดยางแตก จึงเปลี่ยนยางจนเสร็จเรียบร้อย กำลังออกรถได้ประมาณ 10 เมตร มีร้านขายของชำตะโกนบอกว่าไฟไหม้อยู่ท้ายรถ จึงลงไปดูพบว่าไฟกำลังโหม จึงตัดสินใจขับออกจากจุดเกิดเหตุ เนื่องจากอยู่หน้าโรงเรียน เกรงว่าหากลุกลามเข้าโรงเรียนจะทำให้เสียหายหนักกว่าเดิม ขับมาเจอบ่อน้ำแต่ก็อยู่หน้าปั๊มน้ำมัน จึงขับออกมาอีกจนเป็นที่โล่งกำลังก่อสร้าง ตนคิดว่าอย่างน้อยก็มีน้ำที่จะดับไฟ จึงจอดห่างออกมาจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งไม่ได้คิดว่าฟางจะหล่นตามถนนเยอะ เนื่องเหตุการณ์กะทันหันไม่ทันตั้งตัว คิดเพียงแค่ไม่อยากให้ไฟลุกลามในชุมชนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหานายชัยยงค์ โดยจะเรียกมาสอบสวนถึงสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งว่าเกิดจากความประมาทหรือไม่ เบื้องต้นไม่พบผู้บาดเจ็บหรือมีทรัพย์สินของบุคคลอื่นเสียหาย
ส่วนที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดเพลิงไหม้รถพ่วงบรรทุกใบอ้อยอัดก้อน บนถนนบายพาสบ้านด่าน-อรัญประเทศ รถดับเพลิงตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 รถดับเพลิงเทศบาลบ้านใหม่หนองไทร และรถดับเพลิงเทศบาลป่าไร่ รวม 5 คัน ช่วยระดมฉีดน้ำใส่เพลิงที่กำลังลุกไหม้รถบรรทุกพ่วง ฮีโน่ สีขาว ทะเบียนหัวลาก 85-7819 สุพรรณบุรี ทะเบียนลูกพ่วง 86-7820 สุพรรณบุรี โดยเพลิงลุกไหม้ที่ตัวพ่วง มีใบอ้อยอัดก้อนทับซ้อนกันสูงกว่า 5 เมตร อย่างรวดเร็ว ใช้เวลากว่า 1 ชม. จึงควบคุมเพลิงไว้ได้
นายพนม เสงี่ยมแสง อายุ 34 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วง เล่าว่า ขับรถออกมาจากหน้าวัดเหล่าอ้อย ต.หนองสังข์ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จะไปส่งโรงงานที่บ้านห้วยโจด อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุมีรถยนต์ชี้ไปที่ท้ายรถ จึงชะลอความเร็วและหันไปดู พบมีควันไฟโหมขึ้น จึงจอดรถ ถอดหัวลากออกจากลูกพ่วง ออกไปจอดห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร และโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ เข้าตรวจสอบ เบื้องต้นคาดสาเหตุเกิดจากใบอ้อยที่อัดเป็นก้อนเรียงทับกันหลายชั้นจนทำให้เกิดความร้อนและประกายไฟขึ้น หรืออาจเป็นการขับรถเกี่ยวกับสายไฟฟ้า เนื่องจากถนนเส้นดังกล่าวอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม ต้องให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานสระแก้วดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง เพื่อได้ดำเนินตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย