นครพนม 8 ม.ค.- ที่อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เกษตรกรที่ผปลูกกะหล่ำบริเวณเเถวนั้นต่างดีใจ เนื่องจากปีนี้อากาศหนาว ทำให้กะหล่ำปลีปลอดสารของชาวบ้านได้ผลผลิตดี สร้างรายได้ไร่ละเกือบเเสนบาท
นี่เป็นภาพแปลงกะหล่ำที่เกษตรกรปลูกอยู่ริมแม่น้ำโขงในพื้นที่อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม จะเห็นว่าเริ่มโตใบใหญ่พร้อมที่จะเก็บเกี่ยวได้แล้ว เนื่องจากช่วงนี้สภาพอากาศยังคงหนาวเย็นต่อเนื่อง มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดที่ประมาณ 10 -12 องศาเซลเซียส ทำให้กะหล่ำปลีปลอดสารพิษของเกษตรกร โตเร็ว ใช้ระยะเวลาปลูกสั้น ประมาณ 3-4 เดือน สามารถเก็บผลผลิตขายสร้างรายได้สู้ภัยโควิด ถึงแม้จะราคาไม่สูงเฉลี่ยกิโลกรัมละ 8 -10 บาท แต่สภาพอากาศเช่นนี้ทำให้โตเร็ว สามารถทำเงินได้ไร่ละเกือบแสนบาท
พื้นที่แปลงเกษตรกะหล่ำปลีของชาวบ้าน ไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่เกษตรสร้างรายได้ ยังกลายเป็นที่สนใจของประชาชน นักท่องเที่ยว แห่เดินทางมาเช็กอิน ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก เที่ยวชมความสวยงามของแปลงกะหล่ำปลีริมฝั่งแม่น้ำโขงที่มีความสวยงาม กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยทาง อบต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม มีการพัฒนาจัดทำจุดเช็กอินถ่ายภาพ เพื่อสนับสนุนส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรอีกด้วย
นายทองเลิศ เอมโอษฐ์ อายุ 70 ปี เกษตรบ้านบึงหล่ม หมู่ 6 ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม บอกว่าปกติช่วงน้ำโขงลดฤดูแล้งทุกปีจะทำการเกษตรปลูกพืชผักเศรษฐกิจหลายชนิดส่งขาย อาทิ ผักสลัด คะน้า ต้นหอม รวมถึงกะหล่ำปลี เพราะพื้นที่ริมโขงหลังน้ำลดเป็นดินตะกอน ทำให้เอื้อต่อการทำการเกษตร ดูแลไม่ยาก มีน้ำเพียงพอใช้น้ำจากน้ำโขง และเป็นเกษตรปลอดสารพิษ ยิ่งในปีนี้กะหล่ำปลี ถือว่าได้ผลผลิตดี ยิ่งช่วงอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง ทำให้โตเร็ว ใช้เวลาแค่ 3-4 เดือน ไม่ต้องดูแลนานสามารถเก็บขายได้เร็ว ปีนี้ถึงแม้จะเจอปัญหาโควิดระบาดแต่สำหรับอาชีพการเกษตร ยังสามารถขายได้ ราคาถือว่าดีกิโลกรัมละประมาณ 8 -10 บาท มีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงสวน บางรายเฉลี่ยขายได้ไร่ละเกือบแสน ถือว่าสร้างรายได้พอสมควร.-สำนักข่าวไทย