นราธิวาส 6 พ.ย.-ผู้ว่าฯ นราธิวาส เป็นผู้แทนพระองค์ ในพิธีปิดการฝึกโครงการพระราชทานโคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง เรือนจำจังหวัดนราธิวาส กรมราชทัณฑ์
วันนี้ (6 พ.ย. 63) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นผู้แทนพระองค์ ไปมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้รับการฝึกอบรมโครงการพระราชทานโคก หนอง นา แห่งน้ำใจ และความหวัง กรมราชทัณฑ์ ณ เรือนจำจังหวัดนราธิวาส โดยมีนายพัศพงศ์ ใจคล่องแคล่ว ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนราธิวาส นางดวงจันทร์ ทองขาว ยุติธรรมจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่สังกัดกรมราชทัณฑ์ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
ในการนี้ ผู้แทนพระองค์ มอบประกาศนียบัตรแก่ผู้เข้ารับผู้รับการฝึกอบรม ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ จำนวน 25 คน และผู้ต้องขังจำนวน 97 คน จากนั้นผู้รับการฝึกอบรมกล่าวคำปฏิญาณ และผู้แทนพระองค์ กล่าวปิดโครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โคก หนอง นา แห่งน้ำใจ และความหวัง กรมราชทัณฑ์ ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานให้มีการฝึกโครงการพระราชทานโคก หนอง นา แห่งน้ำใจ และความหวัง เรือนจำจังหวัดนราธิวาส รุ่นที่ 4 กรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นการประยุกต์ใช้ทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา เพื่อสร้างต้นแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็กโดยสามารถดำเนินการได้ในทุกเงื่อนไขของพื้นที่ และมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพื้นฐานความคิด การฝึกวินัย การลงมือปฏิบัติ ตลอดจนการแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อนได้เมื่อพ้นโทษออกไปภายนอก
ทั้งนี้ การฝึกโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง เรือนจำจังหวัดนราธิวาส รุ่นที่ 4 กรมราชทัณฑ์ มีผู้เข้ารับการฝึกเป็นผู้ต้องขังที่เป็นคนไทย 96 คน ชาวต่างชาติ 1 คน รวมทั้งสิ้น 97 คน โดยปฏิบัติการฝึกอบรมเป็นเวลา 14 วัน ระหว่างวันที่ 23 ตุลาคมถึง 5 พฤศจิกายน 2563 แบ่งการฝึกเป็น 3 ขั้นตอน คือขั้นตอนที่ 1 การอบรมพึ่งตนด้วยทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง ขั้นที่ 2 การแปลงทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ และขั้นที่ 3 การสรุปและประเมินผล
จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ผู้เข้าร่วมโครงการพระราชทานโคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง เรือนจำจังหวัดนราธิวาส รุ่นที่ 4 สามารถพึ่งพาตนเองตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ ทั้งสามารถช่วยเหลือประชาชนทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมได้ หลังจากนี้ผู้ต้องขังที่จะได้รับการพ้นโทษในโอกาสต่อไป จะต้องไปดำเนินการในพื้นที่ตามภูมิลำเนาของตนเอง เป็นการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ด้วยการถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และช่วยกันพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป.-สำนักข่าวไทย