กรมควบคุมมลพิษ ตรวจวัดค่าปริมาณก๊าซเอ็นจีวีรั่วและเกิดระเบิดในซอยโรงเรียนเปร็งวิสุทธาธิบดี มีค่าเท่ากับ 0 แต่ยังต้องเฝ้าระวังอันตรายจากมลพิษ
นายอาวีระ ภัคมาตร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี) และนายชายชาญ เตโชทินกร ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบกรณีเหตุระเบิดท่อส่งก๊าซเอ็นจีวี ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ส่งมาจากแหลมฉบัง เกิดการระเบิดขึ้นบริเวณนิคมอุตสาหกรรมเอเชียสุวรรณภูมิ ภายในซอยโรงเรียนเปร็งวิสุทธาธิบดี ใกล้กับสถานีตำรวจภูธรเปร็ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ จากการระเบิดส่งผลให้ก๊าซเอ็นจีวีฟุ้งกระจายสู่บรรยากาศและเกิดการติดไฟระเบิดขึ้นในรัศมี ประมาณ 300 เมตร เบื้องต้นประเมินความเสียหายมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต อาคารบ้านเรือนและยานพาหนะรับความเสียหายจำนวนมาก รวมทั้งสถานีตำรวจภูธรเปร็งและโรงเรียนเปร็งวิสุทธาธิบดีบางส่วนได้รับความเสียหาย มีการเผาไหม้เศษหญ้า อาคาร ยานพาหนะต่างๆ แม้จะควบคุมเปลวไฟได้แล้วแต่ยังมีควันจากการเผาไหม้หลงเหลือ
ทั้งนี้จากการตรวจวัดค่าปริมาณก๊าซด้วยอุปกรณ์ภาคสนามแบบพกพาพบมีค่า Lower Explosive Limit (LEL) คือ ปริมาณเปอร์เซ็นต์ต่ำสุดของสารไวไฟบริเวณที่มีอันตรายน้อยลง ใกล้กับบริเวณอันตรายมีค่าเท่ากับ 0 ซึ่งบริเวณอันตราย บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ดำเนินการจัดส่งโดรนเข้าวัดในพื้นเพื่อเฝ้าระวังเป็นระยะ
ขณะที่การตรวจวัดค่า LEL บริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งบริเวณสถานีตำรวจภูธรตำรวจเปร็ง มีค่า LEL เท่ากับ 0 ,บริเวณร้าน 7-11 มีค่า LEL เท่ากับ 0 เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในบริเวณอันตราย พร้อมให้ผู้เกี่ยวข้องแจ้งเตือนประชาชนในป้องกันตนเองจากควันและมลพิษทางอากาศที่อาจเกิดขึ้น