“ไทย-เมียนมา-ลาว” ยกระดับเแก้หมอกควันข้ามแดน

กรุงเทพฯ​ 25 ก.พ.​ – อธิบดี​ คพ. เผย ประชุมร่วม​ 3 ฝ่าย​ “ไทย​ -​ ลาว​ -​ เมียนมา” เห็นชอบ​ตั้งคณะทำงานร่วมกันเพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามยุทธยุทธศาสตร์ฟ้าใส​ ยกระดับ​การ​แก้ไข​ปัญหาหมอก​ควัน​ข้ามแดน


นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ​ (คพ.) กล่าวว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษ ประสานสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (เมียนมา) และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพื่อหารือแก้ไขปัญหาจุดความร้อนและหมอกควันข้ามแดน​ สาเหตุ​จากสถานการณ์หมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองในจังหวัดภาคเหนือตอนบนเริ่มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมแสดงถึงจุดความร้อนที่เกิดจากการเผาทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ

ก่อนหน้า​นี้​เมื่อ​วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหา PM2.5 ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งได้กำชับให้เร่งแก้ไขปัญหาไฟป่า และควบคุมจุดความร้อนอย่างเร่งด่วน ล่าสุด​ประชุมทางไกลร่วมกับ Dr. San Oo รองอธิบดีกรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งเมียนมา Mr.Lienxay Bounmavivanh อธิบดีสถาบันค้นคว้าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แห่ง สปป.ลาว ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศของประเทศไทย และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเมียนมาและลาวแจ้งมาตรการที่จะใช้ในการดำเนินงาน ได้แก่ เพิ่มความเข้มงวดบังคับใช้กฎหมาย สร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน รณรงค์สร้างการมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า และการเผาในที่โล่ง เพิ่มจุดลาดตระเวนและเฝ้าระวังไฟป่า


ทั้งนี้ จำนวนจุดร้อนของเมียนมาในปี 2568 มีจำนวนลดลงจากปี 2567 ในขณะที่ไทยและ สปป.ลาว มีจำนวนจุดความร้อนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีที่แล้ว ทั้ง 3 ประเทศจะยกระดับการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาการเกิดไฟในป่า และในพื้นที่เกษตร และจัดการหมอกควันข้ามแดนที่เกิดขึ้น

ที่ประชุมยังได้หารือผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน ภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใส (พ.ศ. 2567 – 2573) ได้​แก่​ การควบคุมและดับไฟจากการเผา การคาดการณ์และติดตามตรวจสอบสถานการณ์หมอกควัน การจัดการเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน การจัดการปัญหาหมอกควันข้ามแดนตามกฎหมายแต่ละประเทศ การจัดให้มีสายด่วน Hotline ระดับอธิบดีกรมควบคุมมลพิษของไทย เมียนมา และ สปป.​ ลาว เพื่อให้การติดต่อประสานงานแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนได้อย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์

ในการประชุมครั้งนี้ ทั้ง 3 ประเทศ ได้ตกลงที่จะให้มีคณะทำงานร่วมกันเพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน ภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใส (พ.ศ. 2567 – 2573) และประเทศไทยจะจัดให้มีการหารือครั้งต่อไปภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า.​ -512​ -​ สำนักข่าว​ไทย​


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ