ฉะเชิงเทรา 29 ก.ย. – ตำรวจฉะเชิงเทราเร่งไล่ล่าเท้าแชร์ “กลุ่มบ้านแบงค์” ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย และบังคับให้สมาชิกที่เล่นแชร์ไปขายบริการมาส่งค่างวด หลังมีผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความ
ความคืบหน้ากรณีนายศราวุธ นนทสุวรรณ์ พา น.ส.รังสิมา นนทสุวรรณ์ ลูกสาววัย 19 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา หลังลูกสาวถูกนายภาคิน ขัติแปง หรือ แบงค์ เท้าแชร์ บังคับข่มขู่ให้ไปขายบริการ เพื่อนำเงินมาจ่ายค่าแชร์ที่เล่นไว้ ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกสาวต้องหนีไปอยู่ต่างจังหวัด เพราะกลัวนายภาคินจะพาพวกมาทำร้าย หลังมีการปล่อยคลิปทำร้ายลูกแชร์ที่เบี้ยวเงิน
น.ส.รังสิมา เปิดเผยว่า รู้จักกับนายแบงค์ ทางอินเทอร์เน็ต ก่อนจะถูกชักชวนให้เข้าไปเล่นแชร์บ้านแบงค์ ตนตัดสินใจเล่นแชร์วงละ 6,000 บาท ก่อนจะแข่งขันเปียดอกแชร์กับคนอื่น จำนวน 3,500 บาท ซึ่งตนได้เงินสดกลับมาเพียง 2,500 บาท และจะต้องทำการส่งทุกๆ 5 วัน ครั้งละ 750 บาท เมื่อส่งมาสักพัก เกินเงินสดที่ได้มา ก็เริ่มส่งไม่ไหว จึงหยุดส่ง จากนั้นก็ถูกปรับดอกเบี้ย ชั่วโมงละ 50 บาท หากเกินเที่ยงคืนของวันที่ส่ง จะถูกปรับวันละ 500 บาท ทำให้ต้องเป็นหนี้รวมกว่า 10,000 บาท
หลังตนไม่มีเงินส่ง นายแบงค์พยายามข่มขู่ด้วยวิธีต่างๆ เช่น ปล่อยคลิปทำร้ายเด็กผู้หญิงที่เล่นแชร์ในกลุ่มบ้านแบงค์แล้วไม่ยอมจ่ายค่างวดแชร์ ทำให้ตนกลัว ก่อนที่นายแบงค์จะโทรมาหา และให้ออกมาเคลียร์นอกบ้าน ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ของพ่อออกไปหา ก่อนที่นายแบงค์จะให้จ่ายดอกเป็นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ด้วยความกลัวจึงมอบให้ไป และเมื่อพ่อทราบเรื่อง ก็ได้ติดต่อนายแบงค์ เพื่อขอไถ่รถคืน หลังจากนั้นก็ยังถูกนายแบงค์ส่งข้อความมาข่มขู่ตลอด ถึงขั้นบังคับให้ไปขายบริการทางเพศ เพื่อนำเงินมาจ่ายค่างวดแชร์ หากตนไม่ทำก็จะส่งคนมาทำร้าย ตนจึงหนีไปอยู่บ้านญาติที่ชลบุรี ก่อนจะปรึกษาพ่อ ขอกลับมาฉะเชิงเทรา เพื่อแจ้งความดำเนินคดี และในวันดังกล่าวยังมีผู้ปกครองที่โดนกระทำในลักษณะเดียวกัน เดินทางเข้ามาแจ้งความเพิ่มอีก
ล่าสุด น.ส.สรัส ศิริรงลอง พาบุตรชาย คือ นายสวิส ศิริรงลอง อายุ 19 ปี และ น.ส.รังสิมา นนทสุวรรณ์ อายุ 19 ปี เข้าให้ปากคำเพิ่ม ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา โดยนายสวิส เปิดเผยคลิปทำร้ายที่ปรากฏในกลุ่มไลน์บ้านแชร์แบงค์ เป็นคลิปที่เกิดขึ้นจริง ก่อนจะมีการลบไป ซึ่งตนก็โดนข่มขู่มาโดยตลอด หากไม่จ่ายเงินค่าแชร์ ก็จะถูกศาลเตี้ยเหมือนในคลิป โดยในกลุ่มไลน์บ้านแชร์แบงค์ มีเยาวชนและเด็กๆ เข้าไปเล่นแชร์ในกลุ่มนี้มากกว่า 50 คน ทุกคนต่างได้เห็นคลิปดังกล่าวเหมือนกันหมด ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด เพื่อรวบรวมหลักฐานเอาผิดกับนายแบงค์ เท้าแชร์ ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งติดตามตัว แต่ยังไม่พบ. – สำนักข่าวไทย
