ราชบุรี 15 ก.ย.-พาไปร้านขายลูกชิ้นปิ้งของน้องริว วัย 15 ปี ที่เป็นกระแสข่าวโด่งดังว่าขายลูกชิ้นปิ้งซื้อรองเท้า ซึ่งทุกวันหลังเลิกเรียน น้องริวจะมาตั้งร้านอยู่บริเวณริมถนนหอนาฬิกา เขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อหารายได้เป็นทุนการศึกษาและช่วยลดภาระครอบครัว
นายกิตติธัช วันกุมภา หรือ น้องริว อายุ 15 ปี ชาวอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จะออกมาตั้งร้านจำหน่ายลูกชิ้นปิ้งชื่อ “ตี๋น้อย โอตือ” ตั้งอยู่ริมถนนหอนาฬิกา เขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง ปัจจุบันน้องริว เรียนอยู่ระดับชั้น ม.4 โรงเรียนสารสิทธิ์พิทยาลัย ครอบครัวน้องริวมีอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู “โอตือ” ที่พ่อคิดค้นสูตรและผลิตขึ้นเองในบ้าน ที่ผ่านมาใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นทั่วไป ที่อยากมีอยากได้เหมือนคนอื่นๆ กระทั่งต้นปีที่ผ่านมา รู้สึกถูกใจกับรองเท้ากีฬายี่ห้อดังคู่หนึ่ง ราคาสูงถึงหลักหมื่นบาท จึงขอเงินพ่อ แต่พ่อไม่ให้ แต่ก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้ซื้อ พร้อมกับแนะนำแนวทางการดำเนินชีวิตอย่างรู้คุณค่า ด้วยการให้ใช้เวลาหลังเลิกเรียน นำลูกชิ้นหมูของครอบครัวไปต่อยอดเพิ่มมูลค่า โดยมีข้อแม้ว่าต้องลงทุนซื้อวัตถุดิบและลงมือขายเองทั้งหมด ตนจึงตัดสินใจเปิดร้านเล็กๆ นำลูกชิ้นมาปิ้งขาย เพื่อนำเงินรายได้ไปซื้อรองเท้าที่อยากได้
จากวันนั้นได้ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและกิจวัตรประจำวันไปจากเดิมตื่นนอน 7 โมง เปลี่ยนมาตื่น 6 โมง เพื่อจัดเตรียมวัตถุดิบทั้งการเสียบไม้ลูกชิ้น และทำน้ำจิ้ม ตลอดจนการล้างผักเครื่องเคียงให้เสร็จก่อน แล้วจึงไปโรงเรียน ในส่วนของการเรียนก็พยายามทำการบ้านอ่านหนังสือทบทวนในช่วงเวลาว่างระหว่างวัน เพราะหลังเลิกเรียนต้องไปขายลูกชิ้นปิ้งถึง 2 ทุ่ม ซึ่งในแต่ละวันตนจะขายลูกชิ้น 6 กิโลกรัม หรือคิดเป็นจำนวน 250 กว่าไม้ สำหรับลูกชิ้นหมูที่ผลิตขึ้นเอง คุณพ่อจะใช้เนื้อหมูส่วนสะโพก นำมาแร่เอาไขมันออกจนเหลือแต่เนื้อแดง เข้ากระบวนการบดและทำเป็นลูกชิ้นตามสูตร ก็จะได้ลูกชิ้นที่มีความเหนียวหนึบ เมื่อนำมาปิ้งไฟอ่อนๆ ผิวด้านนอกของลูกชิ้นจะแห้งเกรียมเล็กน้อย พอนำมารับประทานจะได้รสสัมผัสหอม กรอบ ตัดกับรสชาติจัดจ้านของน้ำจิ้ม ทำให้ลูกชิ้นอร่อยลงตัว
ที่ผ่านมาด้วยเป็นคนเรียนไม่เก่ง จึงไม่เคยคิดฝันว่าในอนาคตว่าอยากจะเป็นหรือทำอาชีพอะไร แต่จากประสบการณ์ครั้งนี้ นอกจากจะสอนให้ตนรู้คุณค่าของเงินแล้ว ยังทำให้มีมุมมอง ความคิด และเป้าหมายในการดำเนินชีวิตใหม่ จากนี้ตั้งใจจะเลือกเรียนสาขาการตลาด มาต่อยอดพัฒนากิจการของครอบครัว ด้วยการเข้าไปลงมือช่วยพ่อผลิตลูกชิ้นและคิดค้นสูตรใหม่ๆ ให้ได้ปริมาณเพิ่มขึ้น เพื่อจะจำหน่ายได้แบบค้าส่ง และต่อยอดเป็นเฟรนไชน์ “ตี๋น้อย โอตือ”
ผ่านมาแล้ว 6 เดือน มีเงินเก็บหลายหมื่นบาท มากเกินพอที่จะซื้อรองเท้าในฝัน แต่เมื่อย้อนกลับไปมองถึงแรงกายแรงใจที่ทุ่มเททำงานเก็บเงิน ทำให้ความคิดเปลี่ยนไป ไม่คิดซื้อรองเท้าคู่นั้นแล้ว กลับไปซื้อรองเท้ากีฬาทั่วไปๆ ใส่ ซึ่งใส่ได้ดูดีเหมือนกัน และยังมีเงินเก็บไปต่อยอดอนาคตอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย