อุดรธานี 9 ก.ย.-ตำรวจอุดรธานี คุมตัว “เพ็ง ดงใหญ่” ขอขมาวิญญาณชายวัย 67 หลังก่อเหตุยิงเสียชีวิต อ้างโมโหจนหน้ามืด เพราะผู้ตายมายืนทวงหนี้หลานสาว และด่าทอขู่เอาชีวิตหลายครั้ง
ตำรวจสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี และตำรวจสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเรณูนคร จังหวัดนครพนม เข้าจับกุม นายพนมสิน ม่านชนิด หรือเพ็ง ดงใหญ่ อายุ 63 ปี ได้ที่บ้านทุ่งนาท้ายหมู่บ้านโนสาวเอ้ ตำบลเรณู อำเภอเรณูนคร โดยนายพนมสิน เป็นผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธปืนยิงนายประสาน ทิพย์ภูมิ อายุ 67 ปี เสียชีวิตที่หน้าบ้านเลขที่ 215/1 หมู่ 17 บ้านนาคำหลวง ตำบลนาข่า อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา การเข้าจับกุมครั้งนี้ ได้หลักฐานอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์เบอร์ 12 ที่ใช้ก่อเหตุ และรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่ใช้หลบหนี ซึ่งยืมเพื่อนมา
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้ซักถามนายพนมสิน ถึงปมสาเหตุการยิงนายประสาน รับสารภาพว่า เนื่องจากโมโหจนหน้ามืด เพราะเจ็บแค้นแทนหลานสาวที่ถูกผู้ตายมายืนทวงหนี้ และด่าทอขู่เอาชีวิตบริเวณหน้าบ้านของหลานสาวมาแล้วสองครั้ง กระทั่งครั้งที่สาม ในขณะตนเองกำลังขนกระสอบข้าวเปลือกไปเก็บไว้ที่หลังบ้าน สุดทนกับคำด่าทอ จึงใช้อาวุธปืนที่อ้างว่าเก็บได้ที่บริเวณทุ่งนา ยิงผู้ตาย เพราะอยากให้ผู้ตายหยุดด่าหลานสาว และบุพการีของตนเอง รวมทั้งกล่าวหาว่าตนมาเกาะชายกระโปรงผู้หญิงกิน ทั้งที่ตนเองและหลานสาวเป็นญาติกัน ส่วนที่ต้องหลบหนี เพราะอยากไปบอกลาพ่อแม่เป็นครั้งสุดท้าย เพราะรู้ว่ายังไงก็ต้องถูกจับกุม และกำลังจะเดินทางกลับมามอบตัว และที่ใช้อาวุธปืนได้อย่างชำนาญ เนื่องจากเคยเป็นอาสาสมัครทหารพราน และเคยออกรบในสมรภูมช่องเม็ก เขาตะโก มาแล้ว
ต่อมาตำรวจได้ควบคุมตัว นายพนมสิน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และจุดธูปบอกกล่าวดวงวิญญาณผู้ตาย เพื่อขออโหสิกรรม ตรงจุดที่ผู้ตายล้มลงเสียชีวิต โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวมายืนดูประมาณ 20 คน ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง หรือด่าทอผู้ต้องหาแต่อย่างใด
ผู้บังคับการตำรวจภูธรอุดรธานี บอกว่า นายพนมสิน ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลั่นไกสังหารผู้เสียชีวิต ตำรวจจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก 2 ข้อหา คือ “พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะ ในตัวเมือง หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร และครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน”.-สำนักข่าวไทย