แรงงานเมียนมาลักลอบเข้าไทยจ่ายเงินนายหน้า

ตาก 31 ส.ค. – แม่สอดตรึงกำลังสองชั้นริมแนวชายแดนไทย-เมียนมา หลังพบแรงงานเมียนมาลักลอบข้ามแม่น้ำเมยหนีตายมาหางานในประเทศไทยโดยผ่านนายหน้า ล่าสุดสกัดจับได้ 8 รายโดยมีไข้สูง 1 ราย


ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา นายธวัชชัย อ่อนสาร ปลัดป้องกันอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก นำกำลังชุดเคลื่อนที่เร็วกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอดที่ 3 จ.ตาก พร้อมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านริมเมย หมู่ที่ 2 ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ร่วมกันวางกำลังบริเวณแนวตะเข็บชายแดนใกล้กับสะพานมิตรภาพไทย-พม่าแห่งที่ 1 และมีการนำกำลังซุ่มสังเกตการณ์ในจุดล่อแหลมท่าข้ามธรรมชาติจากนั้นพบคนต่างด้าวหลายคนกำลังว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเมย มาจากฝั่งจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ข้ามมาขึ้นฝั่งที่ริ่มตลิ่งฝั่งอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด สามารถสกัดจับกุมตัวทั้งหมดได้จำนวน 8 ราย จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบเป็นคนสัญชาติเมียนมา เจ้าหน้าที่ต้องนำเป็นตรวจวัดไข้ และผลพบว่ามีแรงงานหญิงหนึ่งรายมีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส เจ้าหน้าที่ต้องประสานทีมแพทย์ฉุกเฉินมารับตัวหญิงรายดังกล่าวพร้อมแรงงานทั้งหมดที่ถูกจับกุมได้ รีบนำตัวไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลแม่สอดอย่างเร่งด่วน ซึ่งหลังการตรวจอย่างละเอียดนานหลายชั่วโมงพบแรงงานทั้ง 8 รายที่ถูกจับกุมตัวไม่พบเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งไปดำเนินคดีและเร่งส่งตัวกลับประเทศต้นทาง

จากการสอบถามนาย ซอ ฮู ไต อายุ 23 ปี หนึ่งในกลุ่มแรงงานที่ลักลอบข้ามแนวชายแดนมาอำเภอแม่สอดเล่าว่า ตนเองได้เดินทางมาจากหมู่บ้านในเขตเจดีย์สามองศ์ ประเทศเมียนมา เดินทางโดยมีนายหน้านำพามาส่งที่จังหวัดเมียวดี จากนั้นตนเองพร้อมพวกได้ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเมยมาขึ้นฝั่งในอำเภอแม่สอด และจะมีกลุ่มนายหน้าคนไทยไม่ทราบชื่อมารับตัวขึ้นรถยนต์เดินทางไปส่งที่กรุงเทพ โดยต้องจ่ายค่านายหน้ารวมแล้ว 16,000 บาท ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตนเองและเพื่อแรงงานคนอื่นๆ ต้องลักลอบข้ามชายแดนมาในประเทศไทย ก็เนื่องจากพวกตนกำลังอดตาย เพราะไม่มีงานทำเลยมีเพื่อนชักชวนให้ลักลอบข้ามมาทำงานในประเทศไทยแต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอดจับกุมได้เสียก่อน


ล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ทหาร ตำรวจ ในเขตพื้นที่แนวชายแดนส่วนหน้าอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ต้องสนธิกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบออกตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตลอดจนจัดชุดเดินเท้าออกตรวจลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนไทย-เมียนมา หลังพบว่าขณะนี้มีกลุ่มแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเตรียมการลักลอบข้ามแนวชายแดนมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ผ่านจุดคัดกรอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังตรึงกำลังไว้ทุกจุดตลอด 24 ชั่วโมง .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง