พ่อนำวงจรปิดแจ้งความลูกชายถูกกลุ่มวัยรุ่นถือปืนหาเรื่อง

ขอนแก่น 28 ส.ค. – พ่อนำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดแจ้งความกับตำรวจ หลังมีกลุ่มวัยรุ่นชายถือปืนมาหาเรื่องลูกชายที่หน้าร้านสะดวกซื้อ แล้วรุมทำร้ายร่างกาย วอนตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี


กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่น 6 คน ขับรถยนต์กระบะแต่งซิ่งสีขาวไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และรถยนต์เก๋งสีดำ มาดักหน้าและประกบข้างรถจักรยานยนต์ของนายพิชิตชัย เพียชิน อายุ 20 ปี ซึ่งขับรถจักรยานยนต์มากับเพื่อน 2 คัน โดยชายวัยรุ่นเสื้อสีแดงเปิดประตูลงมาจากรถเก๋งซึ่งจอดประกบข้าง พร้อมทั้งถืออาวุธปืนสั้นไม่ทราบขนาดและรุ่นลงมาล็อกคอ นายพิชิตชัยลักษณะเหมือนหาเรื่อง ก่อนที่วัยรุ่นคนอื่นๆ จะเข้ามารุมทำร้ายบริเวณหน้าประตูทางเข้าร้านสะดวกซื้อ ซึ่งมีชายวัยรุ่นอีกคนสวมเสื้อสีขาว ถือไม้เข้ามารุมทำร้ายด้วย ก่อนที่นายพิชิตชัยจะดิ้นจนหลุดแล้ววิ่งเข้ามาในร้าน ทำให้กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุไม่กล้าตามเข้าไป จากนั้นขึ้นรถกระบะสีขาวและรถเก๋งสีดำขับออกไปอย่างรวดเร็ว

หลังเกิดเหตุ นายภูวิศิษ เพียชิน อายุ 44 ปี พ่อของนายพิชิตชัย เพียชิน อายุ 20 ปี นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง หลังมหาวิทยาลัยขอนแก่น เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ย่อยมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อให้ตำรวจช่วยติดตามคู่กรณีเข้ามารุมทำร้ายนายพิชิตชัย ซึ่งก่อนจะเดินทางไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ เพื่อประกอบสำนวนการสืบสวนสอบสวนในคดีดังกล่าว


นายภูวิศิษ พ่อของนายพิชิตชัย ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการถูกรุมทำร้าย บอกว่าวันนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ย่อยมหาวิทยาลัยขอนแก่น เนื่องจากกลุ่มคู่กรณีไม่เคยรู้จักกันมาก่อน กว่า 6 คน มารุมลูกชายและเพื่อน 3 คน โดยที่ไม่รู้เลยว่าลูกชายนั้นทำอะไรให้ไม่พอใจ พร้อมทั้งถูกล็อกคอและใช้อาวุธไม่ทราบชนิดจี้เข้าที่ขมับ และรีบเอาปืนลง เพราะกลัวคนเห็น ก่อนลูกชายจะดิ้นหลุดมา และเข้าไปภายในร้านสะดวกซื้อ กล่าวต่ออีกว่าก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาทำร้ายลูกชายตน พร้อมกับดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า เบื้องต้นประสานทางชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านค้าสะดวกซื้อ และวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียงตามเส้นทางต่างๆ เพื่อหาตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ระดมทีมค้นหาสุดกำลัง ช่วยผู้ที่ติดค้างใต้ซากตึกถล่ม

ระดมทีมค้นหาสุดกำลัง ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างใต้ซากอาคาร สตง. ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว ทุกภาคส่วนยังทำงานแข่งกับเวลาและสภาพอากาศที่ร้อนจัด ล่าสุดมีรายงานพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 4 ราย

“อนุทิน” เซ็นตั้ง คกก.สอบอาคาร สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว

“อนุทิน” เซ็นตั้ง คกก.สอบ หลังตึก สตง.ถล่มจากเหตุแผ่นดิน​ไหว​เพียงตึกเดียว​ คาดรู้ผลใน 7 วัน ยันไล่บี้ตั้งแต่แบบอาคารและการก่อสร้าง ชี้ทั้งบริษัทไทย-จีน​ ต้องรับผิดชอบเต็มร้อย ​ขณะทูตจีนพาผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวพบ

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหาย 18 จังหวัด

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหายเพิ่มขึ้นเป็น 18 จังหวัด เฉพาะกรุงเทพฯ เสียชีวิต 9 ราย สูญหาย 79 ราย ยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากอาคารถล่ม ขณะที่กรมบัญชีกลางขยายวงเงินทดรองราชการเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 200 ล้านบาท

ยังไม่หมดหวัง กทม. เดินหน้าเต็มที่กู้ชีพตึกถล่ม

ยังไม่หมดหวัง กทม. เดินหน้าเต็มที่กู้ชีพตึกถล่มจตุจักร เข้าสู่ 48 ชม. นานาชาติร่วมส่งเครื่องมือช่วยเหลือ พร้อมเร่งจัดการจราจรให้ทันวันพรุ่งนี้