พช.ผนึก 7 พลังภาคี “Kick off โคก หนอง นา โมเดล”

อุดรธานี 27 ส.ค.- กรมการพัฒนาชุมชนผนึกพลัง 7 ภาคี “Kick off โคก หนอง นา โมเดล” น้อมนำหลักทฤษฎีใหม่ รัชกาลที่ 9 มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนให้เข้มแข็ง “อธิบดี พช.” ปลื้มความสำเร็จพัฒนาศูนย์เรียนรู้ต้นแบบ 33 แห่ง สร้างผู้นำต้นแบบ 1,500 คน นำทัพขับเคลื่อนการพัฒนาทั่วประเทศ เสริมแกร่งชุมชนฐานรากพร้อมเผชิญสู้ในทุกวิกฤติ


วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม 2563 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการขับเคลื่อนพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ประยุกต์สู่โคก หนอง นา โมเดล กิจกรรม ฝึกปฏิบัติการเชื่อมโยงเครือข่าย ในพื้นที่ทั้ง 7 ภาคี การบูรณาการการทำงานแบบมีส่วนร่วมในรูปแบบการช่วยเหลือกันและกันผ่านกิจกรรมเอามื้อสามัคคี ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี โดยมี ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน พันเอก ธนาวีร์ วิชาชัย เสนาธิการมณฑลทหารบก ที่ 24 นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ผู้แทน 7 ภาคี และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมกิจกรรม ฝึกปฏิบัติโดยการบูรณาการการทำงานแบบมีส่วนร่วม ในรูปแบบการช่วยเหลือ กันและกันผ่านกิจกรรมเอามื้อสามัคคี ลงแขกปักดำนา “นาข้าวอินทรีย์ วิถีไทย คนรักษ์แม่โพสพ” เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การน้อมนำหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์สู่การปฏิบัติ ในรูปแบบ “โคก หนอง นา” ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ตลอดทั้งภาคีเครือข่าย กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดอุดรธานี พัฒนาการจังหวัดในเขตพื้นที่บริการของศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน จำนวน 8 จังหวัด เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน เครือข่ายมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ กลุ่มองค์กรพัฒนาชุมชน ผู้บริหารสถานศึกษา และองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ จำนวน 350 คน ร่วมงาน ในการนี้ ได้จัดให้มีเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยเชิญผู้แทนจากภาคีต่างๆ ร่วมเสวนา ประกอบด้วย พระครูปิยลีลาจารย์ วัดป่าบ้านค้อ นายแสวง ศรีธรรมบุตร ประธานศูนย์กสิกรรมธรรมชาตินาเวียง นายปริญญา นาเมืองรักษ์ ประธานเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ.รพีพรรณ จันทรสา รองผู้อำนวยการสำนักศิลปและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ไม่เพียงแต่ด้านสาธารณสุขเท่านั้น แต่รวมไปถึงด้านเศรษฐกิจ และสังคม จากมาตรการล็อกดาวน์ที่ถูกนำมาใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในทุกภาคส่วนต้องหยุดชะงักลง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ร่วมกับมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และภาคีเครือข่ายภาคส่วนต่าง ๆ ทั้ง 7 ภาคี โดยเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคม ด้วยความเชื่อมั่นว่า หลักทฤษฎีใหม่ และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหนทางที่จะทำให้ประเทศชาติรอดพ้นวิกฤตและเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน เพราะฉะนั้นสิ่งที่กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และพวกเราทุกคนได้มาร่วมกันในวันนี้ คือ สิ่งที่รัฐบาลให้ความเห็นชอบ ว่าให้น้อมนำเอาหลักทฤษฎีใหม่ ของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาประยุกต์สู่ รูปแบบโคกหนองนา จะช่วยทำให้พวกเรามีความมั่นคงในชีวิตและจะช่วยทำให้ประเทศไทยของเรากลายเป็นครัวโลกกลายเป็นที่ร่มเย็นเป็นสุข


กรมการพัฒนาชุมชนจึงได้รับอนุมัติงบประมาณให้มาดำเนินการในการที่จะเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมเข้าร่วมโครงการแล้วก็ช่วยกันในการที่จะทำพื้นที่ของตนเองให้เป็นแบบลุงแหวง ซึ่งลุงแหวงเป็นต้นแบบที่ดีของการนำพื้นที่มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับตนเอง และชุมชน แต่อย่างไรก็ดีอยากจะกราบเรียนพี่ๆน้องๆว่า กรมการพัฒนาชุมชน ไม่ได้รอให้เกิดโควิด-19 ถึงได้น้อมนำเอาทฤษฎีใหม่ของพระเจ้าอยู่หัวมาดำเนินการสู่พี่น้องประชาชน เราได้ทำมาก่อนหน้านี้แล้ว รวมทั้งที่ศูนย์ฯ แห่งนี้ด้วยก็เป็นผลิตผลของความตั้งใจที่จะทำให้ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนของกรมการพัฒนาชุมชนกระทรวงมหาดไทยทั้ง 11 แห่ง ที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เป็นศูนย์เรียนรู้ในการน้อมนำเอาหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์มาสู่โคกหนองนาโมเดล เพื่อเป็นที่เรียนรู้และเป็นต้นแบบ บวกกับครัวเรือนที่มีหัวคิดก้าวหน้า เช่น ลุงแหวง รวมถึงคนที่ได้สมัครเข้าร่วมโครงการ ในเฟสแรกของเรา 1,500 ครัวเรือน ส่วนหลังโควิด-19 มีเข้าร่วมโครงการ 25,000 ครอบครัว กระจายอยู่ใน 3,400 กว่าตำบล ทั่วประเทศไทย 73 จังหวัด เราได้น้อมนำมาเพื่อที่จะเป็นต้นแบบและประกาศให้รู้ว่า ทางรอดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานแนวคิดไว้ บวกกับพระราชปณิธานอันแน่วแน่ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ที่จะสืบสานรักษาและต่อยอดนั้น มันสามารถทำได้ และสามารถสำเร็จได้โดยไม่ต้องใช้เงินทองมากมาย อยากกราบเรียนพวกเราว่า โชคดีมากที่เราได้อยู่ใต้พระบรมโพธิสมภารของสถาบันพระมหากษัตริย์ ใน 70-80 ปีที่ผ่านมา ได้สั่งสอนพวกเราชาวไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการของกรมการพัฒนาชุมชน ในวโรกาสเสด็จไปทรงกระทำพิธีเปิดเขื่อนและการพลังงานไฟฟ้า แม่น้ำพุง จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2508 ว่า “ขอบใจมาก ที่ต้องเหน็ดเหนื่อยทำงานในหมู่บ้านชนบท และต้องประสบปัญหาต่าง ๆ มากมาย ขอให้ช่วยกันพัฒนาคนให้มีความ ฉลาด สามารถช่วยตัวเองได้ ให้รู้จักใช้และเห็นคุณค่าความเจริญในด้านวัตถุ เช่น รู้จักนำพลังงานไฟฟ้าจากเขื่อนน้ำพุงนี้ใช้ในบ้าน เรือน และการอุตสาหกรรมขนาดย่อม ในการปฏิบัติงาน ชาวบ้านมักมีความหวาดระแวง และเกรงกลัวเจ้าหน้าที่ข้าราชการ ถือว่าเป็นบุคคลภายนอกหมู่บ้าน ไม่ใช่พวกเดียวกัน การเชื่อถือหรือยอมทำตามคำแนะนำส่งเสริมจึงมีน้อย ดังนั้นจะต้องทำให้ชาวบ้านรู้สึกรักและเชื่อถือว่าเราเป็นพวกเดียว กับเขา มีความปรารถนาจะช่วยเขาอย่างแท้จริง เช่น ให้ความรัก ช่วยเหลือเมื่อเดือดร้อน ทำงานให้จริงจัง ซึ่งต้องใช้ความ พยายาม ความอดทน เป็นอย่างมาก ในการแนะนำส่งเสริมอาชีพ หรือให้คำแนะนำเรื่องต่าง ๆ ต้องทำให้บ่อย ๆ ไม่ใช่พูดหรือทำหนเดียว เพราะชาวบ้านมีประเพณีความเคยชินมานาน และเมื่อแนะนำให้ทำอะไรได้แล้ว ต้องช่วยให้เขาขายได้ด้วย มิฉะนั้นเขาจะเสื่อมศรัทธา ไม่เชื่อถือทำต่อไป ขอให้ช่วยกันแนะนำชาวบ้านราษฎรให้ขยันขันแข็ง มีความฉลาด สร้างความมั่นคงให้แก่ครอบครัว ทำงานหารายได้ และเก็บออม ไว้เมื่อถึงคราวจำเป็น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประกันสังคม การสร้างความมั่นคงเป็นปึกแผ่นแก่ครอบครัวชนบทเป็นการป้องกัน ประเทศชาติด้านหนึ่ง อย่าเข้าใจว่าการป้องกันประเทศชาติเป็นหน้าที่ของทหารเช่นสมัยก่อน ความมั่นคงของประชาชนชนบท เป็นส่วนที่จะสร้างชาติและป้องกันประเทศอย่างดี ขอบใจ ขอให้สบายดี โชคดีทุกคน และมีความสำเร็จในการงาน” และที่สำคัญที่สุดก็คือว่า ทำให้เขามีอาชีพที่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ และท่านยังกำชับต่อไปว่า แล้วอย่าลืมเรื่องการตลาดด้วย ซึ่งครั้นเมื่อปี 2531 ทรงมี ส.ค.ส. พระราชทาน เตือนให้เรารู้กันว่า เราอยู่ท่ามกลางลูกระเบิด และลูกระเบิดเขียนกำกับไว้ว่า ภัยจากสงคราม ภัยจากโรคระบาด ภัยจาก ความตกต่ำของเศรษฐกิจไทย ภัยจากความแตกแยก ซึ่งเต็มไปหมด แล้วท่านบอกว่าเราจะอยู่รอดปลอดภัยด้วยเศรษฐกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่ 2 สิ่งนี้จะทำให้ชาติไทยเราอยู่รอดปลอดภัย

ผมอยากจะขอความกรุณาจากพี่ๆน้องๆที่อยู่ที่นี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านนายอำเภอ ท่านพัฒนาการจังหวัด พัฒนาการอำเภอ และท่านผู้นำที่เป็น บัวพ้นน้ำทั้งหลายก็คือว่า ประเทศเราจะมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืนไม่ได้ ถ้าพวกเราไม่มีความรักสามัคคี ไม่ช่วยเหลือ ไม่เกื้อกูล ซึ่งเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น มีขั้นตอนในการดำเนินการที่สำคัญที่ อยู่ในลำดับต้นก็คือว่า พวกเราต้องช่วยเหลือตนเองให้ได้ก่อน ขั้นที่ 2 และที่ 3 ก็คือ ให้รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ทำบุญทำทาน เพราะฉะนั้นก็ขอฝากว่า ขอให้พวกเราทุกคนที่รู้ข้อมูลข่าวสารแล้วก็เป็นผู้นำอยู่แล้วได้ช่วยกันประคับประคองให้สปช.อุดรธานี และอีก 11 แห่ง บวกกับ ครัวเรือนต้นแบบทั้งหลายที่เข้าร่วมโครงการนั้นได้ช่วยกันให้กำลังใจ ช่วยกันในการร่วมมือ ให้คำแนะนำ ช่วยกันในการที่จะนำพาให้ครัวเรือนอื่นๆ ได้มีโอกาสเข้าร่วม เริ่มตั้งแต่ เรื่องของการปลูกพืชผักสวนครัวไว้รับประทานในครอบครัว ดูแลบริหารจัดการเรื่องของขยะในครัวเรือน จนก้าวเข้าไปสู่ การน้อมนำเอาทฤษฎีใหม่มาประยุกต์สู่โคกหนองนาโมเดล เพื่อพัฒนาพื้นที่ให้ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต ของพวกเราทุกคนต่อไป

ทั้งนี้ กิจกรรมเอามื้อสามัคคี เป็นกิจกรรมหนึ่งตามรอยศาสตร์พระราชา ซึ่งเป็นการบริหาร แบบคนจน โดยเริ่มจากใครมีอะไรก็มาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำให้เกิดความรักความสามัคคี ในหมู่พี่น้องประชาชนด้วยกัน ซึ่งความสามัคคีนี้เองจะทำให้ประเทศชาติของเราได้หลุดพ้นวิกฤติหลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นวิกฤติทางเศรษฐกิจ วิกฤติภัยพิบัติธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วิกฤติความขัดแย้งทางสังคม และวิกฤติโรคระบาดที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ขอขอบคุณคณะผู้จัดกิจกรรมในครั้งนี้ รวมทั้งพี่น้องเครือข่ายพัฒนาชุมชนที่มาร่วมกิจกรรม ขอให้ท่านได้นำแนวคิดการเอามื้อสามัคคีในครั้งนี้ ไปขยายผลให้พี่น้องประชาชนที่ไม่ได้มาร่วมกิจกรรมได้นำไปปฏิบัติเพื่อให้ประเทศชาติของเรามีความรักความสามัคคี หลุดพ้นวิกฤติทั้ง 4 ด้าน ดังที่กล่าวมาในเบื้องต้น” อธิบดี พช. กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีที่ไม่เกี่ยวกับบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แจงระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชี ยังคงทำธุรกรรมได้ปกติ ส่วนบัญชีม้าจะไม่ปลดล็อกเด็ดขาด พร้อมแจงการอายัดบัญชีทำได้เฉพาะกรณีที่มีหมายจากตำรวจเท่านั้น ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมการดำเนินมาตรการเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวในบัญชีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีกรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชีแต่อย่างใด ซึ่งบัญชีธนาคารนั้นยังคงสามารถทำธุรกรรมได้อยู่ตามปกติ ในส่วนของการอายัดบัญชีเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการอายัดบัญชี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีหมายอายัดเท่านั้น ทั้งนี้ […]

จนท.ห้ามล่าสัตว์ป่า หายตัวปริศนา 3 วัน หลังไปขายลอตเตอรี่

อุทัยธานี 14 ก.ย.- แม่เศร้าลูกชาย ซึ่งเป็น จนท.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา หายตัวปริศนา 3 วัน หลังออกเวรไปเร่ขายลอตเตอรี่ แต่จนถึงขณะนี้ ยังติดต่อไม่ได้ นางจำรัส อายุ 57 ปี ชาวบ้านบึงเจริญ หมู่ 9 ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี นำเบาะแส เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด มอบให้สื่อมวลชน ช่วยเป็นกระบอกเสียง ในการตามหาลูกชาย คือนายเอกฉัตร อายุ 39 ปี ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา ต.ระบำ อำเภอลานสัก จ.อุทัยธานี หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนาน 3 วัน โดยภาพวงจรปิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน นายเอกฉัตรนำแผงลอตเตอรี่มาขาย ที่ร้านของชำของแม่ ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ สีแดงออกไป กระทั่งล่าสุด วันที่ 11 กันยายน กล้องอีกจุดจับภาพนายเอกฉัตร ขี่รถจักรยานยนต์ สีเขียว ทะเบียน 1ขอ […]

ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 600 ต่อปี

14 ก.ย.- ตำรวจสอบสวนกลาง ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 600 ต่อปี พบเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 30 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง บุกจับนายณัฐพงษ์ อายุ 36 ปี นายวิเนตร อายุ 28 ปี และนายธีรวุฒิ อายุ 34 ปี ที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต และเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมของกลางหลายรายการ หลังมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสเครือข่ายเงินกู้นอกระบบเก็บดอกเบี้ยถึงร้อยละ 626.25 ต่อปี กลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย ที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนถูกกฎหมายได้ ผู้กู้ไม่ต้องใช้หลักฐานยืนยันตัวตนไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน โอนเงินให้ผู้กู้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ไปบัญชีธนาคารของผู้กู้ โดยหักยอดเงินกู้เป็นดอกเบี้ยงวดแรก และงวดสุดท้ายไว้ก่อน หากผิดนัดชำระหนี้ ก็จะไประรานลูกหนี้อย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย. -สำนักข่าวไทย

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย กกต.คาดรู้ผลก่อน 3 ทุ่ม

เชียงราย 14 ก.ย.- กกต. คาดผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย 65% เหตุอากาศเป็นใจ พบประชาชนตื่นตัวมารอใช้สิทธิแต่เช้า รู้ผลก่อน 3 ทุ่มคืนนี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 7 จังหวัดเชียงราย ว่า ภาพรวมเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมารอใช้สิทธิทั้ง 2 หน่วยภายในโรงเรียนบ้านสบคา ซึ่งวันนี้สภาพอากาศเป็นใจท้องฟ้าปลอดโปร่ง หากเป็นไปเช่นนี้จะมีส่วนทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดีที่อากาศเอื้ออำนวยในการออกเสียงเลือกตั้งวันนี้ ซึ่งมีตั้งเป้าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละ 65 แม้จะเป็นงานยาก เพราะมีเงื่อนไขในเรื่องของกำหนดเวลายุบสภา แต่ด้วยความร่วมมือของทั้งพรรคการเมืองและผู้สมัคร และทางจังหวัดเชียงราย กกต.จังหวัดเชียงราย คาดว่าตัวเลขผู้ออกมาใช้สิทธิจะใกล้เคียงเป้าที่ได้ตั้งเป้าไว้ สำหรับรายงานผล เมื่อปิดหน่วยในเวลา 17.00 น. กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจะมีการตรวจบัตรและนับคะแนน คาดว่าจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการในเวลาประมาณ 20.00 – 21.00 น. ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยระบุว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของชาวจังหวัดเชียงราย และเลขา กกต.ได้มาตรวจเยี่ยมการเลือกตั้งซ่อม สส.เขตเลือกตั้งที่ 7 พร้อมเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะเป็นหน้าที่ เลือกคนดีเข้าสภาเป็นหน้าที่ของชาวจังหวัดเชียงราย […]