อธิบดี พช. กำชับจังหวัดเร่งรัดการจัดซื้อจัดจ้างโครงการโคกหนองนาโมเดล

3 ก.ค. – อธิบดี พช. กำชับทุกจังหวัดเร่งรัดการจัดซื้อจัดจ้างโครงการ “โคก หนอง นา โมเดล” ย้ำต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน


เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า จากที่มีการนำเสนอข่าวโครงการโคกหนองนาโมเดล ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม พบการขุดปรับพื้นที่แปลงของเกษตรกร ตำบลแคน อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม ผู้รับเหมาขุดผิดแบบ จึงมีข้อสงสัยว่าเหตุใดทางอำเภอจึงเลือกผู้รับเหมาที่ไม่มีความสามารถมาทำโครงการ ซึ่งเป็นการจัดซื้อจัดจ้างวิธีเฉพาะเจาะจง ขณะที่ผู้รับเหมาโครงการระบุว่า ปัญหาการคิดคำนวณค่าจ้างขุด เป็นปัญหาสำคัญของโครงการนี้ พร้อมอ้างว่าเจ้าหน้าที่ขอร้องให้นำรถขนดิน มาถ่ายภาพกับแปลงที่ขุด เพื่อเบิกเงินค่าทอยดินเพิ่ม ทั้งที่การทำงานจริงบางพื้นที่ใช้รถขนดินไม่ได้ รวมทั้งการเบิกจ่ายที่มีความล่าช้า แม้จะมีการส่งมอบงานไปแล้วนั้น

กรมการพัฒนาชุมชนได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากจังหวัดมหาสารคามแล้ว พบว่า โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคกหนองนาโมเดล” (งบเงินกู้) จังหวัดมหาสารคาม ได้รับการจัดสรรงบประมาณดำเนินการในพื้นที่ 11 อำเภอ 85 ตำบล รวมทั้งสิ้น 635 แปลง (พื้นที่ 3 ไร่) ดำเนินการขุดปรับพื้นที่เรียบร้อยแล้ว 587 แปลง เบิกจ่ายเงินแล้ว 390 แปลง อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารส่งเบิก 197 แปลง กำลังดำเนินการขุดปรับพื้นที่ 12 แปลง และยังไม่ดำเนินการขุด 36 แปลง และโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 จังหวัดมหาสารคาม ได้รับการจัดสรรงบประมาณดำเนินการทั้งสิ้น 324 แปลง แยกเป็นพื้นที่ 3 ไร่ จำนวน 105 แปลง และพื้นที่ 1 ไร่ 219 แปลง ดำเนินการขุดปรับพื้นที่เรียบร้อยแล้ว 316 แปลง เบิกจ่ายเงินแล้ว 237 แปลง อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารส่งเบิก 79 แปลง กำลังดำเนินการขุดปรับพื้นที่ 4 แปลง และยังไม่ดำเนินการขุด 4 แปลง


การดำเนินงานโครงการดังกล่าว พบว่าได้มีการดำเนินการขุดปรับพื้นที่เสร็จเรียบร้อยแล้วเป็นจำนวนมาก แต่ผลจากการเบิกจ่ายงบประมาณยังน้อยและมีความล่าช้า ในขั้นตอนการรวบรวมเอกสารรายงานผลจากช่างผู้ควบคุมงาน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้สั่งการให้นายอำเภอดำเนินการติดตามเร่งรัดผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเบิกจ่ายงบประมาณให้กับผู้รับจ้างโดยเร็ว พร้อมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้รับจ้างทุกราย โดยในเบื้องต้น ผู้รับจ้างมีความเข้าใจเป็นอย่างดีแล้ว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบกับผู้เข้าร่วมโครงการที่ถูกนำมาอ้างในข่าว คือ นางหนูเกิด ศรีนนเรือง บ้านแวงชัย หมู่ 3 ตำบลแคน อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งได้ยืนยันแล้วว่าการดำเนินการเสร็จเรียบร้อย เป็นไปตามแบบที่ตนเองต้องการหรือตามหลักภูมิสังคมแล้ว และเมื่อมีการดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สวยงามถูกใจตนเองมาก ที่สำคัญสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในการเพาะปลูกหรือเลี้ยงปลาได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ทางคณะกรรมการก็ตรวจรับไปแล้ว ไม่ได้มีปัญหาตามที่ถูกนำไปอ้างถึงแต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่นายโชคชาย โฆตะมะ ตัวแทนผู้รับเหมาโครงการโคก หนอง นา จังหวัดมหาสารคาม ที่ออกมาให้ข่าวว่า ตนได้รับเงินค่าขุดดินตามโครงการฯ น้อยจากงบประมาณที่ตั้งไว้นั้น ทางจังหวัดมหาสารคามก็ได้ตรวจสอบข้อมูลการขุดปรับพื้นที่แปลงที่ถูกกล่าวถึงแล้ว พบว่าแปลงดังกล่าวมีพื้นที่ขนาด 3 ไร่ เป็นของผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ คือ นางบัวพัน ทัดวงษ์ บ้านโนนทอง หมู่ที่ 7 ตำบลสันป่าตอง อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม มีรายละเอียดงานขุดปรับพื้นที่ตามรูปแบบรายการ งบประมาณ 104,000 บาท มีปริมาตรดินขุด 4,000 ลูกบาศก์เมตร (งานขุดดินด้วยเครื่องจักร บ่อที่ 1 จำนวน 516 ลูกบาศก์เมตร งานขุดดินขนย้ายระยะทางไม่เกิน 1 กิโลเมตร พร้อมเปรียบปรับแต่งบ่อที่ 1 จำนวน 384 ลูกบาศก์เมตร และงานขุดดินด้วยเครื่องจักร บ่อที่ 2 จำนวน 503.25 ลูกบาศก์เมตร งานขุดดินขนย้ายระยะทางไม่เกิน 1 กิโลเมตร พร้อมเตรียมปรับแต่งบ่อที่ 2 จำนวน 396.75 ลูกบาศก์เมตร งานขุดดินด้วยเครื่องจักร ขุดร่องน้ำ คลองส่งน้ำ คลองไส้ไก่ ความยาว 1.100 เมตร จำนวน 2,200 ลูกบาศก์เมตร)


ซึ่งทางอำเภอนาเชือกได้ทำสัญญาจ้างกับห้างหุ้นส่วนจำกัด บางแก้ว 2009 โดยทางห้างหุ้นส่วนฯ มอบหมายให้ นายโชคชัย โฆตะมะ เป็นผู้นำเครื่องจักรเข้าไปขุดปรับพื้นที่ตามโครงการดังกล่าว และจากการตรวจสอบผลการดำเนินงานขุดปรับพื้นที่ พบว่าผู้รับจ้างได้ทำงานขุดดินตามโครงการ ได้ปริมาตรดินขุดรวมทั้งสิ้น 2,016 ลูกบาศก์เมตร โดยคิดคำนวณปริมาตรจากงานขุดดินด้วยเครื่องจักร บ่อที่ 1 และบ่อที่ 2 และงานขุดคลองไส้ไก่ โดยไม่มีปริมาตรดินจากงานดินขุดขนย้าย ระยะทางไม่เกิน 1 กิโลเมตร พร้อมเกลี่ยปรับแต่ง บ่อที่ 1 และบ่อที่ 2 ตามที่ระบุในรูปแบบรายการมาคิดคำนวณร่วมด้วย แต่เนื่องจากผู้รับจ้างไม่ได้มีการขุดขนย้ายดินดังกล่าวจริง และจากการตรวจแนะนำของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดมหาสารคาม (สตง.) ได้ระบุว่า การเบิกจ่ายค่าขนย้ายดินจะเบิกจ่ายได้ต่อเมื่อ ผู้รับจ้างบริการขนย้ายโดยมีรถบรรทุกมาขนย้ายดินในการทำงานจริงเท่านั้น และต้องมีภาพถ่ายขณะดำเนินการไว้เป็นหลักฐานสำหรับการตรวจสอบด้วย แต่ในแปลงนี้ ผู้รับจ้างไม่มีการขุดขนย้ายดินจริง จึงทำให้ไม่สามารถนำมาเบิกจ่ายเงินให้กับผู้รับจ้างได้ จึงเป็นเหตุให้ผู้รับจ้างไม่พอใจและออกมาเรียกร้องต่อสื่อมวลชนตามข่าวที่ปรากฏ

และเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้เชิญประชุมหัวหน้าส่วนราชการและนายอำเภอ เพื่อหารือข้อราชการที่สำคัญ โดยได้ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ โคกหนองนาโมเดล และโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง โดยเน้นย้ำให้เร่งรัด การเบิกจ่ายงบประมาณให้กับผู้รับจ้างโดยเร็ว และหากมีปัญหา อุปสรรค หรือข้อจำกัดใดๆ ให้รายงานจังหวัดทราบโดยด่วน เพื่อจะได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพต่อไปด้วย

นอกจากนี้ กรมการพัฒนาชุมชน ยังได้กำชับให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด เร่งรัดการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามขั้นตอนและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมทั้งให้ปฏิบัติตามกลไกเฝ้าระวังการใช้จ่ายงบประมาณตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคกหนองนาโมเดล” มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง นายสุทธิพงษ์กล่าวย้ำในตอนท้าย . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้