กทม.17 ส.ค.- “เพื่อไทย “ขอบคุณโหวตผ่านร่างพ.ร.บ.งบ 69 เพราะเป็นหัวใจสำคัญขับเคลื่อนนโยบายถึงประชาชน เล็ง รถไฟฟ้า 20 ตลอดสาย เพิ่มเงินในกระเป๋าให้ประชาชน พร้อมเร่งจัดการภัยพิบัติน้ำอย่างเต็มรูปแบบ หนุนท่องเที่ยวไทย ตั้งเป้า 2.8 ล้านล้าน ผ่านจัดอีเวนต์ใหญ่ทุกรูปแบบ เผย รัฐบาลตั้งศูนย์รับซื้อลำไยเกรด AA กิโลละ 13 บาท ถึง 20 ส.ค. ก่อนหารือ ครม. ช่วยเกษตรกรไร่ละ 1,400 บาท
นางสาวขัตติยา สวัสดิผล รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวประจำสัปดาห์ถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า ต้องขอขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ที่ร่วมร่วมกันผลักดันร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวจนผ่านในวาระที่สองและวาระที่สาม และนี่คือการมองเห็นร่วมกันว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ คือหัวใจสำคัญในการที่จะขับเคลื่อนนโยบายตามสัญญาที่เราให้ไว้กับประชาชน พร้อมกันนี้ ขอขอบคุณพรรคฝ่ายค้าน ที่ได้ร่วมกันให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ แสดงให้เห็นว่า งบประมาณไม่ใช่เรื่องของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของประชาชนทั้งประเทศ ยืนยันงบประมาณปี 2569 ไม่ใช่ตัวเลขที่อยู่ในเอกสาร ไม่ใช่ตัวเลขที่ลอยอยู่ในอากาศ แต่นี่คืองบประมาณที่เราจะนำไปเพื่อวางรากฐานของประเทศ เพื่อนำไปฟื้นฟูเศรษฐกิจ และนำไปแก้ไขปัญหาปากท้องพรรคเพื่อไทย เราจะมุ่งมั่นใช้งบประมาณทุกบาททุกสตางค์อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใสตอบโจทย์ชีวิตของประชาชน
รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวต่อว่า หลังจากร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการพิจารณาของชั้นวุฒิสภา ซึ่งเชื่อว่าวุฒิสภาจะเร่งรัดในการพิจารณา เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลนำงบประมาณไปใช้จ่าย เพื่อที่จะขับเคลื่อนนโยบายอย่างเร็วที่สุด ซึ่งโครงการที่สำคัญที่จะใช้งบประมาณปี 2569 ได้แก่ โครงการ 20 บาทตลอดสาย เพื่อทำให้การเดินทางสะดวก รวดเร็ว และเข้าถึงง่าย ลดรายจ่ายของประชาชนให้มีเงินเหลือใช้ในกระเป๋า นอกจากนี้ เราจะนำไปใช้ในการโครงการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวเศรษฐกิจชุมชน ตั้งเป้ารายได้ ในปี 2569 ที่ 2.8 ล้านล้านบาท ดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ 3.6 ล้านคน เพื่อสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น ผ่านการโปรโมท การจัดอีเวนท์ตลอดปี และจะนำงบประมาณไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุขรองรับสังคมสูงวัย และสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ และนำไปสร้างระบบการดูแลสุขภาพของคนไทยให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม รวมถึงจะนำงบประมาณไปใช้ในการจัดการภัยพิบัติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้ท้องถิ่นมีความพร้อมในการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ เพื่อให้การแก้ไขปัญหา น้ำท่วมน้ำแล้ง ที่เป็นปัญหาเรื้อรังอย่างยาวนาน และส่งผลต่อผลผลิตทางภาคการเกษตร
นอกจากนี้ รัฐบาลได้เริ่มมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวปี 2568/69 โดยการจ่ายเงินช่วยเหลือไร่ละ 1000 บาทสูงสุด 10 ไร่ ครอบคลุมทั้งนาปีนาปัง เริ่มจ่ายงวดแรกตั้งแต่เดือนกันยายนนี้ โดยเงินทั้งหมดนี้จะโอนเข้าบัญชีเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อลดความล่าช้าและต้นทุนในการทำธุรกรรม ส่วนการพยุงราคาลำไย รัฐบาลได้ร่วมกับสมาคมลำไยอบแห้งภาคเหนือ ตั้งจุดซื้อลำไยเกรด AA กิโลกรัมละ 13 บาทจนถึงวันที่ 20 สิงหาคมนี้ และจะเสนอให้ครม. ออกมาตรการช่วยเหลือส่งเสริม ไร่ละ 1,400 บาท โดยทั้งสองมาตรการนี้มีเป้าหมายเดียวกัน คือให้รายได้ถึงมือเกษตรกรอย่างเร็วที่สุด และทางพรรคเพื่อไทยได้กำชับสส. ให้มีการติดตามสถานการณ์ในจุดรับซื้อและปริมาณการรับซื้อ เพื่อนำปัญหานี้มาสะท้อนกับรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกจุดและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด.-319 -สำนักข่าวไทย