“ชลน่าน” ชี้รัฐบาลเสียงข้างน้อยกำลังทำลายหลักการ ปชต.

รัฐสภา 5 ก.ย.- “ชลน่าน” ขอสภาเลื่อนโหวตเลือกนายกฯ หลัง สส.เข้าชื่อให้ ปธ.สภา ส่งศาล รธน.ตีความ ปม “ปชน.-ภท.” เซ็น MOA เข้าข่ายครอบงำหรือไม่ ชี้ รัฐบาลเสียงข้างน้อยกำลังทำลายหลักการประชาธิปไตย


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 159 โดยมีผู้ถูกเสนอชื่อคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย และ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย

โดยที่ประชุมได้อภิปรายคุณสมบัติและความเหมาะสมของผู้ที่ถูกเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมให้เวลาฝ่าย 1 ชั่วโมง


นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า เรากำลังจะพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรีภายใต้ข้อตกลง ระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย โดยการทำข้อตกลงร่วม MOA 5 ประกาศ ซึ่งเห็นว่ามีประเด็นที่ต้องพิจารณา 2 เรื่องหลัก คือ

  1. เรื่องคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะเข้าสู่ตำแหน่ง
  2. กระบวนการซึ่งได้มาในการนำเสนอบุคคลที่จะเข้าสู่ตำแหน่ง

ตนขอเน้นในประเด็นที่ 2 เพราะเกี่ยวเนื่องกับสภาผู้แทนราษฎรโดยตรงถ้ากระบวนการที่ได้มาไม่ชอบ มีผลมากกว่าคุณสมบัติของคนที่จะได้รับเลือก

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า กระบวนการที่ได้มาตนมองมี 3 ประเด็น คือ 1.ขัดหลักการประชาธิปไตย 2. ขัดรัฐธรรมนูญ 3. ผิดข้อกฎหมาย


โดยการที่มีข้อตกลงของพรรคประชาชนพรรคภูมิใจไทย 5 ข้อ ให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยพรรคประชาชนจะไม่ร่วมเป็นรัฐบาล ไม่ร่วมตำแหน่งรัฐมนตรี และพรรคภูมิใจไทยต้องไม่ไปรวมเสียงข้างมากมี 146 ก็ต้อง 146 เสียง ข้อตกลงเยี่ยงนี้จริงอยู่รัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นได้ แต่หลักการสำคัญตามหลักการประชาธิปไตย การปกครองด้วยเสียงข้างมากต้องเคารพเสียงข้างน้อย แต่ปรากฏว่าหลักการนี้กำลังถูกทำลายเพื่อให้ได้มาซึ่งคนหนึ่งคนเป็นนายกรัฐมนตรี

“การที่ไปรวมเสียงลักษณะนี้ ทำให้เกิดการปกครองเสียงข้างน้อยและบอกว่าจะควบคุมการปกครองเสียงข้างน้อย โดยพรรคฝ่ายค้านจะใช้สภาแห่งนี้ในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ และยื่นได้เพราะมี 143 เสียง แต่ลงมติท่านก็ได้ 143 เสียง ไว้วางใจเขาได้หรือ เสียงเขามี146 เสียงแล้วมันคุมเขาอย่างไร” นายแพทย์ชลน่าน กล่าว

นายแพทย์ชลน่าน ยังกล่าว ที่สำคัญเสียงข้างมาก 14ล้านเสียงที่ประชาชนมอบให้พรรคประชาชน 1 ล้านเสียงมอบให้พรรคภูมิใจไทย 14 ล้านเสียงให้ท่านเป็นรัฐบาล ท่านเป็นไม่ได้ท่านเป็นฝ่ายค้านแต่ท่านกำลังยก 14 ล้านเสียงไปให้ 1 ล้านเสียง นี่คือการทำลายหลักการสำคัญของหลักการประชาธิปไตย การเปิดช่องแบบนี้จะเป็นการทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ สิ่งที่น่าเศร้าที่จะเกิดขึ้นต่อไปหลังจากนี้ หลังลงคะแนนถ้าประกาศนายอนุทิน ได้รับความเห็นชอบจากสภา เมื่อแต่งตั้งเสร็จแล้วก็นับ 1 ระบบรัฐสภา นั่นคือ เรายอมรับระบบที่เข้ามาครอบงำอำนาจทุกอย่าง ถ้ายอมก็ยอมไปแต่ตนเองไม่ยอมจะสู้ให้ถึงที่สุด

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือขณะนี้ สส. ได้เข้าชื่อกันไม่น้อยกว่า 1ใน10 มากกว่า 50 คน ได้ทำเรื่องถึง ประธานสภาฯ เมื่อ11.38 น.ของวันนี้ (5 ก.ย.) ให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญถึง กระบวนการที่เราพิจารณาให้ความเห็นชอบเลือกนายกรัฐมนตรี สิ่งที่เป็นเหตุผลอ้างไป คือ การที่พรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทยไปมีข้อตกลงร่วมกัน โดยในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 114 ระบุว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมาย หรือครอบงำใดๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศและความผาสุกของประชาชนโดยรวม โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ถามว่า MOA นี้ เพื่อประโยชน์ใคร เพื่อประโยชน์ของพรรคประชาชนหรือนายอนุทินหรือไม่ ตนไม่ต้องตอบแต่สมาชิกสภาแห่งนี้ตอบได้ ทุกสำนักบอกว่าหากมีการยุบสภาเลือกตั้งพรรคไหนจะมีคะแนนเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือพรรคประชาชน เพราะฉะนั้นไม่เป็นประเด็นอะไรเลยไม่มีข้อสงสัยเลยว่าทำไมพรรคประชาชนจึงต้องเรียกร้องให้มีการยุบสภา เพราะต้องการอำนาจจากประชาชนจึงเป็นอำนาจชอบธรรม ตนไม่ได้บอกว่าผิดแต่การกระทำโดยวิธีการแบบนี้เพื่อให้มีการยุบสภาแล้วได้มาซึ่งอำนาจอันชอบธรรมนั้นกระบวนการชอบหรือไม่ การที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายกฯ แพทงอฑาร เพียงแต่พูดยังไม่ได้กระทำ แต่ลงโทษถึงร้ายแรง ส่วนเรื่องนี้คือเจตนาเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจส่วนนั้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่เป็นห่วงที่สุดคือเมื่อครอบงำชี้นำสมาชิกมันจะเข้าข่ายเป็นการล้มล้างระบบปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามหลักการของการปกครองระบอบประชาธิปไตย เพราะไปครอบงำชี้นำให้สมาชิกมากระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจไม่ชอบทำ นี่คือคำร้องในหนังสือฉบับดังกล่าว ส่วนศาลรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่รับตนไม่รู้ แต่มีความจำเป็นต้องทักท้วง เพราะเราไม่อยากให้สภาฯ แห่งนี้กระทำผิดบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ถ้าเราทำผิดกระบวนการแล้วทุกอย่างในประเทศนี้ไม่ต้องมุ่งหวังพึ่งหวังอะไร ประชาชนพึ่งหวังเลือกตัวแทนเข้ามาแต่เรากลับมอบอำนาจนี้ให้อำนาจอื่นเข้ามา แล้วทำแบบนี้ นี่คือสิ่งที่เป็นหลักการสำคัญ 2 เรื่อง ที่ตนอยากบอกว่าขัดหลักการประชาธิปไตย และครอบงำตามมาตรา 114

สิ่งที่ดำเนินการขณะนี้เป็นเหตุให้ตามข้อกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 46  ทำให้ได้มาซึ่งประโยชน์ในสิ่งอื่นใด การคาดหวังว่าจะได้รับเลือกตั้ง ได้รับโอกาสที่ดีขึ้น การดำเนินการให้บุคคลคนหนึ่งซึ่งไม่มีโอกาสเลยที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยเสียงที่มีอยู่ขณะนี้ได้เป็นนายกฯและมีข้อตกลงกันแบบนี้มันเข้าข่ายหรือไม่ จะผิดมาตรา 46 ตามข้อกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่ การที่พรรคภูมิใจไทยไปลงนามใน MOA และพรรคประชาชนบอกว่าพรรคภูมิใจไทยต้องทำแบบนี้ ซึ่งชัดแจ้งแล้วไม่ต้องไปเอาพยานหลักฐานจากที่ไหนบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคไปชี้นำครอบงำให้พรรคการเมืองดำเนินการตามที่เขาต้องการถือเข้าข่ายหรือไม่ นี่คือสิ่งที่ตนมีข้อกังวลกระบวนการที่ไม่ชอบ ตนอยากให้ประธานสภาพิจารณา ซึ่งตนเลือกนายชัยเกษม สมาชิกหลายคนอาจจะเลือกนายอนุทิน แต่หากมีข้อกังวลข้อห่วงใยแบบนี้และเรื่องกำลังดำเนินการอยู่ หากมีการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้วการให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ควรจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งหากตนเป็นประธานตนจะนำเรื่องนี้มาวินิจฉัย กระบวนการการเลือกอาจต้องระงับยับยั้งไปก่อนให้สมาชิกอภิปรายให้ถึงที่สุด แล้วรอเรื่องนี้ว่าศาลจะว่าอย่างไร หากศาลไม่รับก็กลับมาลงมติกันถือว่าจบ แต่หากศาลรับมีเหตุอันเชื่อได้ว่าคำร้องเป็นจริง ก็เป็นการสมควรที่จะระงับการเลือกบุคคลหรือให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมควรดำรงตำแหน่งนายกมติไว้ก่อนจนกว่ากระบวนการทางศาลรัฐธรรมนูญจะสิ้นสุด นี่คือสิ่งที่สภาแห่งนี้พึงกระทำไม่ได้ขัดขวาง ตนอยากให้มีนายกฯ เร็วที่สุดเพื่อเข้ามาดูแลประเทศชาติบ้านเมืองแต่กระบวนการได้มาต้องชอบด้วยหลักประชาธิปไตย ชอบด้วยหลักรัฐธรรมนูญและกฎหมาย .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย